‘สมคิด’ ดึง ‘อาลีบาบา’ ดันเกษตรกรไทยก้าวสู่ ‘สมาร์ท ฟาร์มเมอร์’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 ธ.ค. 2559 13:35

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/805526

 

‘สมคิด’ โรดโชว์จีน เผย ‘แจ็ค หม่า’ ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ตกลงเข้ามาช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทย และชาวบ้าน รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอี ให้ทำการค้าจากท้องถิ่นไทยสู่ตลาดโลก และใช้อีอีซีของไทยเป็นฐานอีคอมเมิร์ซให้กลุ่มซีแอลเอ็มวี

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.59 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานร่วมกับนายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา บริษัท อีคอมเมิร์ซ รายใหญ่ของจีน และได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับบริษัทอาลีบาบา ในระหว่างการโรดโชว์สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 7-12 ธ.ค. ว่า การมาพบบริษัทอาลีบาบาครั้งนี้ เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทอาลีบาบา เหมือนที่บริษัทอาลีบาบาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลจีน ในการพัฒนาประเทศของเขา โดยความร่วมมือนี้มีจุดประสงค์ใหญ่เพื่อพัฒนาความสามารถทางเศรษฐกิจของประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ในยุคไทยแลนด์ 4.0

ทั้งนี้ ประเด็นที่จะร่วมมือกัน ทางบริษัทอาลีบาบาตกลงให้การสนับสนุนร่วมกันคือ เรื่องของเทคโนโลยีด้านดิจิตอล และการพัฒนาสนับสนุนคนไทย เกษตรกรไทย ตั้งแต่ในระดับชุมชน ในระดับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และบริษัทที่เริ่มส่งออกได้ ให้มีความรู้ความสามารถในการใช้การค้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในเศรษฐกิจท้องถิ่นของไทย หรือ local economy ที่เขาจะมาช่วยพัฒนา คือ การมาพัฒนาในระดับหมู่บ้าน มาช่วยพัฒนาเกษตรกรให้เป็นสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ ให้รู้จักใช้ข้อมูลข่าวสารในรูปอินเทอร์เน็ต ให้รู้จักการบริหารอุปสงค์อุปทาน รวมทั้งการสอนเกษตรกรให้รู้จักการพัฒนาเว็บไซต์และการค้าผ่านอีคอมเมิร์ซในหมู่บ้าน เพื่อในอนาคตข้างหน้าเกษตรกรในระดับชุมชนหรือหมู่บ้าน จะสามารถทำการค้ากับโลกได้

นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทอาลีบาบากำลังช่วยรัฐบาล จึงเข้าไปใน 20,000 หมู่บ้านในประเทศจีน เข้าไปพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อช่วยสอนชาวบ้านและเกษตรกรทำการค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะส่งผลให้คนจนและเกษตรกรของจีนไม่ละทิ้งถิ่นฐาน และเข้ามาหางานทำในเมือง ซึ่งจะเกิดการสร้างงาน และพัฒนาเศรษฐกิจภายในหมู่บ้านให้เจริญขึ้นมาได้ด้วยสิ่งเหล่านี้ เป็นการระเบิดจากภายใน และคือสิ่งที่อธิบายถึงการจะเข้ามาสนับสนุนรัฐบาลไทย

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ของไทยและบริษัทอาลีบาบา มีข้อตกลงที่จัดตั้งสถาบันหรือ academy ขึ้นมาภายในประเทศไทย เพื่อที่จะพัฒนาความสามารถในด้านดิจิตอลและเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งการจัดตั้งสถาบันดังกล่าวจะไม่เพียงสนับสนุนให้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่จะเป็นสถาบันที่เป็นศูนย์กลางการสนับสนุนให้กับกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี  ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เสมือนเป็นการเกื้อกูลให้กับประเทศข้างเคียงของไทยด้วย

ขณะเดียวกัน นายแจ็ค หม่า ยังแสดงความสนใจการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซีของไทย โดยเขาต้องการที่จะมาสร้างอี-โรด ให้เกิดขึ้นในอีอีซี  เปรียบเสมือนคือถ้ามีรถไฟก็ต้องมีสถานีรถไฟ ถ้ามีการเดินเรือก็จะต้องมีท่าเรือ ฉะนั้นถ้ามีอี-คอมเมิร์ซ ก็จะต้องมีสถานีรองรับ เพื่อดูแลธุรกิจอีคอมเมิร์ซเช่นกัน ซึ่งนายแจ็ค หม่า บอกว่าต้องการใช้อีอีซีเป็นฮับหรือศูนย์กลางการขนส่งอีคอมเมิร์ซให้กับกลุ่มซีแอลเอ็มวี ไม่เพียงเฉพาะประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับหลักการเชิงยุทธศาสตร์ของไทยที่ต้องการให้เกิดการเกื้อกูลกันและกันกับประเทศเพื่อนบ้าน และที่สำคัญการหารือกับอาลีบาบา ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องธุรกิจใดๆ ทั้งสิ้น

“การเดินทางมาพบกับบริษัทอาลีบาบาครั้งนี้ ถือว่าเรามาได้ถูกเวลาและมาได้เร็วกว่ามาเลเซีย ซึ่งมาเลเซียพยายามเข้าถึงเช่นกัน และเมื่อได้เข้าไปดูงานของบริษัทอาลีบาบาแล้ว ตนเองรู้สึกถูกใจมาก เพราะอาลีบาบาได้โชว์ให้เห็นว่าทางบริษัทได้เข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ในต่างจังหวัดของจีน โดยเขาสามารถพัฒนาร้านค้าชุมชนขนาดเล็กให้เป็นร้านค้าที่สามารถเชื่อมโยงการค้ากับตลาดโลกได้ ซึ่งสิ่งนี้ตรงกับที่รัฐบาลไทยต้องการสร้างให้เกิดขึ้นมา นอกจากนั้น อาลีบาบายังได้เตรียมไปช่วยเหลือชาวบ้านอินเดียในรูปแบบเดียวกัน เพราะขณะนี้ทุกประเทศต่างมองเห็นว่าต้องพัฒนาเศรษฐกิจจากภายในเหมือนกัน” นายสมคิด กล่าว.

 

Leave a comment