ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 9 ธ.ค. 2559 06:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/806022

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ว่าได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ไปทำแผนการดำเนินงานในภาพรวมของโรงไฟฟ้าถ่าน หิน จังหวัดกระบี่ รวมถึงนำเสนอผลสำรวจความเห็นประชาชนในพื้นที่ต่อการประชุมเดือน ม.ค.60 เพื่อให้ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าหรือยุติก่อนรายงานครม. “หากโรงไฟฟ้ากระบี่สร้างไม่ได้ ผมก็ทำแผนสำรองไว้แล้วโดยจะนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี แต่จะมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงกว่าถ่านหิน และทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น แต่ กฟผ.ได้เตรียมสร้างสายส่งไฟฟ้าไปภาคใต้เพิ่มขึ้นแล้ว เพราะกำลังผลิตไฟฟ้าในภาคใต้มีปริมาณต่ำกว่าความต้องการใช้ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องใช้ถ่านหิน ก็เพื่อกระจายการใช้เชื้อเพลิงให้หลากหลาย เพราะไทยใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้ามากถึง 70%แล้ว”
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กพช.ได้เห็นชอบให้ทบทวน และปรับประมาณการความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติตามแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติของปี 2558-2579 หรือ 20 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าปี 79 ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติจะอยู่ที่ 5,062 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ขณะที่การจัดหาก๊าซธรรมชาติ ในอ่าวไทยจะลดลงจนทำให้ไทยต้องนำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้น คาดว่าในปี 65 จะมีการนำเข้า 17.4 ล้านตันต่อปี เพิ่มขึ้นจากที่คาด 13.5 ล้านตันต่อปี และปี 79 การนำเข้าจะสูงถึง 34 ล้านตันต่อปี
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบาย และแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวถึงแนวโน้มการใช้พลังงานในปี 60 ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1% ตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัว โดยคาดว่าพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ระดับ 205,433 ล้านหน่วยเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 3.8% ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) จะอยู่ที่ระดับ 31,365 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้น 1.3%เมื่อเทียบกับปีนี้ ส่วนราคาน้ำมันในปี 60 น่าจะอยู่ระหว่าง 50-55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล.