คิงฟรุทส์ ชี้ตลาด “กล้วยหอมทอง” โตไม่ยั้ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05047010859&srcday=2016-08-01&search=no

วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 628

เทคโนฯ เกษตร

สาวบางแค 22

คิงฟรุทส์ ชี้ตลาด “กล้วยหอมทอง” โตไม่ยั้ง

หลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไม นักกีฬาจึงนิยมกินกล้วยหอมสุกระหว่างพักการแข่งขัน คำตอบก็คือ กล้วยหอมเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง เพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและสมอง ไม่ว่าจะเป็นสารโพแทสเซียม แมกนีเซียม และเส้นใยสูง จึงเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือด บำรุงประสาท ทำให้รับส่งสัญญาณประสาทเร็วขึ้น ตัดสินใจได้อย่างฉับพลันแม่นยำและย่อยง่าย

หากใครต้องการกินกล้วยหอมเพื่อเพิ่มพลังงานยามบ่าย แค่กินกล้วยหอม 2 ลูก ก็จะได้พลังงานเพียงพอต่อการทำงานได้นานถึง 90 นาที เพราะกล้วยหอมสุกผลใหญ่ 1 ลูก มีน้ำตาล 23 กรัม (น้ำตาลซูโคส ฟรุกโทส และกลูโคส) และแป้ง 2 กรัม กล้วยหอมจึงเป็นผลไม้มหัศจรรย์ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับนักกีฬาที่ต้องใช้พละกำลัง และใช้เวลาแข่งขันนานๆ นักกีฬาหลายคนจึงนิยมหยิบกล้วยหอมมานั่งกินยามนั่งพักเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายอย่างรวดเร็ว

จับกระแสตลาด

กล้วยหอม กับ “คิง ฟรุทส์”

ผู้เขียนมีโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการกล้วยหอมทองรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ ที่รู้จักกันดีในชื่อ บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด ที่มีเนื้อที่ปลูกกว่า 3,000 ไร่ ผลิตกล้วยหอมทองคุณภาพเยี่ยมเกรดส่งออก ยี่ห้อ “BANANA KING” ป้อนตลาดปีละ 6,000 ตัน ส่งขายตลาดไท ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สายการบิน และวางแผนส่งกล้วยหอมสัญชาติไทยไปแจ้งเกิดในหลายประเทศทั่วโลกในเร็วๆ นี้

คุณเกรียงศักดิ์-คุณเสาวณี วิเลปะนะ สองสามีภรรยาเจ้าของบริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัดยืนยันว่า “กล้วยหอมทอง” เป็นสินค้าที่มีลู่ทางเติบโตสดใส เพราะมียอดขายขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อปีที่แล้ว มียอดขายรวม 150 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่า ยอดขายแตะ 200 ล้านบาท เหตุเพราะกล้วยหอมทองเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย และราคาไม่แพงตลาดยังต้องการกล้วยหอมทองเป็นจำนวนมาก ยิ่งผลิตได้คุณภาพดี ราคาขายก็พุ่งสูงตามไปด้วย เรียกว่า เป็นโอกาสทองของเกษตรกรที่จะลงทุนปลูกกล้วยหอมทอง เพื่อทำกำไรได้ในอนาคต

“ปัจจุบัน กล้วยหอมราคาดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเรียกว่า ขยายพื้นที่ปลูกเท่าไหร่ ก็ยังผลิตไม่พอขาย เพราะตลาดเติบโตขึ้นทุกปี ยิ่งปีนี้เจอปัญหาภัยแล้ง มีผลผลิตเข้าตลาดน้อย ทำให้ราคากล้วยหอมพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมายิ่งช่วงเทศกาลสำคัญเช่น ตรุษจีนสารทจีนเช็งเม้งกินเจ กล้วยหอมทองยิ่งขายดีเป็นพิเศษ” คุณเกรียงศักดิ์กล่าว

จุดเริ่มต้น

ธุรกิจ “คิงฟรุทส์”

คุณเกรียงศักดิ์ เล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า คุณเกรียงศักดิ์และภรรยาเรียนจบสาขาเกษตรจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ อำเภอบางพระ จังหวัดชลบุรี หลังจากเรียนจบ เขากลับมาสืบทอดกิจการ “สวนส้มเขียวหวาน” ของครอบครัวที่ตั้งอยู่ในตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ต่อมาปี 2540 เจอปัญหาผลส้มร่วง จากโรคกรีนนิ่ง เขาจึงปรับพื้นที่สวนส้มมาปลูกผักสวนครัว และกล้วยหอมทอง จำนวน 30 ไร่ ปรากฏว่า กล้วยหอมให้ผลตอบแทนที่ดี เขาจึงมุ่งขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองเป็นหลัก โดยเก็บผลผลิตส่งขายพ่อค้าคนกลาง

ต่อมาคุณเกรียงศักดิ์ได้เช่าพื้นที่ที่ตลาดไท เปิดแผงขายผลผลิตในชื่อ “ร้านเกรียงศักดิ์กล้วยหอม”และเพิ่มบทบาทเป็น “พ่อค้าคนกลาง” โดยสร้างเครือข่ายเกษตรกรลูกไร่ในย่านคลองรังสิต ปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียง เช่น อยุธยา สระบุรี นครนายก ปลูกกล้วยหอมทองส่งขายที่ตลาดไททำให้เขากลายเป็นผู้ค้ากล้วยหอมทองรายใหญ่ของตลาดไทจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบัน คุณเกรียงศักดิ์มีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทอง 3,000 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของตัวเอง และเช่าปลูก ในอัตราไร่ละ 2,000-5,000 บาท ต่อปี และพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองของเกษตรกรเครือข่ายอีกประมาณ 1,000 ไร่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดจันทบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี บึงกาฬ พัทลุง นครสวรรค์ กำแพงเพชร ชุมพร ฯลฯ

แปลงปลูกทุกแห่งได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐาน GAP มีทีมนักวิชาการของบริษัทเข้าไปควบคุมดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกหน่อพันธุ์ดี การให้ปุ๋ย-ให้น้ำการเก็บเกี่ยว การขนส่งสินค้าถึงโรงคัดบรรจุ ที่ได้ระบบมาตรฐาน GMP และ HACCP เพื่อให้ได้กล้วยหอมทองที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยส่งถึงมือผู้บริโภค

คุณเกรียงศักดิ์บอกว่า โดยทั่วไปกล้วยหอมจะปลูกหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ไม่นิยมปลูกซ้ำในพื้นที่เดิมเพราะเสี่ยงทำให้กล้วยมีผลขนาดเล็ก เครือสั้น นอกจากนี้ปัญหาภัยธรรมชาติ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญของการปลูกกล้วยหอมโดยเฉพาะปัญหาเรื่องลมพายุทำให้ต้นกล้วยล้มและใบฉีกขาด ปีนี้เจอปัญหาภัยแล้งรุนแรงในหลายพื้นที่ทำให้ผลผลิตเสียหายจำนวนมากบริษัทจึงวางแผนกระจายความเสี่ยงและให้มีผลผลิตจำนวนมากรองรับการเติบโตของตลาดทั้งในประเทศ และส่งออก โดยขยายพื้นที่ปลูกให้ครบ 10,000 ไร่ทั่วประเทศ ภายในปี 2562

การปลูกกล้วยหอมทอง

ในเชิงอุตสาหกรรม

บริษัทจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และสามารถตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ไปยังแหล่งผลิตได้ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัย ได้มาตรฐาน ผลิตจากวัตถุดิบที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและมาจากแหล่งที่มีการจัดการด้วยกระบวนการปลูกที่ได้มาตรฐานสากล GlobalGAP เพื่อให้คนไทยได้บริโภคกล้วยหอมทองผลไม้ไทยที่ปลอดภัย กินได้ทุกวัน

สำหรับพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองของบริษัทจำนวน 3,000 ไร่ ถูกควบคุมการปลูกอย่างเป็นระบบ โดยใช้วิธีปลูกหมุนเวียน ครั้งละ 300 ไร่ หรือประมาณ 100,000 ต้น ต่อรุ่น เพื่อให้มีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ กล้วยแต่ละรุ่นจะใช้ระยะเวลาปลูก 9 เดือน ถึง 1 ปี ก็ตัดขายได้ เมื่อความแก่ความอ่อนของกล้วยอยู่ที่ 80% ทำให้กล้วยมีรสชาติหวานสม่ำเสมอ หลังเก็บเกี่ยวจะคัดขนาดของผลกล้วยให้ตรงกับความต้องการของตลาด

ยกตัวอย่างเช่น กล้วยหอมทองที่ส่งขายการบินไทย สำหรับเสิร์ฟให้ลูกค้าชั้นเฟิร์สคลาสนั้น ต้องคัดกล้วยหอมเกรด A ผิวสวย น้ำหนักลูกละ 180 กรัม ผิวของกล้วยต้องไม่มีรอยช้ำ รสชาติต้องหวานสม่ำเสมอ ส่วนกล้วยหอมทองที่ส่งขายร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนั้น จะคัดเลือกกล้วยหอมทองที่มีน้ำหนักเฉลี่ย120 กรัมต่อผล โดยมียอดขายประมาณวันละ 70,000 ชิ้น

กล้วยจะมีขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก นอกจากจะขึ้นอยู่กับการดูแลที่เอาใจใส่อย่างดีแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นหลัก หากใครอยากปลูกกล้วยหอมทองให้ได้เกรด A คุณเกรียงศักดิ์แนะว่าธรรมชาติของกล้วยชอบปุ๋ยชอบน้ำต้องรดน้ำทุกวันระวังเรื่องน้ำท่วมขังปลูกดินตื้นจะโตไวแต่ล้มง่ายต้องมีไม้ค้ำเมื่อออกปลีให้ใช้ไม้ค้ำทุกเครือออกปลีได้ 70-90 วันจะให้ลูก ใช้ถุงหรือกระดาษคลุมลูกเพื่อให้ผิวกล้วยสวยเมื่อตัดผลผลิตกล้วยจะมีอายุได้ราว 1 ปีให้โค่นทิ้งนำหน่อใหม่จากต้นเดิมลงปลูกแทนทว่าราวเดือนเมษายน-มิถุนายนเป็นช่วงฤดูฝนมีลมพายุ ช่วงนี้กล้วยหอมมักขาดตลาด

เปิดรับ

“เกษตรกรลูกไร่” ทั่วไทย

คุณเกรียงศักดิ์บอกว่า ทางบริษัทยินดีเปิดรับสมัครเกษตรกรลูกไร่ทั่วประเทศ โดยพิจารณาจากความพร้อมของสถานที่ตั้งเป็นสำคัญ เช่น มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับใช้ในการเพาะปลูกตลอดทั้งปี หากเป็นเกษตรกรรายย่อย จะส่งเสริมให้รวมกลุ่มกันปลูกกล้วยไม่ต่ำกว่า 20 ไร่ เพื่อรวบรวมผลผลิตส่งขายไม่ต่ำกว่า 10-15 ตัน ต่อครั้ง

คุณเกรียงศักดิ์บอกว่า เรานำเสนอสิ่งดีๆให้เป็นทางเลือกของเกษตรกร สมาชิกเครือข่าย “คิง ฟรุทส์” จะมีเจ้าหน้าที่วิชาการของบริษัทให้คำแนะนำวางแผนการปลูก ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด สามารถซื้อปัจจัยการผลิตในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เช่นหน่อพันธุ์ ถุงห่อเครือกล้วย เป็นการลดต้นทุนการผลิตสามารถจำหน่ายสินค้าได้ตามเกรดคุณภาพของสินค้ามากกว่าการขายแบบคละเกรด หรือเหมารวมสามารถขายผลผลิตได้ทุกผล ทุกต้นลดปัญหาการขายสินค้า ด้อยคุณภาพเข้าสู่ท้องตลาด โดยเฉพาะช่วงที่ผลผลิตเข้าตลาดจำนวนมากพร้อมกัน

ปัจจุบัน บริษัทรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรเครือข่ายตามคุณภาพสินค้า เฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-20 บาท หากใครมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด เลขที่ 55/12 หมู่ที่ 4 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150 โทร.(02) 159-9770,(02) 159-9772-73 แฟกซ์ (02) 159-9771

Leave a comment