ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05056010859&srcday=2016-08-01&search=no
| วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 628 |
สารคดีพิเศษ เฉลิมพระเกียรติ แม่ของแผ่นดิน
พันธุ์หม่อน “ศรีสะเกษ84”
หม่อนถือเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมนอกจากเกษตรกรจะต้องบริหารจัดการแปลงหม่อนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ใบหม่อนที่มีทั้งปริมาณและคุณภาพเหมาะสมสำหรับการเลี้ยงไหมแล้ว การเลือกใช้พันธุ์หม่อนพันธุ์ดีก็เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการผลิตได้ ปัจจุบันมีพันธุ์หม่อนที่เกษตรกรนิยมปลูกหลายพันธุ์ อาทิ พันธุ์สกลนคร พันธุ์บุรีรัมย์60 พันธุ์นครราชสีมา60 พันธุ์ศรีสะเกษ33 พันธุ์น้อย และพันธุ์คุณไพ เป็นต้นล่าสุดศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯศรีสะเกษ กรมหม่อนไหม ได้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์หม่อนพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 1 พันธุ์ คือ พันธุ์ “ศรีสะเกษ84” (ศก 84) และประกาศให้เป็นพันธุ์หม่อนแนะนำของกรมหม่อนไหม เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 นี้
คุณอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมหม่อนไหมกล่าวว่าศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯศรีสะเกษได้ใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงพันธุ์หม่อนศรีสะเกษ84นานถึง19 ปี ซึ่งหม่อนพันธุ์ใหม่นี้ เดิมชื่อพันธุ์ SRCM9105-46เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างหม่อนพันธุ์นครราชสีมา60 เป็นแม่พันธุ์กับหม่อนพันธุ์ S1เป็นพ่อพันธุ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์2534 ได้เมล็ดพันธุ์หม่อนจำนวนหนึ่งนำไปเพาะเมล็ดในถุงชำจนได้ต้นกล้าหม่อนจำนวน 83 ต้น (พันธุ์) เมื่อต้นกล้าอายุได้ ประมาณ 3 เดือน นำลงปลูกในแปลงคัดเลือกพันธุ์และผ่านขั้นตอนการเปรียบเทียบผลผลิตในเบื้องต้น โดยมีหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์60 และพันธุ์นครราชสีมา60 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบมาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังมีการเปรียบเทียบผลผลิตใบในท้องถิ่นต่างๆ4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และนครราชสีมา ทั้งยังเปรียบเทียบผลผลิตใบหม่อนในแปลงเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ดและศรีสะเกษ จังหวัดละ 2 แปลง พร้อมทดสอบความทนทานต่อโรคราสนิมหม่อนในสภาพแปลงปลูกในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคราสนิมอย่างรุนแรง มีการทดสอบคุณค่าทางอาหารในใบหม่อนโดยการเลี้ยงไหม วิเคราะห์คุณค่าทางอาหารในใบหม่อน และทดสอบการออกรากจากท่อนพันธุ์ด้วย ถือเป็นหม่อนอีกหนึ่งพันธุ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรได้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องโรคราสนิมหม่อน และการให้ปริมาณผลผลิตใบต่อไร่สูง
หม่อนพันธุ์ศรีสะเกษ84มีลักษณะเด่นคือ ให้ผลผลิตใบสูงถึง 1,740 กิโลกรัม ต่อไร่ ต่อปี ในพื้นที่ของเกษตรกรในเขตเกษตรอาศัยน้ำฝน และสามารถนำไปเลี้ยงไหมได้ดีไม่แตกต่างจากหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์ 60 อีกทั้งยังทนทานต่อโรคราสนิมหม่อนดีกว่าพันธุ์บุรีรัมย์60 ถึง 18.88% เป็นทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่จะนำพันธุ์ไปปลูกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยยกระดับรายได้และสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้
ทั้งนี้ หม่อนพันธุ์ศรีสะเกษ 84 เหมาะที่จะปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคราสนิมในภาคเหนือ เช่น จังหวัดน่าน และภาคใต้ เช่น จังหวัดชุมพร เป็นต้น แต่หม่อนพันธุ์นี้มีข้อจำกัดคือไม่ทนทานต่อโรครากเน่า หากจะขยายพันธุ์โดยใช้ท่อนพันธุ์ ควรใช้ท่อนพันธุ์ที่มีอายุตั้งแต่ 9 เดือนขึ้นไป จะมีเปอร์เซ็นต์รอดหลังปักชำสูง
อธิบดีกรมหม่อนไหมกล่าวอีกว่า หม่อนพันธุ์ศรีสะเกษ84 เป็นพันธุ์หม่อนที่มีคุณภาพใบใกล้เคียงกับหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์60 โดยใบหนาปานกลางและอ่อนนุ่ม จากผลวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารในใบหม่อนพันธุ์ศรีสะเกษ84 พบว่า มีเปอร์เซ็นต์โปรตีน 22 คาร์โบไฮเดรต 46.4% ไขมัน 3.5% เส้นใยหยาบ 11.5% และเปอร์เซ็นต์เถ้า 12.8% เมื่อนำใบหม่อนไปเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้าน พบว่า ผลผลิตรังไหม ได้น้ำหนักเปลือกรัง 1 รัง อยู่ที่ 14.6 เซนติกรัม ให้เปอร์เซ็นต์เปลือกรัง 12.5% เปอร์เซ็นต์เลี้ยงรอดวัยอ่อน 89.5% เปอร์เซ็นต์เข้าทำรัง 96.4% และมีเปอร์เซ็นต์ดักแด้สมบูรณ์ 90.1%
ปัจจุบันศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯศรีสะเกษมีแปลงพันธุ์หม่อนศรีสะเกษ84จำนวน 2 ไร่ และอยู่ระหว่างเร่งขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมรองรับความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่จะนำพันธุ์ไปใช้ ซึ่งจากการขยายพันธุ์หม่อนศรีสะเกษ84จำนวน 20,000 ถุง ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ได้ประสบปัญหาภัยแล้งและสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้มีแมลงหวี่ขาวมาดูดกินน้ำเลี้ยงจากท่อนพันธุ์หม่อน ทำให้ท่อนพันธุ์แห้งตายและเสียหายทั้งหมดขณะนี้ศูนย์ได้ปรับปรุงเทคนิคการผลิตท่อนพันธุ์ใหม่ โดยใช้วิธีการติดตาบนท่อนพันธุ์ล็อตนี้มี จำนวน 15,000 ถุง ซึ่งคาดว่า ภายใน 2เดือนข้างหน้าจะสามารถแจกจ่ายกิ่งพันธุ์ให้กับเกษตรกรที่ต้องการนำไปปลูกได้ และปี 2560 คาดว่า จะผลิตกิ่งชำหม่อนพันธุ์นี้ได้ไม่น้อยกว่า 20,000 ถุง
ขณะเดียวกันยังมีแหล่งขยายพันธุ์หม่อนศรีสะเกษ84 ที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดศรีสะเกษ และที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯนครราชสีมา รวมพื้นที่ 2.5 ไร่ คาดว่า จะสามารถผลิตท่อนพันธุ์ป้อนให้กับเกษตรกรได้ปีละไม่น้อยกว่า 100,000 ท่อน
“เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเริ่มนำหม่อนพันธุ์ศรีสะเกษ84ไปปลูกแล้ว อาทิ เกษตรกรในอำเภอพะยุห์ และอำเภอภูสิงห์ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า เกษตรกรมีความพึงพอใจที่หม่อนศรีสะเกษ84แตกยอดดีและแตกยอดได้ทั้งปี ทำให้สามารถเก็บผลผลิตใบเลี้ยงไหมได้ตลอดปีด้วย นอกจากนั้น ยังค่อนข้างทนแล้งดีกว่าหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์60″อธิบดีกรมหม่อนไหมกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากสนใจ “พันธุ์หม่อนศรีสะเกษ84” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ โทร. (045) 916-659 ในวันและเวลาราชการ