สุ่ยมี่ ฝรั่งพันธุ์ใหม่อีกทางเลือกหนึ่ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05044010859&srcday=2016-08-01&search=no

วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 628

เทคโนโลยีการเกษตร

นัย บำรุงเวช

สุ่ยมี่ ฝรั่งพันธุ์ใหม่อีกทางเลือกหนึ่ง

สุ่ยมี่(??:ShuiMi)ฝรั่งสายพันธุ์ใหม่จากไต้หวันที่เกษตรกรไทยหัวก้าวหน้าชอบการเปลี่ยนแปลงและร้านจำหน่ายพันธุ์ไม้ผลกำลังให้ความสนใจกันอยู่ เริ่มมีการแสวงหากิ่งพันธุ์เพื่อขยายพื้นที่ปลูกกันอย่างต่อเนื่องด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่มีดีกว่าฝรั่งพันธุ์ที่นิยมปลูกกันในปัจจุบันอย่างเช่นฝรั่งกิมจูหรือเจินจูกลมสาลี่แป้นสีทองหรือแม้กระทั่งหวานพิรุณ

ผู้เขียนได้กิ่งพันธุ์ฝรั่งสุ่ยมี่มาเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 ในราคาหลักพันจากลุงเล็ก(นายเสน่ห์ ลมสถิตย์)ลุงเล็กนำกิ่งพันธุ์เข้ามาเมื่อต้นปีพ.ศ.2556 จำนวนไม่ถึง 20 ต้นและได้กระจายไปตามคนที่ลุงเล็กสนิทไม่กี่คนคนละกิ่งสองกิ่งดังนั้นกิ่งพันธุ์ฝรั่งสุ่ยมี่ที่สวนลุงเล็กจึงเหลืออยู่ไม่กี่กิ่งซึ่งตอนนั้นแกยังไม่ได้ให้ความสำคัญเอาใจใส่มันมากนักเพราะมีมะม่วงพันธุ์ใหม่ๆต้องคอยประคบประหงมอีกหลายพันธุ์ได้ละเลยพวกมัน ไม่นานกิ่งพันธุ์สุ่ยมี่ในกระถางที่ขาดการดูแลจึงตายหมด พอลุงเล็กเริ่มรู้จุดเด่นข้อดีของมันจึงต้องซื้อกิ่งพันธุ์กลับจากคนที่เคยขายให้ไปคืนมาถึงวันนี้ฝรั่งสุ่ยมี่เริ่มปลูกเป็นแปลงใหญ่เพื่อจำหน่ายผลที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาครที่อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานีและอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ราคากิ่งพันธุ์ลดเหลือหลักร้อย แต่รสชาติของมันไม่ได้ลดตามไปด้วยคงโดดเด่นท้าทายให้หลายคนอยากลองลิ้มชิมรสอยู่

ฝรั่งไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชีย ไต้หวันจึงไม่ใช่แหล่งกำเนิดของฝรั่งเช่นกัน แต่ไต้หวันมีฝรั่งดีๆหลายสายพันธุ์ ฝรั่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบโซนร้อนของอเมริกากลางอเมริกาใต้จัดเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็กไม่ผลัดใบ ครั้งเมื่อไต้หวันยังอยู่กับจีนผืนแผ่นดินใหญ่ฝรั่งถูกนำมาในจีนราวปีพ.ศ.2437ไม่ต่างจากพืชป่าชนิดหนึ่งเรียกมันว่า ป๋าจื่อต่อมาถูกนำไปที่นานยางจึงได้เรียกว่า ฟานสือหลิ่วเพราะมีรูปพรรณสัณฐานและเมล็ดมากคล้ายกับทับทิม(สือหลิ่วหมายถึงทับทิม)ส่วนชาวไต้หวันจะเรียกฝรั่งว่า ป๋าล่า พันธุ์ฝรั่งไทยถูกนำเข้าไปยังจีนเนื่องจากฝรั่งไทยมีผลใหญ่ยาวรี เนื้อหนาแน่นและกรอบแต่ความหวานต่ำอยู่ระหว่าง 6-9 องศาบริกซ์ ช่วงปี พ.ศ. 2472-2480 เป็นช่วงฟื้นฟูอย่างมากในการปลูกฝรั่งที่ไต้หวัน หลังจากนั้นพื้นที่การปลูกฝรั่งในไต้หวันก็ลดลงเรื่อยมา เกษตรกรมาเริ่มปลูกใหม่อีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2495 พื้นที่ปลูกหลักอยู่ที่ไทเป จางฮั้วและชินจู๋ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 แหล่งปลูกฝรั่งที่สำคัญของไต้หวันอยู่บริเวณภาคกลางมาถึงตอนใต้และมีที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกฝรั่งกระจายทั่วไปปลูกมากในเขตจางฮั้วอี๋หลานหนานโถเจียอี้ไถหนานเกาสงผิงตง ถือได้ว่าไต้หวันเป็นแหล่งพัฒนาฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพดีอย่างต่อเนื่องฝรั่งแดงของไทยได้ถูกไต้หวันซื้อสิทธิบัตรไปเช่นกัน

ระหว่างปีพ.ศ.2519 ถึง พ.ศ.2529ไต้หวันได้นำเข้าพันธุ์ฝรั่งจากประเทศไทยหลายพันธุ์เพราะฝรั่งมีผลใหญ่ เนื้อแน่นและกรอบไปปลูกผลผลิตออกมาเป็นที่ชื่นชอบของคนไต้หวัน เมื่อเวลาผ่านไปไต้หวันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ฝรั่งขึ้นมาเรื่อยๆโดยใช้พันธุ์ฝรั่งไทยเป็นต้นพ่อพันธุ์ต้นแม่พันธุ์ด้วยเสมอ การพัฒนาสายพันธุ์ใหม่เน้นความอร่อยเมล็ดมีน้อยหรือไม่มีเนื้อหนาและเนื้อกรอบฝรั่งพันธุ์เจินจู (?? :Zhenzhuหรือ Pearl guava แปลว่าไข่มุก) ได้รับการคัดเลือกพันธุ์ขึ้นมาเมื่อปีพ.ศ. 2533ที่เกาสง ที่พัฒนาปรับปรุงพันธุ์มาจากฝรั่งไทย ลักษณะผลกลมรีทรงไข่ไก่คล้ายลูกแพร์ มีความหวาน 10-18 องศาบริกซ์ ไต้หวันปลูกมากเป็นอันดับ 1จัดเป็นฝรั่งที่มีความหวานสูง เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2542 ฝรั่งเจินจูถูกนำเข้ามาในประเทศไทย มีนักวิชาการด้านไม้ผลของไทยท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า ฝรั่งพันธุ์กิมจู น่าจะมีชื่อมาจาก พันธุ์ “เจินจู” ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากไต้หวัน และที่สำคัญฝรั่งพันธุ์กิมจู หรือ เจินจู นี้น่าจะเป็นคนละสายพันธุ์กับพันธุ์เจินจูที่ปลูกในไต้หวัน ดูจากลักษณะผลและรสชาติของพันธุ์กิมจูหรือเจินจูที่ปลูกในไทย น่าจะเป็นพันธุ์สุ่ยจิงหรือ ส๋วยจินจึงเป็นการสับสนเป็นความเข้าใจผิดของผู้ขายกิ่งพันธุ์หรืออาจเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดก็ได้และได้เรียกผิดเพี้ยนต่อกันมา

พันธุ์สุ่ยจิง(??:Shuijing หมายถึง Crystal)ปีพ.ศ. 2534 ได้คัดเลือกมาจากฝรั่งพันธุ์ไทยที่เมือง Yanchao Townshipเมล็ดน้อยผลแป้นคล้ายฟักทอง มีความหวาน 7-12 องศาบริกซ์ เป็นสายพันธุ์ที่ถูกนำมาปลูกเป็นการค้าในไทยอย่างแพร่หลายกว้างขวาง แต่มีการเรียกชื่อฝรั่งพันธุ์สุ่ยจิงผิดไปเป็นพันธุ์เจินจูเชินจูกิมจู สุ่ยจิงรูปทรงผลแป้นค่อนข้างแบนมีการออกดอกและติดผลง่ายในบ้านเรา ไต้หวันปลูกมากเป็นอันดับ3

ในปีพ.ศ. 2549 สถานีทดลองพืชสวน Fengshan Tropical Horticulture Experiment Branch ได้ปรับพันธุ์ใหม่ขึ้นมาชื่อ ตี้หวาง(??:หมายถึงจักรพรรดิหรือฮ่องเต้)หรือพันธุ์ไทนงเบอร์1(Tainong No.1)ผลใหญ่ค่อนข้างกลมรูปไข่ผิวสีเขียวอ่อน เนื้อสีขาว กรอบสามารถเก็บไว้ได้นาน ความหวาน 9.5-11 องศาบริกซ์ ขนาดผลมีน้ำหนัก 380-450 กรัม

ปีพ.ศ.2553ฝรั่งสุ่ยมี่เริ่มปรากฏ ยังไม่ทราบแหล่งข้อมูลว่าเกิดจากการพัฒนาพันธุ์จากฝรั่งสายพันธุ์อะไร และหน่วยงานใดหรือใครพัฒนามันขึ้นมา เกษตรกรชาวไต้หวันได้เริ่มขยายพื้นที่ปลูกฝรั่งสุ่ยมี่กันมากขึ้นที่เกาสงผิงตงจางฮั้วไถหนาน

ฝรั่งสุ่ยมี่มีผู้ให้ชื่อไทยว่า “ฝรั่งสายน้ำผึ้ง” หรือ “ฝรั่งแป้นไต้หวัน”มีชื่อผลไม้อีกหลายชื่อที่ผู้ขายกิ่งพันธุ์มักตั้งชื่อใหม่โดยไม่มีรากศัพท์มาจากชื่อเดิม ซึ่งควรจะเรียกชื่อพันธุ์ทับศัพท์ชื่อเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในภายหน้า หรือบางรายนำกิ่งพันธุ์จากไต้หวันมาแอบอ้างว่าปรับปรุงพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเอง และอ้างสายพันธุ์แต่ละสายพันธุ์มาผสมกันโดยแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันอย่างมากไม่น่าจะได้ลูกผสมใหม่ที่แตกต่างจากพ่อแม่อย่างมาก หรืออ้างสายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติดีกว่าอยู่แล้วเป็นต้นพันธุ์พ่อแม่ซึ่งไม่จำเป็นต้องปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด ไม่ควรไปฉวยโอกาสไปเอาของเขามาเป็นของตน ผู้ขายกิ่งพันธุ์น่าละอายใจบ้างว่าได้กระทำอะไรลงไป จิตสำนึกคุณธรรม จริยธรรมของผู้ขายกิ่งพันธุ์ไทยบางรายขาดหายไปไหนหมด บางรายเป็นนักต้มตุ๋นพันธุ์ไม้ที่สื่อบางสื่อยังยอมรับโดยไม่ทราบข้อเท็จจริง ยกตัวอย่าง มะม่วงโบราณ เขาบอกว่าที่สวนเขามีอยู่หลายสายพันธุ์ เขาเป็นผู้มีความรอบรู้เรื่องไม้แปลกไม้โบราณร้านขายพันธุ์ไม้ได้สั่งมะม่วงจากสวนของเขาเพื่อส่งให้ลูกค้าอีกที เมื่อลูกค้าซื้อมาปลูกได้2ปีออกผลมาไม่ใช่พันธุ์ดังที่สั่งซื้อ กลายเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้เกือบทั้งหมด จึงได้โทร.กลับยังร้านขายพันธุ์ไม้ทางร้านขายพันธุ์ยอมรับว่าถูกเขาหลอกและยินดีคืนเงินให้

ลักษณะใบของฝรั่งสุ่ยมี่ไม่ต่างจากฝรั่งพันธุ์อื่นๆยอดอ่อนเป็นสีขาวเป็นนวล ใบอ่อนสีเขียวอ่อนไม่ขลิบหรือขอบสีแดงที่ใบและก้านแต่ใบค่อนจะเล็ก ใบห่อขึ้นเล็กน้อย ใบมีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนกว้างสุดประมาณ 5 เซนติเมตร ความแตกต่างของทรงพุ่ม ฝรั่งสุ่ยมี่มีทรงพุ่มค่อนข้างโปร่ง ทรงพุ่มเป็นสีนวลเงิน ใบไม่เขียวเข้มและแน่นทึบต่างจากฝรั่งพันธุ์อื่นถ้าอยู่ใกล้เคียงกันจะเห็นชัดเจน

สุ่ยมี่มีผลทรงแป้นจะคล้ายกับสุ่ยจิง(เจินจูในไทย)ไม่กลมและไม่ค่อยเรียบ ผลนูนเป็นพูโดยรอบจำนวนพูไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของผลจะนูนเป็นสันเด่นบริเวณใกล้ขั้วปกติพบจำนวนพูมี 4-5 พู น้ำหนักผล 500-700 กรัมดูแลรักษาบำรุงดีๆจะได้น้ำหนักมากกว่านี้ ผลมีขนาดกำลังดีมีเนื้อหนา เนื้อสีขาวฟู ฉ่ำน้ำ มีเมล็ดน้อยมากเนื้อกรอบ รสหวานและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อเริ่มสัมผัสลิ้นก่อนเคี้ยวจะได้รสเปรี้ยวจางๆเป็นรสเปรี้ยวนำจากนั้นรสจึงตามมา เคี้ยวง่ายเพราะเนื้อกรอบนุ่มฟู จะเห็นได้ว่าฝรั่งสุ่ยมี่มีคุณสมบัติครบถ้วนซึ่งฝรั่งพันธุ์อื่นๆมีคุณสมบัติไม่ครบขาดหายบางอย่าง เช่น กรอบแต่ไม่หวาน หรือหวานแต่ไม่กรอบ หรือหวานกรอบแต่ไม่หอม สุ่ยมี่จึงเป็นฝรั่งที่มีคุณสมบัติเด่นๆครบ

การปลูกฝรั่งสุ่ยมี่ไม่ได้ต่างจากฝรั่งทั่วไปที่ปฏิบัติกัน ควรใช้กิ่งพันธุ์จากการตอนหรือกิ่งทาบมีข้อสังเกตระหว่างการปลูกด้วยกิ่งพันธุ์จากการตอนหรือกิ่งพันธุ์จากการทาบ กิ่งจากการตอนเจริญเติบโตได้เร็วกว่ากิ่งทาบ ทรงพุ่มขึ้นสูง ส่วนกิ่งทาบโตช้ากว่าแต่แข็งแรง กิ่งก้านแตกมากทรงพุ่มแผ่กว้าง

การดูแลและการบำรุงรักษาไม่ต่างจากฝรั่งพันธุ์อื่นหลังจากปลูกได้5เดือนเริ่มออกดอกควรปลิดทิ้งเนื่องจากลำต้นยังเล็กสะสมอาหารได้น้อยทำให้ต้นโทรมได้ถ้าติดผล อายุได้อย่างน้อย 1 ปีจึงปล่อยให้ติดผลได้ดอกมีสีขาวเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 เซนติเมตรให้ดอกดีมากจึงติดผลดก ติดดอกแทบทุกกิ่ง ให้ปลิดผลอ่อนทิ้งบ้าง การปลิดผลให้เหลือกิ่งละ1-2 ผล เพื่อให้ผลใหญ่สมบูรณ์ ซึ่งการปลิดผลอ่อนจะเริ่มปลิดผลเมื่อผลติดแล้วโตขนาดประมาณเท่าลูกมะนาวเลือกผลที่มีรูปทรงบูดเบี้ยวไม่ได้รูปทรงหรือมีตำหนิเด็ดทิ้งไป จากนั้นจึงเริ่มห่อผล จะห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าลูกมะนาวหรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน การห่อผลจัดเป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้ฝรั่งได้คุณภาพผลออกมาดีรูปทรงผลดีผิวมีสีเขียวอ่อนสวยงามและเพื่อป้องกันศัตรูสำคัญที่ทำให้ผลฝรั่งเสียหายไม่สามารถนำมารับประทานได้ อันเกิดจากการทำลายของแมลงวันทองวางไข่ที่ใต้ผิวฝรั่งสุก(หรือระยะที่ผิวอ่อน) ตัวอ่อนที่ฟักจากไข่จะเจริญกินเนื้อฝรั่งเป็นอาหารทำให้ฝรั่งอ่อนนิ่มและเน่าเละการห่อผลเกษตรกรไต้หวันสวมด้วยตะข่ายโฟม(ตาข่ายสวมผลไม้ป้องกันผลไม้ช้ำ)แล้วใช้ถุงพลาสติกห่อทับอีกชั้น ตาข่ายโฟมช่วยป้องกันไม่ให้ผิวผลฝรั่งติดสัมผัสกับพลาสติกจนเกิดเป็นรอยกร้านเกรียมแดดหรือรอยไหม้ชาวสวนไทยนิยมใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อก่อนแล้วจึงสวมถุงพลาสติกทับอีกชั้นหนึ่งถุงพลาสติกที่ใช้เพื่อการห่อฝรั่งโดยเฉพาะ ถุงห่อดังกล่าวมีรูระบายในตัว เกษตรกรไม่ต้องกรีดหรือเจาะรูระบายน้ำ หรือห่อด้วยถุงห่อผลไม้ถ้าใช้ถุงห่อมะม่วงห่อบางทีผลจะใหญ่คับถุง ใช้ถุงสีขาวห่อฝรั่งจะได้ผิวสีเขียวอ่อนสวย ถ้าใช้ถุงดำภายในบุด้วยแผ่นคาร์บอนได้ฝรั่งมีผิวสีเหลืองนวลวาวสวยงามมาก แต่การห่อด้วยถุงห่อนี้มักมีมดดำเข้าไปทำรัง การห่อฝรั่งผลยังเล็กหรือเล็กกว่าหัวนิ้วโป้งจะทำให้ผลฝรั่งแห้งร่วง โดยเฉพาะถ้าใช้ถุงดำผลอ่อนจะแห้งอย่างรวดเร็วเพราะถุงดำสะสมความร้อนไว้ภายในมากหลังจากการห่อผลฝรั่งแล้วนับไปอีก 2เดือนหรือ3 เดือนฝรั่งก็จะเริ่มแก่ใกล้เก็บผลได้เลือกผลที่แก่

การเก็บผลควรเก็บผลที่แก่หรือกำลังห่าม อายุประมาณ 4-5 เดือน ผลที่ควรเก็บสังเกตได้จากสีและผิวของผล ระยะเก็บผลมีสีเขียวอ่อนออกเหลืองเป็นประกายวาวผิวเต่งตึง ขั้วผลเรียวเล็กสีเขียวอ่อนตัดด้วยกรรไกรตัดชิดขั้วผล ไม่ควรดึงออกด้วยมือจะทำให้กิ่งก้านฉีกขาดได้

โรคผลเน่าของฝรั่งสุ่ยมี่มักพบบริเวณส่วนของผิวฝรั่งที่สัมผัสกับกระดาษห่อ ทำให้ผลเน่าช้ำ พบระบาดในฤดูฝน

ผู้ที่ต้องการปลูกฝรั่งสุ่ยมี่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ คงต้องประสบปัญหาเรื่องกิ่งพันธุ์ เพราะขณะนี้กิ่งพันธุ์ยังมีจำนวนน้อยและต้องสั่งจองไว้ราคากิ่งพันธุ์ยังค่อนข้างสูงเชื่อแน่ว่าอีกไม่นานฝรั่งสุ่ยมี่จะต้องเข้ามาแทนพื้นที่ปลูกฝรั่งเจินจูหรือสุ่ยจิงและแป้นสีทองอย่างแน่นอน…

Leave a comment