หมากแดงบางกะเจ้า สมุทรปราการ วันนี้ยังไปได้ดี…นาวาเอกประเภท มาอ่วม ยึดเป็นงานเกษตรหลังเกษียณ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05030010859&srcday=2016-08-01&search=no

วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 628

ไม้ดอกไม้ประดับ

สุรเดช สดคมขำ

หมากแดงบางกะเจ้า สมุทรปราการ วันนี้ยังไปได้ดี…นาวาเอกประเภท มาอ่วม ยึดเป็นงานเกษตรหลังเกษียณ

หมากแดง เป็นพรรณไม้ที่มีลักษณะเด่นตรงที่มีหน่อกาบใบ และก้านใบเป็นสีแดงทั้งหมด ซึ่งลักษณะของลำต้นเหมือนกับพวกปาล์มทั่วไปคือเป็นข้อปล้อง เปลือกต้นสีน้ำตาลเรียบ มีกาบใบห่อลำต้นเป็นสีแดงสด ลำต้นสูงประมาณ 15 ฟุต

ใบ เป็นใบรวม ก้านทางใบจะประกอบด้วยใบหลายใบ ทางใบมีความยาวประมาณ 3-4 ฟุต ส่วนใบย่อยเรียงยาวประมาณ 18 นิ้วมีสีเขียว ซึ่งลักษณะของใบคล้ายกับปาล์มทั่วไป แต่มีสิ่งที่สวยสะดุดตากว่าปาล์มชนิดอื่นคือ ก้านใบและก้านทางใบเป็นสีแดงสด

ดอกของหมากแดงออกเป็นช่ออยู่ตามข้อของต้นใต้กาบใบ มีความยาวประมาณ 1-2 ฟุต เมื่อดอกร่วงโรยจะติดผลที่มีขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่วเขียวหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย ผลเมื่อแก่แล้วจะเป็นสีดำ จึงนิยมนำเมล็ดมาเพาะเพื่อขยายพันธุ์ แต่หมากแดงสามารถขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อมาทำการปักชำได้อีกด้วย

หมากแดงเป็นพรรณไม้ที่ชอบอยู่ที่ร่มรำไร ไม่ชอบแสงแดดจัด เพราะถ้าถูกแดดตลอดทั้งวันจะทำให้สีแดงจางไปมองดูไม่สวยงาม และที่สำคัญควรปลูกหมากแดงในดินร่วนปนทรายเก็บความชื้นได้ดี เพราะหมากแดงต้องการน้ำมากไม่ชอบความแห้งแล้ง

คุณดนัย ปัญจพิทยากูล เกษตรจังหวัดสมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า “จังหวัดสมุทรปราการนับว่ามีการทำเกษตรที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพืชไร่ การทำสวนมะม่วง ส่วนที่อำเภอพระประแดง เรื่องที่เด่นๆ ก็จะเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ค่อนข้างหลายกลุ่ม ซึ่งมีทั้งโกสน หมากแดง หมากผู้หมากเมีย และก็ไม้ประดับอื่นๆ เราก็มีการจัดทำฐานข้อมูลขึ้นมา และก็จัดการประกวดไม้ดอกไม้ประดับมาหลายปี จึงเป็นการสร้างชื่อไม่น้อยในงานที่ทำการจัดประกวด ก็ถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรได้อีกทาง”

นาวาเอกประเภท มาอ่วม อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ที่ 1 ตำบลบางกระสอบ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ปลูกหมากแดงเป็นอาชีพหลังวัยเกษียณ ทำแบบมีใจรักจนประสบผลสำเร็จ สร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี

บริเวณที่นาวาเอกประเภทอาศัยอยู่ เรียกรวมๆว่าบางกะเจ้า รูปร่างเป็นกระเพาะหมู เกิดจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน

หลังเกษียณรับราชการ

จึงมาปลูกหมากแดงเป็นอาชีพ

นาวาเอกประเภท ชายวัยเกษียณที่มากด้วยอารมณ์ขันและรอยยิ้ม เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนพื้นที่เดิมในแถบนี้ส่วนใหญ่นิยมปลูกสวนไม้ผลแบบผสมผสาน เช่น ลิ้นจี่ มะพร้าว กล้วย ต่อมาเกิดน้ำท่วมเนื่องจากบริเวณสวนติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านในแถบนี้จึงเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นและบางส่วนหันไปประกอบอาชีพอื่น

“ช่วงนั้นน่าจะปี 33 เขื่อนยังไม่เสร็จดี น้ำก็เข้ามาท่วมถึงที่ หลังจากนั้นคนก็เริ่มมองว่าไม่น่าจะดีแน่ ต่างคนก็ต่างคิดว่าจะทำยังไงกันดี บางคนก็ขายที่ดิน บางคนก็หันมาทำอย่างอื่นแทน ซึ่งช่วงนั้นผมเองรับราชการอยู่ยังไม่เกษียณ แล้วพ่อตาผมเขาก็ปลูกพวกมะพร้าวอะไรพวกนี้ ต่อมาเขาก็ไปขอพันธุ์หมากแดงจากเพื่อนเขา ปลูกไปปลูกมาหมากแดงประสบผลสำเร็จดี คราวนี้ไม้เดิมที่มีอยู่ตัดทิ้งหมดเลย มาลงปลูกหมากแดงแทน เพราะว่าช่วงนั้นยอมรับเลยว่าราคาค่อนข้างดีด้วย” นาวาเอกประเภท เล่าถึงความเป็นมาในสมัยก่อน

จากความสำเร็จในครั้งนั้นทำให้พื้นที่บริเวณนี้เริ่มมีคนปลูกหมากแดงมากขึ้น ทำให้ชื่อเสียงของไม้พันธุ์นี้เริ่มกระจายออกไป เป็นที่สนใจของคนที่อยากปลูกประดับตกแต่งบ้านเรือนมากขึ้น ซึ่งนาวาเอกประเภทก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน

“ผมก็ชอบแต่ปลูกแบบงานอดิเรกก่อน พอปลดเกษียณออกมา ก็ลงมาทำการปลูกหมากแดงแบบเต็มตัวเลย โชคดีที่เรามีพ่อตาเป็นคนชำนาญด้านนี้ เราก็ได้ศึกษาวิชาจากเขาเต็มๆ เขาก็แบ่งให้เราทำด้วยบางส่วนเราก็เลยมาทำได้อย่างเต็มตัว เพื่อเป็นอาชีพหลังวัยเกษียณของเรา” นาวาเอกประเภท กล่าวพร้อมทั้งหัวเราะ

หมากแดงใช้เวลาปลูก

มากกว่า 2 ปีขึ้นไป

นาวาเอกประเภท เล่าว่า เมื่อเริ่มมาทำเป็นอาชีพแล้วต้นพันธุ์ส่วนหนึ่งก็ได้มาจากพ่อตา และบางส่วนก็สั่งเมล็ดมาจากทางภาคใต้ เพื่อนำมาเพาะเมล็ดเอง จึงทำให้หมากแดงที่ปลูกมีอายุที่หลากหลายมากขึ้น และสามารถมีส่งจำหน่ายให้กับตลาดได้ตลอดทั้งปี

“พอเราได้เมล็ดมาแล้ว จากบริษัทเอกชนที่เราติดต่อซื้อเขาไป เขาขายให้เราประมาณกิโลกรัมละ 1,200 บาท มีเมล็ดประมาณ 7,000 เมล็ด เราก็เอาเมล็ดพวกนั้นมาทยอยเพาะ ให้มีอายุที่ห่างกัน เพื่อให้มันเจริญเติบโตเป็นรุ่นๆ ไป” นาวาเอกประเภท กล่าว

นำเมล็ดหมากแดงเพาะใส่ลงในวัสดุปลูกจำพวกกาบมะพร้าว ขี้เถ้าแกลบ และทราย ในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นนำมาใส่ถุงพลาสติกห่อไว้เพื่อให้มีความชื้นเหมาะสม ใช้เวลาในระยะนี้จนกว่าเมล็ดจะงอกอย่างเร็วสุดประมาณ 4-5 เดือน

“ผมโชคดีที่เมล็ดสั่งมาค่อนข้างมีความสมบูรณ์ พอครบเข้าเดือนที่ 4 เมล็ดมันก็จะเริ่มงอกออกมาเรื่อยๆ เราก็รอดูไปอีกสักพัก จนเราคิดว่างอกเต็มที่หมดแล้ว ก็ทิ้งไปอีกสักระยะ แล้วค่อยย้ายมาปลูกลงในถุงดำ ถุงละ 1 ต้น พอเห็นว่าถุงนี้มันเริ่มมีขนาดเล็กเกิน เราก็ค่อยเปลี่ยนถุงดำใหม่อีกครั้ง แล้วถึงจะเอาปลูกลงดิน” นาวาเอกประเภท กล่าวถึงขั้นตอนการย้ายกล้าที่งอกจากเมล็ด

นาวาเอกประเภท บอกว่า หมากแดงที่ย้ายปลูกลงถุงดำจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะย้ายปลูกลงดินที่ทำเป็นแปลงไว้โดยเฉพาะ โดยดูต้นที่สมบูรณ์ลงปลูกก่อนตามความเหมาะสม หรืออาจใช้หมากแดงที่แตกหน่อแยกมาปักชำ เมื่อต้นสมบูรณ์จึงย้ายออกปลูกลงดินได้เช่นกัน หากไม่ชอบการเพาะเมล็ด

“คนปลูกหมากแดงรุ่นหลังนี่ เขาจะไม่ค่อยนิยมเพาะเมล็ดกันมากนัก เพราะว่าต้นกว่าจะโตลงดินได้มันนาน เขาก็จะใช้วิธีแยกหน่อเอา จะบอกว่าการแยกหน่อกับเพาะเมล็ดข้อดีมันแตกต่างกัน อย่างเพาะเมล็ดนี่มันจะได้เรื่องปริมาณมากกว่าแยกหน่อ แต่เสียอย่างเดียวต้องใช้เวลานาน ส่วนแยกหน่อไม่ต้องรอเวลานาน แต่มันได้ปริมาณที่น้อย แต่ผมชอบเพาะเมล็ดมากกว่า เพราะว่าได้ดูมันเติบโตไปเรื่อยๆ มีความสุขกว่ามากอันนี้ส่วนตัวผมนะ” นาวาเอกประเภท กล่าวอธิบาย

หมากแดงที่ปลูกลงดิน ปลูกให้ห่างกันประมาณ 80 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ซึ่งระยะนี้เป็นช่วงที่สามารถดูแลได้อย่างเต็มที่ โดยใส่ปุ๋ยคอกและดินที่เป็นอินทรียวัตถุจากธรรมชาติไม่เน้นปุ๋ยเคมีเพราะต้นหมากแดงจะเป็นโรคได้ง่าย

นาวาเอกประเภท บอกว่า หมากแดงแม้จะเป็นพรรณไม้ที่อยู่กลางแดดได้ก็จริง แต่สภาพอากาศแบบปัจจุบันจำเป็นที่ต้องหาตาข่ายพรางแสง 60 เปอร์เซ็นต์ เข้ามาช่วยเพื่อให้ได้รับแสงแบบพอดีทำให้ใบของหมากแดงไม่ไหม้ หรือใครที่ปลูกอยู่ที่บ้านควรหาที่ปลูกเป็นร่มรำไร เพื่อให้สีแดงของหมากแดงไม่จืดมองแล้วไม่สวยสะดุดตา

จำหน่ายทุกขนาด

ตามความต้องการของลูกค้า

การจำหน่ายหมากแดงที่สวนของเขาไม่มีการกะเกณฑ์เรื่องขนาด ถ้าลูกค้าต้องการหมากแดงที่ยังไม่ลงดินก็มีจำหน่าย หรือพอใจจะซื้อแบบที่ต้นสมบูรณ์ที่ลงดินแล้วก็มีต้นพร้อมจำหน่ายให้ด้วยเช่นกัน

“ผมไม่มีกำหนดเรื่องขนาดที่จะขาย ใครพอใจอยากซื้อแบบไหนได้หมด อย่างหมากแดงที่อยู่ในถุงดำ ต้นที่พร้อมจะลงดิน บางครั้งก็จะมีพ่อค้ามาซื้อถึงสวนเลย เขาชอบใจถูกใจต้นไหน เขาก็ขุดได้เลยตามใจชอบก็มาตีราคากันอีกครั้งหนึ่ง เดี๋ยวนี้ผมก็พยายามทำไม้ให้คนมีทางเลือกมากขึ้น เพื่อที่ทำตลาดแบบอื่นได้” นาวาเอกประเภท กล่าว

นอกจากจะปลูกเพื่อส่งพ่อค้าแล้ว นาวาเอกประเภทยังได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดคือ ทำต้นหมากแดงไม่ให้สูงเกิน 1.50 เมตร เพื่อให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวตลาดน้ำวังน้ำผึ้งสามารถซื้อใส่รถเก๋งกลับไปได้อีกด้วย ถือเป็นการตอบโจทย์ให้กับลูกค้าที่มีพื้นที่ในรถน้อยได้ซื้อกลับบ้านแบบสบายๆ

ราคาหมากแดงที่สวนของนาวาเอกประเภทราคาถูกสุดอยู่ที่ 70 บาท และสูงขึ้นไปก็หลักร้อยบาทหรือหลักพันบาท ซึ่งราคาอยู่ที่ขนาดหรือความสวยที่แตกต่างกันไปของหมากแดงในแต่ละต้น

ปลูกเลี้ยงอนุรักษ์ไว้

เพื่อให้เป็นชื่อของพระประแดง

นาวาเอกประเภท เล่าต่อว่า ถ้ามองว่าสิ่งที่ทำถึงจะใช้เวลานานกว่าที่จะจำหน่ายได้ จนใครๆ ก็มองว่าเขาควรที่จะไปทำอย่างอื่นแทนการปลูกหมากแดงหรือไม่ แต่เขากลับมองคนละมุมในสิ่งที่คนอื่นมอง แต่ยิ่งมีใจมุ่งมั่นที่จะปลูกหมากแดงไปเรื่อยๆ แบบไม่หยุดเพราะเป็นสิ่งที่รักที่ชอบ

“ผมมองว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยงนะ อย่างหมากแดงสมัยก่อนนี้ราคาแพงมากจนตอนนี้มันก็ชะลอตัว แต่ไม่นานเดี๋ยวมันก็กลับมา เพราะคนอื่นเลิกปลูกเลิกทำ แต่หมากแดงที่ผมทำมันยังคงอยู่ คนที่หาซื้อก็ต้องเข้ามาที่สวนผม อีกอย่างผมรู้สึกสบายใจ เวลาคนที่ชอบเหมือนกันมาพูดคุยกัน ไม่ซื้อไม่ว่ามาคุยเพลิดเพลินกันไป และก็อยากอนุรักษ์ให้หมากแดงเป็นของขึ้นชื่อที่พระประแดงเราด้วย” ในตอนสุดท้ายของการสัมภาษณ์ เขาได้กล่าวให้คำแนะนำ สำหรับผู้ที่สนใจอยากปลูกหมากแดงว่า

“คนที่อยากปลูกไม้ตัวนี้ อยากแนะนำว่าให้มองเป็นอาชีพเสริมก่อน ต้องมีความชอบก่อนลองไปปลูกเล่นๆ ดู หรืออาจจะควบคู่กับไม้อื่นตามไปด้วย ถ้าพูดถึงเรื่องตลาดหมากแดงยังไปได้ นี่ขนาดผมทำกับภรรยาสองคน ยังไม่มีเรื่องการโฆษณามาก ก็ยังขายได้เรื่อยๆ บางทียังไม่พอเสียด้วยซ้ำ หรือใครปลูกแล้วทำตลาดออนไลน์ ก็น่าจะดีไปอีกแบบ ก็อยากแนะนำให้ช่วยกันปลูกศึกษากันไป มันก็เป็นต้นไม้ที่สวยด้วย จากงานอดิเรกที่ทำด้วยรัก เดี๋ยวก็กลายเป็นงานสร้างรายได้ให้เราเอง” นาวาเอกประเภท กล่าวแนะนำด้วยสีหน้าที่ปนด้วยรอยยิ้ม

ใครที่อยากพูดคุยเรื่องการปลูกหมากแดง หรือสนใจต้นหมากแดงสวยๆ ที่มีให้เลือกสรรหลากหลายไซซ์ขนาด สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นาวาเอกประเภท มาอ่วม หมายเลขโทรศัพท์ (084) 765-7786

ขอบพระคุณ คุณดนัย ปัญจพิทยากุล เกษตรจังหวัดสมุทรปราการ และ คุณวินัย จันทมะโน เกษตรอำเภอพระประแดง ที่พาลงพื้นที่ พบปะเกษตรกร

Leave a comment