ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
09 มกราคม 2560 เวลา 07:41 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/474488

โดย…ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
สถานการณ์การเมืองเวลานี้หลาย ฝ่ายกำลังจับตาว่าปี 2560 จะมีการเลือกตั้งตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ หลังจากมีบางฝ่ายในแม่น้ำ 5 สายออกมาส่งสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่การเลือกตั้งอาจไม่เป็นไปตามโรดแมป เพราะต้องใช้เวลาในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญจำนวน 10 ฉบับ
อย่างไรก็ตาม กระบวนการเปลี่ยนผ่านประเทศจะเริ่มต้นทันทีที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติมีผลบังคับใช้ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาตรา 37 วรรคเจ็ดบัญญัติว่า “ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญและพระราชทานคืนมาหรือเมื่อพ้นกำหนด 90 วันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป”
โดยกรอบเวลา 90 วันจะครบกำหนดประมาณต้นเดือน ก.พ. ภายหลังนายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ช่วงต้นเดือน ก.พ.ตามกรอบเวลา 90 วัน กระบวนการเปลี่ยนผ่านจะเริ่มตั้งแต่วันนั้นทันทีตามมาตรา 267 ของร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้
1.คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ จำนวน 10 ฉบับให้เสร็จภายใน 240 วัน หรือประมาณ 8 เดือน และส่งให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
2.สนช.มีเวลาพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วัน หรือประมาณ 2 เดือน3.ถ้าในกรณีที่ สนช.แก้ไขเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใด โดยที่ไม่ถูกคัดค้านจากศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายฉบับนั้น รวมไปถึง กรธ.จะเข้าสู่กระบวนการในการทำให้ร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามมาตรา 81 มาตรา 145 และมาตรา 146
ทั้งสามมาตราที่ว่านั้นจะเริ่มจากการที่นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 20 วัน โดยถ้าพ้น 90 วันแล้วและยังไม่สามารถประกาศใช้ได้ รัฐสภาต้องปรึกษากัน และถ้ารัฐสภามีมติยืนยันตามเดิมไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายอีกครั้งหนึ่ง และหากไม่สามารถประกาศใช้ได้ภายใน 30 วัน ให้นายกฯ นำร่าง พ.ร.บ.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ถูกประกาศใช้เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ได้แก่ 1.การเลือกตั้ง สส. 2.การได้มาซึ่ง สว. 3.คณะกรรมการการเลือกตั้ง และ 4.พรรคการเมือง มาตรา 268 ของร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 150 วันทั้งนี้ จากขั้นตอนที่ 1-3 ถ้า กรธ.และ สนช.ใช้เวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ จะใช้เวลาประมาณ 590 วัน หรือประมาณ 19 เดือน ดังนั้น หากนับเวลาตามขั้นตอนนี้จะทำให้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ย. 2561
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งอาจต้องนานออกไปอีกเล็กน้อยหากเกิดสถานการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ หรือ กรธ.ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ สนช.ดำเนินการแก้ไข
ร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ออกแบบให้ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง หรือ กรธ.แจ้งไปยังประธาน สนช.ภายใน 10 วัน และให้ที่ประชุม สนช.ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 11 คน
โดยคณะ กมธ.วิสามัญต้องพิจารณาให้เสร็จและเสนอต่อ สนช.ภายใน 15 วันถ้า สนช.มีมติไม่เห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเป็นอันตกไป แต่ถ้ามีเสียงไม่เห็นชอบไม่ถึง 2 ใน 3 ถือว่า สนช.ให้ความเห็นชอบตามที่ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่คณะ กมธ.วิสามัญเสนอและต้องดำเนินการให้มีผลบังคับตามมาตรา 81 ต่อไป
อาจกล่าวได้ว่าต้องขยายเวลาออกจากเดิมไปอีก 25 วัน รวมเป็น 615 วัน หรือประมาณ 20 เดือน ส่งผลให้การเลือกตั้งจะไปเกิดขึ้นช่วงเดือน ต.ค. 2561
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการลำดับเวลาในกรณีทีมีการพิจารณาร่างกฎหมายเต็มเวลาที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งในทางปฏิบัติมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากระหว่างี้กรธ.ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว ทำให้การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงกลางปี 2561 หรือเร็วกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งอาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าสนช.มีมติเกิน 2 ใน 3 ไม่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่คณะกมธ.วิสามัญแก้ไขเพราะร่างกฎหมายดังกล่าวต้องตกไป และไม่ได้บอกด้วยว่าจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งเป็นช่องว่างที่แม้แต่ สนช.และ กรธ.ก็ยังหาทางออกไม่ได้