1 ก.พ. นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ถูกพาดพิงว่าดำรงตำแหน่งในช่วงที่มีการจัดซื้อกล้องซีซีทีวีของรัฐสภา ซึ่งมีรายงานว่ามีการจ่ายสินบนในช่วงปี 2548-49 ว่า ความจริงแล้วจำไม่ได้เลย เพราะเรื่องนี้ผ่านมานานมากแล้ว และไม่รู้เรื่องสินบนซีซีทีวี จากที่ติดตามข่าวทราบว่า มีการทำสัญญา 2 ครั้งคือ 30 มีนาคม 49 และกุมภาพันธ์ 52 ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะมีการยุบสภาฯ ไปตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 49 แล้ว เป็นเรื่องของฝ่ายประจำที่จะต้องเข้าไปดูแล โดยในช่วงปี 2552 ที่มีการทำสัญญาอีกรอบคงต้องตรวจสอบดูว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวในช่วงนั้น และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในวิธีปกติหรือไม่ ตนขอสนับสนุนให้สภาฯ ประสานกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอข้อมูลจากหน่วยงานของสหรัฐที่ออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้ และระบุชื่อให้ชัดเจน เพราะทราบว่ามีการจ่ายสินบนให้กับที่ปรึกษาของโครงการซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นใคร ขอให้ตรวจสอบให้ละเอียด ส่วนตัวแล้วเห็นว่ากล้องซีซีทีวีมีความจำเป็นในการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งในยุคนั้นรู้สึกว่าการรักษาความปลอดภัยที่รัฐสภามีลักษณะแปลก ๆ เข้มงวดเฉพาะชั้นล่างของอาคารรัฐสภา ตนในฐานะประธานยังขอให้ดำเนินการให้เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมัยที่เป็นประธานสภาฯ เคยได้ยินชื่อบริษัทไทโคหรือไม่ นายโภคินกล่าวว่า ไม่เคยได้ยิน และไม่แน่ใจว่าต้องประธานสภาฯ เป็นคนอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ อาจจะเป็นระดับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยากให้สอบถามเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในยุคนั้น สำหรับความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับแก้กฎหมายเพื่อสะดวกในการประสานข้อมูลกับต่างประเทศหรือไม่นั้น นายโภคินกล่าวว่า สหรัฐอเมริกาและยุโรปมีกฎหมายห้ามให้สินบนในต่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งสามารถขอข้อมูลติดตามได้ องค์กรที่ได้รับความเสียหายโดยตรงควรประสานป.ป.ช.เพื่อให้ติดตาม สำหรับการขอข้อมูลกับประเทศที่นอกเหนือจากนี้รวมถึงจีนคงไม่สามารถบังคับได้ เพราะต้องเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ

ส่วนจะฟ้องร้ององค์กรที่เปิดเผยข้อมูลหรือไม่หากผลสอบพบว่าเปิดเผยเรื่องไม่จริงนั้น นายโภคินกล่าวว่า คนที่เปิดเผยไม่น่าจะเอาข้อมูลไม่จริงมาเปิดเผย หากจะฟ้องคงต้องไปฟ้องที่สหรัฐอเมริกา เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าขั้นตอนเป็นไปตามปกติ แต่อาจจะมีใครบางคนฉวยโอกาส อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เป็นข่าวยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยหรือสอบถามนายพิทูร พุ่มหิรัญ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในขณะนั้น อยากให้รอตรวจสอบก่อน