‘ห้วยหยวกป่าไซ’ สหกรณ์ต้นแบบวางระบบบัญชี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/agricultural/229158

เกษตร/ทำกิน/สัตว์เลี้ยง  :  7 มิ.ย. 2559

บ้านห้วยหยวกป่าไซ,แม่สลองใน,กรมตรวจบัญชีสหกรณ์,แม่ฟ้าหลวง

โดย สุรัตน์ อัตตะ

               ด้วยสภาพถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญติดแนวตะเข็บชายแดนประเทศเมียนมาร์ ชาวบ้านที่อาศัยเต็มไปด้วยชนเผ่า 8 ชนเผ่าเป็นชาวไทยภูเขา 100%  ป่าถูกทำลายจากการทำไร่เลื่อนลอยของชาวบ้านห้วยหยวกป่าไซ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จนกระทั่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ทอดพระเนตรสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น สภาพป่าไม้ถูกทำลาย จากนั้นมีรับสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลด้านอาชีพเพื่อให้เขามีรายได้ที่มั่นคง ไม่ไปบุกรุกป่าเพื่อใช้เป็นที่ทำกิน  พร้อมจัดตั้งสหกรณ์รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ห้วยหยวกป่าไซ ดูแลผลประโยชน์แก่สมาชิกในเรื่องการลดต้นทุนการผลิตและการตลาด

ณัทพล รัตนาชัยมงคล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านห้วยหยวกป่าไซ ในฐานะประธานสหกรณ์รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ห้วยหยวกป่าไซ ยอมรับว่าสหกรณ์แห่งนี้เป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญสำหรับสมาชิกกู้ยืมเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ เนื่องจากชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ไม่มีเงินพอในการลงทุนซื้อปัจจัยการผลิตจึงจำเป็นต้องกู้นอกระบบ จึงเป็นเหตุให้บริษัทค้าเมล็ดพันธุ์เข้ามาฉวยโอกาสตรงนี้ในการลงทุนให้ชาวบ้านไปก่อนแล้วค่อยจ่ายคืนตอนเก็บเกี่ยวผลผลิต พร้อมรับซื้อผลผลิตทั้งหมดในราคาที่บริษัทเป็นผู้กำหนด แต่หลังจากมีการจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นในปี 2547 ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ก็เริ่มคลี่คลาย หลังชาวบ้านหันมาให้ความสำคัญกับสหกรณ์มากขึ้น

“ข้าวโพดยังคงเป็นอาชีพที่ทำรายได้หลัก เพราะเขาปลูกกันมานาน ส่วนพืชผักก็ปลูกกันเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนเท่านั้น ส่วนชาและไม้ผลที่ปลูกไว้ก็จะเริ่มมีรายได้เข้ามาแทนข้าวโพด คิดว่าไม่เกิน 5 ปี เมื่อพืชสมุนไพร ชา เจียวกู่หลานและไม้ผลชนิดต่างๆ ให้ผลผลิตเต็มที่การปลูกข้าวโพดก็จะค่อยๆ ลดลงไปและล้มเลิกไปในที่สุด”

ประธานสหกรณ์ระบุอีกว่า ก่อนจะมีการจัดตั้งสหกรณ์รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ห้วยหยวกป่าไซก็จะมีการระดมทุนจากชาวบ้านเพื่อจัดตั้งเป็นกลุ่มอยู่แล้วมาระยะหนึ่ง โดยการสนับสนุนของสถานีพัฒนาพื้นที่สูงเชียงราย จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงรายร่วมกับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เข้ามาดูแลการจัดสหกรณ์และวางระบบบัญชีอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมจัดสร้างอาคารอเนกประสงค์ 1 หลังเพื่อใช้เป็นที่ทำการสหกรณ์และสถานที่จำหน่ายผลผลิตของสมาชิก

“เหตุผลหลักในการตั้งสหกรณ์คือบริการสินค้าแก่สมาชิก เพราะการเดินทางไปซื้อของที่จำเป็นในเมืองมีความลำบาก ใช้เวลานาน ซึ่งก่อนจะลงซื้อแต่ละครั้ง สหกรณ์จะประชุมสมาชิกทุกครั้งก่อนว่าต้องการสินค้าประเภทไหน มากน้อยเพียงไร เพื่อจะได้จัดการซื้อถูก ไม่ค้างไว้นาน เช่น ไข่ ปลากระป๋อง ข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆ เพราะร้านค้าในหมู่บ้านไม่กี่ร้าน สินค้าก็ไม่หลากหลายตามที่ชาวบ้านต้องการมากนัก”

ด้าน สมปอง อินทร์ทอง อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กล่าวถึงสหกรณ์รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ห้วยหยวกป่าไซระหว่างคณะสื่อมวลชนดูกิจกรรมของสหกรณ์ โดยระบุว่า ก่อนจะมาตั้งเป็นสหกรณ์เขาก็มีการรวมตัวกันมาก่อนแล้ว ต่อมามีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์มาวางระบบบัญชีให้ ซึ่งตรงนี้เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความแข็งแรงในการใช้เงินและบริหารจัดการองค์กรได้ดีโดยใช้หลักการทางบัญชีในการวางแผนขับเคลื่อนองค์กรได้มีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น โดยผ่านคณะกรรมการสหกรณ์ที่เข้มแข็งและมีการทำงานบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

“ระบบบัญชีมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสหกรณ์มีหลายประเภทหากไม่มีการบันทึกการจด สิ่งที่ดำเนินการไปก็จะตกหล่น บกพร่องและเป็นช่องทางทำให้เกิดการทุจริตได้ ระบบบัญชีที่เข้ามาเป็นการสะท้อนในแต่ละสหกรณ์ คุณมีกิจกรรมอะไรบ้าง มีรายรับ รายจ่าย ทรัพย์สิน หนี้สิน เงินทุนหมุนเวียนเงินยังไง เหล่านี้จำเป็น สะท้อนความจริงออกมาให้สมาชิกได้รับทราบและเข้าใจ อยู่ในกรอบของสหกรณ์ที่ดี” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กล่าวทิ้งท้าย

สหกรณ์รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ห้วยหยวกป่าไซ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นับเป็นอีกสหกรณ์ต้นแบบในการนำระบบบัญชีเพื่อมาใช้ในขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

Leave a comment