ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/agricultural/229339
เกษตร/ทำกิน/สัตว์เลี้ยง : 9 มิ.ย. 2559
วิถีชีวิต ประไพพรรณ ชุมแก้ว เกษตรกรวัย 39 ปี แห่งบ้านบางโก ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อยางราคาตกฯ เธอจึงขวนขวายหาอาชีพเสริมอย่างไม่ย่อท้อ
วิถีชีวิตของชาวบ้านที่บ้านบางโก ม.9 ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี เหมือนกับคนใต้ทั่วไปอาชีพหลักคือทำสวนยางพารา หรือหากไม่มีสวนเป็นของตัวเองต้องรับจ้างกรีดน้ำยาง แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ประไพพรรณ ชุมแก้ว เกษตรกรวัย 39 ปี มองว่าหากหวังจะพึ่งจากการกรีดยางครอบครัวเองและญาติพี่น้องต้องประสบกับความอดอยากอย่างแน่นอน
ในที่สุดเธอตัดสินใจรวบรวมกลุ่มญาติพี่น้องในหมู่บ้านเดียวกัน ประกอบด้วย อุษา เยื้อโยธา วัย 54 ปี ,มาลี พรหมอินทร์ วัย 59 ปี และ อุทัยวรรณ พัฒนศักดิ์ วัย 53 ปี ที่มีแววใจรักและมีฝีมือในการทำไม้กวาด มาร้่วมตัวทำไม้กวาดดอกหญ้าและจักรสาน ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ จากนั้นพากันช่วยกันเก็บดอกอ้อ นำมาตากทำไม้กวาดขายให้กับเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ปรากฏว่า สร้างรายได้เสริมจากอาชีพหลักที่ทำสวนยางพารา ได้เป็นกอบเป็นกำ สามารถจุนเจื่อรายจ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ประไพพรรณ บอกว่า เธอเป็นน้องคนเล็ก แต่ก็มีฝีมือในการถักทอทำไม้กวาดดอกอ้อเนื่องจากเห็นว่า ช่วงนี้ฝนเริ่มตกใหม่ ๆ ดอกอ้อกำลังเบ่งบาน ส่วนใหญ่จะขึ้นตามแนวป่าลึก พี่สาวจึงได้ไปเก็บดอกอ้อ ได้มาเป็นจำนวนมากจากนั้นนำไปตากแห้ง มาทำไม้กวาดโดยใช้ต้นหวายตากแห้งและทำเป็นด้ามจับ และใช้เชือกหวายถักทอให้แน่น ใช้งานได้ 2-3 ปี แต่ขายในหมู่บ้านด้ามละ 80 บาท ทำได้วันละ 30 – 40 ด้าม ส่วนที่ถักทอด้วยเชือกฟางและนำต้นอ้อประมาณ 30 ก้านมารวมกันขายด้ามละ 50 – 60 บาท ปรากฏว่าไม่เพียงพอกับความต้องการเนื่องจากดอกอ้อในพื้นที่ อ.พนมเฉพาะช่วงนี้มีปริมาณจำกัด และจะออกดอกช่วงฝนแรกเท่านั้น
กระนั้นหลังจากที่ดอกอ้อหมดฤดูกาลแล้วชาวบ้านกลุ่มนี้ยังได้ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นโดยเฉพาะก้านใบจากมาถักทอสานทำเป็นตะกร้าอเนกประสงค์ใช้ในครัวเรือนและมอบเป็นที่ระลึกในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ อีกด้วย
“ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นช่วงลูกๆเปิดเทอม ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ลำพังจะพึ่งรายได้จากทำสวนยางพาราก็ไม่พอเพราะราคาผันผวนตลอดเวลา พอเรามาทำไม้กวาดจากดอกอ้อสามารถนำรายได้จากส่วนนี้มาสมทบเป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมใหม่ได้เป็นอย่างดี ” เธอ กล่าว
ดูเหมือนจะเข้าตำราที่ว่า “ไม่คนจนในหมู่คนขยัน” ดุจเดียวกับกลุ่มแม่บ้านที่บ้านบางโก ต.ต้นยวน อ.พนม ที่มี “ประไพพรรณ ชุมแก้ว” เป็นแกนนำ แม้ราคายางพาราจะตกต่ำแต่พวกเธอหาวิธีอื่นด้วยการทำไม้กวาดจากดอกมาขาย เพื่อสร้างรายเสริมให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี

