วัวบราห์มันในประเทศไทย (ตอนที่ 5) การพัฒนาและส่งเสริมการเลี้ยงดูวัวบราห์มัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05099151159&srcday=2016-11-15&search=no

วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 29 ฉบับที่ 635

คนปศุสัตว์เล่าเรื่อง

สุพจน์ ศรีนิเวศน์ และ ปิยศักดิ์ สุวรรณี โทร. (081) 921-2328

วัวบราห์มันในประเทศไทย (ตอนที่ 5) การพัฒนาและส่งเสริมการเลี้ยงดูวัวบราห์มัน

เราไม่มีทางเลือกอื่นในการกระจายพันธุ์วัวบราห์มัน ให้ออกไปรวดเร็วให้ถึงมือชาวบ้านนอกจากวิธี

1. ผสมโดยยกระดับพันธุ์ Up-grading กับวัวพื้นเมืองเพียงอย่างเดียว ประมาณ 5 ชั่ว (generation) ซึ่งใช้เวลา 16-18 ปี ก็จะได้วัวบราห์มันขึ้นมา

2. วิธีการขยายวัวพันธุ์บราห์มัน ควรรักษาและขยายพันธุ์วัวพื้นเมืองไปด้วยเพื่อเป็นฐานผลิตวัวบราห์มัน

3. วัวบราห์มัน น่าจะเป็นวัวพื้นฐาน (Foundation stock) ในการผลิตวัวเนื้อและวัวนมได้ทั้ง 2 ชนิด

กลุ่มวัวลูกผสมที่เราเรียกกันว่า พันธุ์สังเคราะห์ (synthetic breeds) แต่พันธุกรรมยังไม่นิ่ง

สถานภาพวัวบราห์มันจนถึงปัจจุบัน

1. ประเทศไทยเลี้ยงวัวบราห์มันมานานกว่า 60 ปี น่าจะอยู่ในสภาพผู้ส่งออกวัวพันธุ์นี้สู่ประเทศเพื่อนบ้านได้

2. ควรเน้นและทำความเข้าใจอย่าให้การเลี้ยงวัวที่มีคุณสมบัติทางด้านเศรษฐกิจต่ำมาแทรกในวัวพันธุ์ดีๆ ที่สะสมมาให้ต่ำลง

3. วัวคงไม่ใช่สัตว์เลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม (Aesthetic favor) อย่างเดียว ดูไม่นานก็คงจะเบื่อ

4. จงเลี้ยงกันเพื่อผลิตเนื้อ เพื่อเป็นรายได้ของเกษตรกรโดยรวม

โอกาสของการใช้ประโยชน์จากวัวบราห์มัน (อย่างคร่าวๆ)

ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องรู้คุณสมบัติของมัน ว่ามันจะอยู่ในสภาพแวดล้อมท้องถิ่นเราได้หรือไม่ เช่น

1. ขนาด ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป คือตัวผู้หนักราว 730-1,000 กิโลกรัม ตัวเมียหนักราว 450-650 กิโลกรัม ในขณะที่วัวเนื้อพันธุ์ยุโรป (ยกเว้นพันธุ์แองกัส) จะหนักกว่า น้ำหนักแรกเกิดต่ำ คือระหว่าง 26-33 กิโลกรัม และโตเร็วในระยะกินนม (วัดที่น้ำหนักหย่านม 205 วัน)

2. นิสัยขี้อาย (ยังมีอยู่บ้าง) ขี้สงสัย ทรหดอดทนในท้องถิ่นทุรกันดาร ชอบความละมุนละม่อมในการปฏิบัติต่อมัน ถ้าเลี้ยงดูดีก็เชื่องมาก ถ้าเปรียวก็เปรียวจัดและดุร้าย

3. สีของมัน จากเทาอ่อนหรือแดงอ่อน ไปจนถึงแดงหรือเกือบดำ แต่ส่วนใหญ่เป็นสีเทาปานกลาง ตัวผู้จะเข้มกว่าตัวเมีย

4. ทนร้อน ทนร้อนได้ถึง 40 ถึง 45 องศาเซลเซียส ทนหนาวได้ตั้งแต่ 0 ถึง -13 องศาเซลเซียส หน้าหนาวจะมีขนยาวขึ้น เรียก Winter Coat

5. คุณสมบัติที่ดี คือปรับตัวได้เก่ง ซึ่งตัวมันมี เช่น

5.1 ขนคลุมร่างกาย

– ขนสั้นเกรียน ทึบ

– ขนเป็นมัน เป็นประกายสะท้อนแสงแดดออกจากตัวได้ดี

5.2 Pigment ที่ผิวหนังมีสีดำ ป้องกันแสงแดดทะลุทะลวงเข้าในตัวได้ดี

5.3 ผิวหนังย่น พับไปพับมา กระจายความร้อนออกจากตัวได้ดีมาก

5.4 มีต่อมขับเหงื่อบริเวณใต้ผิวหนังออกจากร่างกายได้เก่งมาก

5.5 เทียบกับวัวพันธุ์ยุโรปอื่นๆ แล้ว ร่างกายมันมีอุณหภูมิความร้อนต่ำกว่าพวกวัว Taurus

5.6 ผิวหนังสั่นเฉพาะที่ไล่แมลงที่เจาะเลือดได้ คือมี Muscular membrane ใต้ผิวหนังช่วย

5.7 ตาไม่เป็นมะเร็ง

5.8 ทนต่อเห็บและโรคไข้เห็บ รวมถึงอนาพลาสโมสิสด้วย

5.9 ส่วนที่ดีที่สุดอีกอันหนึ่งนั้นคือ เมื่อเอามาผสมข้ามพันธุ์กับพวก Taurus จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันหนึ่ง ที่เราเรียกว่า heterosis หรือ hybrid vigor ที่เด่นชัดมาก

ฉะนั้น คุณสมบัติที่ดีต่างๆ เหล่านี้เราก็นำมาใช้ประโยชน์ให้แก่เราได้เต็มที่ เช่น

– ขยายเป็นพันธุ์แท้ของมันเองให้เพิ่มขึ้น

– ผสมโดยยกระดับพันธุ์กับตัวเมียวัวใดๆ ก็ได้ (Up grading) เพื่อให้เป็นพันธุ์บราห์มัน ประมาณ 4-5 ชั่ว ก็จะได้วัวบราห์มันซึ่งถือว่าเป็น 100% ได้

– ใช้น้ำเชื้อพันธุ์วัวเนื้อยุโรปผสมกับแม่บราห์มัน หรือแม่บราห์มันยกระดับพันธุ์ ผลิตเป็นวัวเนื้อลูกผสม

ยุโรป 50% กับแม่วัวพื้นฐานเลี้ยงถึง 24 เดือน แล้วขุน 4 เดือน แล้วฆ่าขาย

– ท่านจะสร้างวัวเนื้อเพื่อการค้า ท่านต้องมีแม่บราห์มันมากๆ

กล่าวโดยสรุป เกี่ยวกับการเลี้ยงวัวบราห์มันในประเทศไทย ดังนี้

1. ขอให้เน้นมากที่สุดว่า ใครก็ตามที่เลี้ยงวัวต้องมีอาหารเลี้ยงวัวได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี เช่น หญ้าสด หญ้าแห้ง หญ้าหมัก วัสดุเหลือใช้จากการเกษตร ฯลฯ (พึ่งอาหารผสมเท่าที่จำเป็นจริงๆ) พึงตระหนักอยู่เสมอว่า การให้อาหารวัวต้องให้ผ่านทางทุ่งหญ้า (พืชอาหารสัตว์) เป็นอันดับแรก

2. วางแผนป้องกัน ควบคุมโรคให้ถูกวิธีและทำเป็นระบบ

3. ในการพัฒนาส่งเสริมให้การเลี้ยงวัวเป็นไปได้รวดเร็วทั่วถึงน่าจะมีโครงการ พัฒนาที่เบ็ดเสร็จ และต่อเนื่องอย่างน้อย 16 ปี โดยมีเกษตรกรรายย่อยเป็นศูนย์กลางร่วมกันทำเป็นหนึ่งเดียวก็พอ

4. การส่งเสริมพวกเลี้ยงวัวพันธุ์แท้ (Purebred breeders) ก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วย

5. ประเทศไทย (ขณะนี้) น่าจะอยู่ในฐานะผู้ขายวัวพันธุ์บราห์มันแก่เพื่อนบ้านได้แล้ว ปัจจุบันเราทำได้น้อยมาก

6. การจดทะเบียนรับรองสายพันธุ์วัวลูกผสมบราห์มันสายเลือดระดับต่างๆ ถือเป็นงานเร่งด่วนและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการขยายฐานแม่วัวเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตแบบต่อยอดครบวงจรต่อไป ที่ทั้งภาครัฐและเอกชน (สมาคม) ต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีแม่วัวลูกผสมบราห์มันเลือดสูงเป็นจำนวนมาก

ข้อสังเกตสุดท้ายของผู้เขียน ใคร่ขอฝากไว้แก่นักเลี้ยงวัวทั่วๆ ไปว่า ประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรวัวน้อย บ่อพันธุกรรมก็จะเล็กตามไปด้วย ดังนั้น การที่ท่านใดท่านหนึ่งประสงค์จะสร้างวัวพันธุ์ใหม่ขึ้นมา ขอความกรุณาอย่าทำเพราะแหล่งพันธุกรรม (gene pool) ก็จะเล็กมากด้วย ไม่เหมือนประเทศที่เขามีวัวมาก เขาใช้วัวเป็นพันๆ หมื่นๆ ตัว แล้วผสมปิดฝูงแล้วคัดเลือกได้อย่างเต็มที่ ถึงได้มาตามที่เขาต้องการ ลูกผสมที่เรามีๆ อยู่ ปัจจุบันก็ยังเป็นลูกผสมอยู่เหมือนเดิมๆ นั่นแหละ อยากให้มาช่วยกันผลิตวัวเพื่อเป็นลูกผสมแล้วขุนขายเลย ที่เราเรียกว่า Commercial producers (เชิงพาณิชย์) ซึ่งมีปริมาณงานร่วมในกิจการนี้ถึง 96 ส่วน อีก 4 ส่วนเป็นเรื่องของการผลิตพันธุ์แท้ (Purebred breeders) 96 ส่วนนี้เรายังไม่เข้าใจกันเท่าไรเลยว่า ควรผสมแบบไหนและใช้พันธุ์อะไรดี จึงจะให้ผลผลิตได้คุณภาพสากลและประหยัดแก่ผู้ดำเนินการด้วย โดยเฉพาะผู้ผลิตที่อยู่ในภูมิภาคร้อนชื้นอย่างประเทศไทย

(อ่านต่อฉบับหน้า)

วัวพันธุ์ใหม่เกิดจากบราห์มัน/พื้นเมือง เป็นพื้นฐานที่ทำกันก็มี

– วัวพันธุ์กำแพงแสน โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

– พันธุ์ตาก พันธุ์กบินทร์บุรี โดยกรมปศุสัตว์

– วัวบราห์เมนสไตน์ หรือวัวฟรีบราห์ (Frie-Brah) โดยกรมปศุสัตว์ และ สวทช. (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ)

– วัวบราห์มัน (ซีบู-Indicus) เมื่อผสมกับวัวยุโรป (Taurus) จะมีปรากฏการณ์รวมตัวการจับคู่ของยีน ได้ผลเฮทเทอร์โรสิส หรือไฮบริด วิกเกอร์ (Heterosis or Hybrid Vigor) สูงสุด

– แต่วัวบราห์มัน (ซีบู) ผสมกับวัวไทย หรือซูบู ด้วยกันได้เฮทเทอร์โรสิส ไม่มาก ไม่ชัดเจนเท่ากับผสมกับวัวยุโรป

– ปี 2531 เจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ ได้ร่วมกันจัดตั้งสมาคมผู้บำรุงพันธุ์โคบราห์มันแห่งประเทศไทยขึ้น ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Thai Brahman Breeders Association (TBBA) เพื่อหวังอย่างเต็มที่ว่าจะให้เป็นสมบัติของเอกชนและเกษตรกรในการส่งเสริมการเลี้ยงวัวให้เป็นอาชีพที่มั่นคง ถาวร

– โคฟรีบรา

ตาก (Tak)

มีเลือดชาร์โรเล่ส์ 62.5%

บราห์มัน 37.5%

สร้างและพัฒนาพันธุ์ โดยกรมปศุสัตว์

– กบินทร์บุรี (Kabinburee)

มีเลือดซิมเมนทอล 50%

บราห์มัน 50%

สร้างและพัฒนาพันธุ์ โดยกรมปศุสัตว์

– กำแพงแสน (Kamphangsaen)

มีเลือดชาร์โรเล่ส์ 50%

บราห์มัน 25%

พื้นเมือง 25%

สร้างและพัฒนาพันธุ์ โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Leave a comment