ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/259976
วันอาทิตย์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.
ป้อง‘แม่ฮ่องสอน’เร่งสกัดไฟป่าระลอก2ลำปางไล่ตะครุบ10มือเผาตรวจค่าฝุ่นละอองยังปกติ
เมื่อเช้าวันที่ 11 มีนาคม นายครรชิต วงค์พระยา หัวหน้าหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่า จ.แม่ฮ่องสอน จัดชุดปฏิบัติการเหยี่ยวไฟภาคกลาง ร่วมกับหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าฯ ของ จ.แม่ฮ่องสอน ออกปฏิบัติงาน เร่งทำแนวกันไฟรอบวัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อป้องกันไฟป่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้จากการลาดตระเวนพบว่า พื้นที่แนวกันไฟเดิม ที่ได้เคยทำมาก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ได้เกิดมีใบไม้จากต้นไม้ หล่นลงมาทับถมอีกจนแนวกันไฟหายไป จึงต้องดำเนินการทำแนวใหม่
จากนั้นเวลา 12.00 น. ศูนย์อำนวยการควบคุมการแก้ปัญหาไฟป่า และหมอกควันไฟป่า ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นที่บริเวณ ดอยขอ พื้นที่บ้านไม้แงะ หมู่ 8 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จึงประสานให้ศูนย์ควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน ชุดปฏิบัติการเหยี่ยวไฟ และทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 สนธิกำลังกันเข้าไปทำการดับไฟป่า โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดเดิมที่หน่วยเหยี่ยวไฟเคยเข้าทำการดับไฟป่าไปแล้วหนหนึ่ง แต่ได้เกิดมีไฟป่าเกิดขึ้นอีกเป็นรอบที่ 2
เช่นเดียวกับที่ จ.ลำปาง ตำรวจภูธร จ.ลำปาง แถลงสถิติการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบจุดไฟเผาป่า ตั้งแต่วันที่ 3-10 มี.ค. 2560 สามารถจับกุมได้จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย สภ.เมืองลำปาง 2 ราย แม่เมาะ 1 ราย เถิน 2 ราย ห้างฉัตร 1 รายเขลางค์ 2 รายแจ้ห่ม 1 ราย แม่ทะ 1 ราย ขณะที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) พื้นที่ภาคเหนือ ค่าฝุ่นละอองสูงสุดอยู่ที่ ต บ้านดงแม่เมาะ อ แม่เมาะ จ ลำปาง วัดค่าได้ 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัมฯ ทั้งนี้ยังไม่มีพื้นที่ใดปริมาณฝุ่นสูงถึงขั้นเป็นอันตราย
วันเดียวกัน นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.พิจิตร เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการพัฒนาบึงสีไฟ อ.เมืองพิจิตร ณ ห้องปฏิบัติการปัญญาโรจน์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โครงการชลประทานพิจิตร โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้การต้อนรับ ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้ ปลัดสำนักนายกฯ ได้ปรึกษาหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทน อปท. ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และตัวแทนภาคประชาชน
โดย ผวจ.พิจิตร ได้รายงานสภาพปัญหาบึงสีไฟซึ่งมี 6 ด้าน คือ ปัญหาแหล่งน้ำแห้งขอด ปัญหาด้านวัชพืช ปัญหาแหล่งน้ำตื้นเขิน ปัญหาการบริหารจัดการ ปัญหาการบุกรุก และปัญหาทางไหลเข้าออกของน้ำ ซึ่ง จ.พิจิตร ได้วางแนวทางการพัฒนาบึงสีไฟ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การขุดลอกแหล่งน้ำเป็นแก้ม เพื่อกักเก็บน้ำ จำนวน 3,000 ไร่ ส่วนที่ 2 คือการปรับปรุงอาคารพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ งบประมาณรวมกว่า 817 ล้านบาท จากนั้น นายจิรชัย และคณะ ได้ลงตรวจพื้นที่บึงสีไฟเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาการพัฒนาบึงสีไฟ
ในโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงสีไฟ (ช่วงที่ 2-4) และ โครงการก่อสร้างปรับปรุงและพัฒนาบึงสีไฟ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (ระยะที่ 1 และ 2) พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้เห็นภาพการเชื่อมโยงการทำงานให้แล้วเสร็จ หน่วยงานสำคัญที่จะดำเนินการออกแบบโครงสร้างจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานไว้ คือ กรมทรัพยากรน้ำ ที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 มี.ค. ตามที่สำนักงบประมาณได้กำหนดไว้ จากนั้น กรมเจ้าท่า ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะเป็นผู้ดำเนินการของบประมาณต่อรัฐบาล
ขณะนี้สำนักงบประมาณรอความพร้อมด้านเอกสารของกรมเจ้าท่า เมื่อสำนักงบประมาณได้รับเอกสารครบถ้วนภายในวันที่ 15 มี.ค. จึงจะดำเนินการพิจารณา คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน จะดำเนินการเสร็จสิ้น ซึ่งการดำเนินการจัดสรรขุดลอกบึงสีไฟจะเป็นประโยชน์กับประชาชนในการนำน้ำไปใช้ต่อภาคการเกษตร ทำให้เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เมืองไทยจะต้องบูรณาการหน่วยงานภาครัฐให้มากขึ้น
“ส่วนงบประมาณ เฟสแรก ได้ขอมาในเรื่องการขุดลอกบึงสีไฟ งบประมาณ 300 ล้านบาท รวมทั้งบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ จะได้รับการพิจารณาด้วย ซึ่งต้องพิจารณาดำเนินการควบคู่กันไป ทำให้ประชาชนทั้ง 2 จังหวัดได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการดูแล เมื่อได้รับงบประมาณก่อสร้างต่างๆมาแล้ว จะต้องดำเนินการดูแลอย่างต่อเนื่องและจริงจังด้วย” นายจิรชัย กล่าว
