ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/260626
วันพฤหัสบดี ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560, 14.08 น.
วันที่ 16 มี.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 3 จังหวัดภาคเหนือ ลำปาง แม่ฮ่องสอน และตาก ในช่วงนี้มีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐาน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งทาง ปภ. ได้ประสาน 9 จังหวัดภาคเหนือเพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างเข้มข้น โดยใช้กลไก “ประชารัฐ” พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ เพื่อติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมคุมเข้มไม่ให้มีการเผาป่าในพื้นที่เสี่ยง ควบคู่กับการจัดทำข้อตกลงของชุมชนประกาศเขตห้ามเผาเป็นระยะเวลา 60 วัน ตามสภาพความเสี่ยงภัยของพื้นที่ รวมถึงระดมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันมิให้วิกฤตมากขึ้น
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ พบว่า พื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 68 – 153 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) มีค่าระหว่าง 61 – 130 ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมี 3 จังหวัด ที่มีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานและส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพ ได้แก่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน และตาก โดยลำปาง ในพื้นที่ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ มีคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่า 108 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) มีค่า 130 แม่ฮ่องสอน ในพื้นที่ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่า 153 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) มีค่า 115 ตาก ในพื้นที่ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่า 136 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) มีค่า 107
อย่างไรก็ตามยังมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายหมู่บ้าน รถกระจายเสียง วิทยุ และโทรทัศน์ชุมชนถึงผลกระทบจากปัญหาไฟป่าหมอกควัน ตลอดจนแจกจ่ายหน้ากากอนามัยและให้คำแนะนำการปฏิบัติตนในช่วงเกิดสถานการณ์หมอกควัน ซึ่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป
