อิทธิฤทธิภัยแล้ง ไฟไหม้หญ้าลามเผาบ้าน เผ่นกระเจิงที่พิษณุโลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/260232

วันอังคาร ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

อิทธิฤทธิภัยแล้งไฟไหม้หญ้าลามเผาบ้านเผ่นกระเจิงที่พิษณุโลกปศุสัตว์สั่งตุน‘หญ้า-น้ำ’‘รอยล’ฟันธง43จว.มีปัญหาคสช.ส่งคนลงพื้นที่เสี่ยง

ระทึก! มือบอนจุดไฟเผาหญ้าข้างทางกลางดึก ไฟลามเผาร้านขายยาง-อู่พ่นสีรถ ที่พิษณุโลก วอดทั้งหมด เถ้าแก่กับครอบครัว 5 ชีวิต ต้องหนีตายระทึก จนท.ระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดตั้งแต่เช้ามืดนาน 3 ชม.ถึงคุมได้ สถานการณ์ภัยแล้งยังรุนแรง กระทบหลายจังหวัดผลิตน้ำประปา ขณะที่วัวเริ่มขาดแคลนหญ้าทั้งบุรีรัมย์-พิจิตร ปศุสัตว์เตรียมสำรองหญ้า “รอยล” ฟันธง 43 จังหวัด มีปัญหาแน่

เมื่อเวลา 03.03น.วันที่ 13 มีนาคม ร.ต.ท.สังเวียน เอี่ยมโซ้ รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังนกแอ่น จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุไฟป่าลุกลามเข้าไหม้บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงบริเวณริมถนนเส้นพิษณุโลก-หล่มสัก (ขาล่อง) หมู่3 บ้านหนองขอน ต.แก่งโสภา อ.วังทองจึงแจ้งผู้บังคับบัญชาพร้อมประสานรถน้ำจาก อบต.ใกล้เคียงกว่า10 คัน เข้าสกัดไฟ

ไฟไหม้หญ้าลาม2ร้านหนีระทึก

ที่เกิดเหตุเป็นร้านขาวการยางและอู่ช่างเณรรับพ่นสีรถยนต์ เพลิงโหมลุกไหม้ ทั้ง2ร้านอย่างหนักเนื่องจากมียางรถยนต์ ทินเนอร์ และสี เป็นวัสดุติดไฟง่ายและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ใช้เวลานานกว่า3ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ปรากฎว่าร้านขาวการยางและอู่ช่างเณรร้านพ่นสีรถ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

สอบสวนนายอิทธิชัย น้ำใจเย็น เจ้าของร้านขาวการยางกล่าวว่าขณะกำลังนอนหลับภายในร้านพร้อมภรรยาและครอบครัวรวม5 ชีวิต ได้กลิ่นเหม็นไหม้ยางรถยนต์ เมื่อลุกดูพบว่าเพลิงลุกลามเข้าร้านแล้วจึงรีบพากันวิ่งหนีออกมาและเอาน้ำมาช่วยกันดับไฟ แต่ไฟลุกไหม้ยางรถที่เอาไว้ใช้ทำถังขยะอย่างรวดเร็วลามไหม้ร้านพ่นสีรถอยู่ติดกันจนวอดเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นสันนิษฐานคาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่แห้งทำให้ไฟไหม้หญ้าข้างทางลุกลามไหม้ทั้ง2ร้านซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน6 เข้ามาเก็บหลักฐานหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง

เลขาคสช.ห่วงแล้ง-กำชับคุมเผาป่า

ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เปิดเผยว่าพล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการคสช.เป็นประธานประชุมสำนักเลขาธิการคสช.กล่าวถึงการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆเข้าดูแลสถานการณ์ในหลายพื้นที่เข้าคลี่คลายปัญหาไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนืออย่างต่อเนื่องกำชับกองทัพภาคที่ 3 ควบคุมสถานการณ์และเข้มงวดมาตรการ ไม่ให้มีการเผาป่า พร้อมให้เตรียมเดินหน้าโครงการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าในฤดูฝน โดยเลขาธิการ คสช.มีความเป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ เตือนให้ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งกองทัพ ได้เร่งดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นรูปธรรม เน้นการบริการจัดการน้ำให้เพียงพอ

ภัยแล้งหลายจว.กระทบน้ำประปา

สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มทวีความรุนแรง ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานได้รับกระทบถึงการผลิตน้ำประปา เจ้าหน้าที่ ต้องสำรวจขุดเจาะแหล่งน้ำดิบเพื่อช่วยเหลือ โดย จ.นครพนม ระดับน้ำโขงลดลงจนเห็นสันดอนทราย สำนักงานประปาส่วนภูมิภาค สาขา อำเภอธาตุพนมจึงหาแหล่งสูบน้ำแห่งใหม่ บริเวณริมน้ำโขง บ้านแสนพัน เชื่อว่าจะผลิตน้ำได้เพิ่มอีกเท่าตัว

ในพื้นที่ หนองพรานแน เขตบ้านดอนหมู ต.พระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย อยู่ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูหนองพรานแน เนื้อที่ 73 ไร่ กรมทรัพยากรน้ำให้หน่วยทรัพยากรน้ำ ภาค 3 เร่งขุดลอก ให้เสร็จทันภายในวันที่ 11มิถุนายนนี้ เชื่อจะช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง และป้องกันน้ำท่วมได้ในระยะยาว

ขณะที่ ในลุ่มแม่น้ำยมที่ไหลผ่านอ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง อ.โพทะเล จ.พิจิตร เข้าขั้นวิกฤติมีสภาพแห้งขอด เดินข้ามระหว่างสองฝั่งแม่น้ำได้ ขณะที่น้ำใต้ดิน แหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาลดระดับลงด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 ต้องนำเครื่องสูบน้ำ ระยะไกลมาติดตั้งบริเวณฝายยางสามง่ามเพื่อสูบน้ำในแม่น้ำยมไปผลิตน้ำประปา

บุรีรัมย์แล้งรวมพลจับปลาขาย

จ.บุรีรัมย์ สถานการณ์ภัยแล้งที่ปีนี้ มาเร็วขยายวงกว้างในพื้นที่หลายอำเภอใน จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง ทั่วทุกหนแห่ง น้ำในหนองน้ำขนาดเล็ก ในหลายหมู่บ้านต่างแห้งขอดรวมทั้งแหล่งน้ำข้างทาง ทำให้จับปลาได้ง่าย ชาวบ้านหนองไทร ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส รวมกลุ่มกันขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง พร้อมอุปกรณ์จับปลาพื้นทั้งสวิง ตะแกรง และถังน้ำ ตระเวนออกหาจับปลาในหนองน้ำที่ใกล้แห้ง โดยไม่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำ ก็จับปลา กุ้ง ปู กบ โดยเฉพาะจับปลาช่อน ปู กบรวมทั้งปลาซิวได้จำนวนมาก นำมาทำเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัว ส่วนที่เหลือนำไปขายในหมู่บ้านและตามตลาดเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวช่วงหน้าแล้ง สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเฉลี่ยวันละ 200-500บาท

แล้งลามอาหารวัวบุรีรัมย์-พิจิตร

ภัยแล้ง นอกจากส่งผลให้น้ำแห้งขอดแล้ว มีเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ในพื้นที่ ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เดือดร้อนอย่างหนักขาดแคลนอาหารหน้าแล้ง นายพจน์ภิรัตน์ เนียมจุ้ย ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าจากกรณีดังกล่าวปศุสัตว์จ.บุรีรัมย์ได้เตรียมแผนเชิงรุกไว้ได้สั่งให้ปศุสัตว์อำเภอทุกอำเภอนำแผนไปบริหารจัดการในพื้นที่ ทำความเข้าใจและสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้ามีเหตุการณ์ภัยแล้งจริง ปศุสัตว์จังหวัดมีคลังอาหารสัตว์ 4 แห่ง สำรองฟางฟ่อนหญ้าแห้งกว่า 253 ตันไว้ช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมเตือนอย่าเผาทำลายตอซังข้าว ให้เก็บกักตุนไว้หากเกิดวิกฤตขาดแคลน

ที่ จ.พิจิตร สถานการภัยแล้งในพื้นที่ ได้ส่งผลกระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวในต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร เดือดร้อนขาดแคลนอาหาร ต้องนำฝูงวัวออกเดินทางไปเลี้ยงเพื่อหาอาหารระยะทางไกลขึ้นกว่าเดิม เพื่อหาหญ้าสีเขียว ที่ขึ้นอยู่กลางแปลงนาของเกษตรกรที่ทำการเก็บเกี่ยวข้าวและหยุดทำการเกษตร เป็นอาหารวัวที่เลี้ยงไว้เพื่อให้มีอาหารเพียงพอบริโภคในช่วงหน้าแล้ง

ชาวนาอ่างทองวอนช่วยขาดน้ำ

สถานการณ์ภัยแล้งใน จ.อ่างทอง ชาวนาในพื้นที่ ต.เทวราช อ.ไชยโย จ.อ่างทอง ครวญพื้นที่ทุ่งนาแหล่งสร้างรายได้ถูก ให้จัดให้เป็นทุ่งรับน้ำ เป็นแก้มลิงรับน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก

แต่ช่วงหน้าแล้ง ขาดแคลนน้ำทำนา ต้นข้าวที่ออกรวงแห้งเหี่ยวเฉา ขณะที่ในคลองชลประทานน้ำแห้งขอดคลอง ส่วนบ่อน้ำบาดาลที่ขอไปยังกรมทรัพยากรน้ำบาดาลยังไม่เคยได้ เมื่อเกิดภัยแล้งต้องอาศัยแหล่งน้ำธรรมชาติจากคลองลำท่าแดงและหนองบึงที่กำลังจะแห้งขอดคลองนำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังออกรวงอยู่ในพื้นที่นาใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิต ปีนี้ก็ต้องลุ้นกันสุดตัวว่าจะมีน้ำใช้ล่อเลี้ยงต้นข้าวจนเก็บเกี่ยวหรือไม่

รอยลเตือน105อ.34จว.ระวังขาดน้ำ

นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์กรมหาชน)กล่าวว่า สถานการณ์แล้งปีนี้ว่าไม่รุนแรงในส่วนอุณหภูมิที่ร้อนมากจะเป็นบางช่วงเพราะยังมีความกดอากาศต่ำจากตอนบนมาช่วยบรรเทา และคาดการณ์ว่าฝนมาเร็วก่อนเข้าหน้าฝนเดือนพฤษภาคม โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังขาดแคลนน้ำ 105 อำเภอ 34 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางลุ่มเจ้าพระยา

แนะบริหารจัดการน้ำแบบใหม่

โดยแนะการใช้น้ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำแหล่งน้ำเพิ่มในพื้นที่ใต้เขื่อน จัดการบริหารวิธีใช้ใหม่ เน้นการใช้อย่างประหยัดทุกภาคส่วน ชาวนาปรับเปลี่ยน อย่าอาศัยน้ำจากระบบชลประทานอย่างเดียว หันทำเกษตรผสมผสาน รู้จักใช้ประโยชน์ที่ดิน สร้างแหล่งน้ำของตนเอง ตามหลักทฤษฎีใหม่หรือร่วมกลุ่มกัน ทำเกษตรแบบ Macro management ทำหลากหลาย ไม่จำเป็น

Leave a comment