เช็คด่วน!61จว.ลูกเห็บจ่อถล่ม เตือนระวังถึง9มีค. น่าน-พะเยา-สุราษฎร์อ่วมไฟป่า

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/259365

วันอังคาร ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560, 20.30 น.

เช็คด่วน!61จว.ลูกเห็บจ่อถล่ม
เตือนระวังถึง9มีค.
น่าน-พะเยา-สุราษฎร์อ่วมไฟป่า
4จังหวัดกระอัก”หมอกควันพิษ”

“น่าน-พะเยา-สุราษฎร์ฯ” อ่วม “ไฟป่า” เผาวอดป่าชุมชน-เขตอุทยานฯ วอดกว่า 80 ไร่ กรมควบคุมโรค เตือน 4 จังหวัดภาคเหนือระวัง “หมอกควันพิษ” ขณะที่ 61 จังหวัด เตรียมรับมือ “พายุฤดูร้อน” เสี่ยงโดน “ลูกเห็บ” ถล่ม ช่วงวันที่ 7-9 มี.ค.นี้

หลายจังหวัดกำลังเผชิญกับปัญหา “ไฟป่า-หมอกควันพิษ” รวมถึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาจาก “พายุฤดูร้อน” ที่เคลื่อนปกคลุมประเทศ และอาจนำมาซึ่งพายุฝนฟ้าคะนอง และพายุลูกเห็บ โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันทางภาคเหนือ ว่า ขณะนี้เกิดสถานการณ์ไฟป่าใน 3 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน และพะเยา ภาคใต้ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี

“น่าน-พะเยา-สุราษฎร์ฯ”ผจญไฟป่า
สำหรับ จ.น่าน เกิดไฟป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้า และป่าห้วยสาลี พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายประมาณ 60 ไร่, จ.พะเยา เกิดไฟป่าบริเวณป่าชุมชนบ้านปงสนุก ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายของพื้นที่ป่า และ จ.สุราษฎร์ธานี เกิดไฟป่าบนภูเขาเพชร ต.สองแพรก อ.ชัยบุรี พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายประมาณ 20 ไร่

ทั้งนี้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในจังหวัดที่เกิดเหตุได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกปฏิบัติการดับไฟป่า พร้อมจัดทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่าลุกลามขยายวงกว้างแล้ว

9จว.ภาคเหนือ”ฝุ่น”เกินมาตรฐาน
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ พบว่า พื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, ลำปาง, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, น่าน, แพร่, พะเยา และตาก ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 72-154 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) มีค่าระหว่าง 70-115 ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดย จ.ลำปาง ในพื้นที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ มีคุณภาพอากาศเกินเกณฑ์มาตรฐาน และอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ค่า PM10 อยู่ที่ 154 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI 115

“ปภ.จึงได้ประสาน 9 จังหวัดภาคเหนือ ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างเข้มข้น โดยใช้กลไกประชารัฐ พร้อมจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดและอำเภอเป็นศูนย์กลางในการอำนวยการสั่งการควบคุมปัญหาไฟป่าและหมอกควัน อีกทั้ง แจกจ่ายหน้ากากอนามัยและให้คำแนะนำการปฏิบัติตนในช่วงเกิดสถานการณ์หมอกควัน” นายฉัตรชัย กล่าว

“พายุฤดูร้อน-ลูกเห็บ”จ่อถล่ม61จว.
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบน คาดว่าจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ สำหรับส่งผลกระทบต่อพื้นที่ต่างๆ เป็นดังนี้ 1.ช่วงวันที่ 7-9 มี.ค.60 จะเกิดพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก 2.ช่วงวันที่ 8-9 มี.ค.60 จะเกิดพายุฤดูร้อนในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง

ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสาน 61 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อนช่วงวันที่ 7-9 มี.ค. โดยจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรับมือ 24 ชั่วโมง แยกเป็น

– ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, ตาก , กำแพงเพชร, พิษณุโลก, พิจิตร และเพชรบูรณ์

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย, บึงกาฬ, เลย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร , กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

-ภาคกลาง 19 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, ลพบุรี, อ่างทอง, สระบุรี, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา , กาญจนบุรี, ราชบุรี, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, นครนายก และกรุงเทพมหานคร

-ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด

4 จว.ภาคเหนือส่อวิกฤติ”หมอกควัน”

ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงปัญหาหมอกควันภาคเหนือที่กำลังรุนแรงในขณะนี้ ว่า จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ในภาคเหนือมีหมอกควันกระจายหลายพื้นที่ ที่ต้องเฝ้าระวังมาก คือ ที่ อ.เมือง จ.ลำพูน , อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน , อ.เมือง จ.พะเยา และ อ.เมือง จ.แพร่

ส่วนพื้นที่ที่มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มี 2 พื้นที่ คือ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง มีค่าฝุ่นลองอยู่ที่ 158 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ มีค่าฝุ่นละออง 169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดังนั้นขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานาน ปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ควันไฟ หมอกควันเข้าในอาคาร โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการสูดละอองหมอกควันเข้าปอด

“พ่อเมืองน่าน”สั่งสืบหา”มือเผา”

วันเดียวกัน ที่ จ.น่าน นายธีระพล มีทองขาว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า กรมป่าไม้ นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย พร้อมอุปกรณ์ดับไฟป่า และรถดับเพลิง เร่งสกัดดับไฟป่าบริเวณ พิกัด 47 Q 689368 , 204448039 ในเขตป่าสงวนฯป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี ในพื้นที่ ต.ขึ่ง อ.เวียงสา หลังไฟป่าลุกลามเข้าเขต แปลงปลูกป่าฟื้นฟูระบบนิเวศป่าต้นน้ำของกรมป่าไม้ พร้อมทำแนวกันไฟป่า และฉีดพ่นน้ำสกัดดับไฟป่าที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงกินบริเวณราว 5 ไร่ โดยใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงดับไฟป่าไว้ได้

ด้านนายไพศาล วิมลรัตน์  ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) น่าน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จ.น่าน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ทุกอำเภอ เฝ้าระวังป้องกันการเกิดไฟป่า และสืบหาผู้กระทำการเผาด้วย หากพบให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

“เชียงราย”ใช้หุ่นยนต์สกัดไฟป่า
ที่ จ.เชียงราย นายไพฑูรย์ นาคแท้ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ปล่อยขบวนรถปฏิบัติการป้องกันไฟป่าและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ที่ศูนย์ ปภ.เขต 15 เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการสนับสนุนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงราย , พะเยา , แพร่และน่าน โดยศูนย์ ปภ.เขต 15 เชียงราย ได้นำรถยนต์ต่อต้านวินาศกรรม พร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงระยะไกล หรือรถหุ่นยนต์ LUF 60 จำนวน 2 คัน มาใช้ในปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย โดยสำหรับ LUF 60 มีรัศมีทำการผ่านรีโมทคอนโทรล โดยไม่ต้องใช้คนขับ ระยะทางประมาณ 300 เมตร ขึ้นปฏิบัติการบนพื้นที่สูงชันได้กว่า 30 องศา พ่นน้ำได้ไกลกว่า 75 เมตร ฉีดพ่นน้ำได้ด้วยหัวฉีด 360 หัว ใช้ฉีดพ่นโฟมกรณีเกิดไฟไหม้จากน้ำมันเชื้อเพลิงได้ รวมทั้งเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินสามารถเปลี่ยนจากระบบควบคุมด้วยรีโมทมาใช้คนควบคุมได้อีกด้วย

พัฒนา”แอพฯ”แจ้งพิกัด
“ปภ.เขต 15 เชียงราย ให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลอย่างมาก จึงได้ใช้การดูจุดความร้อนหรือฮอตสปอตจากดาวเทียมขององค์กรนาซา ทั้งผ่านระบบ VIIRS ที่มีความละเอียดสูง สามารถจับความร้อนได้แม้จุดเล็กๆด้วยความสูง 375 เมตร และยังมีระบบ MODIS ที่มีระยะสูงกว่าเพื่อนำมาประมวลสถานการณ์โลก เอเชีย ภูมิภาค ประเทศไทยและพื้นที่ ปภ.15 จากนั้นรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประจำทุกวัน รวมถึงพัฒนาแอพพริเคชั่นผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านและกำนันที่เป็นหน่วยย่อยที่สุดในพื้นที่ได้แจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมงด้วย ปัจจุบันได้พัฒนาแอพพริเคชั่นจนเสร็จแล้วและได้นำเสนอต่อผู้ว่าฯรับทราบแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะดำเนินการได้ต่อไป” นายไพฑูรย์ กล่าว

ส่งฝูงบินยิงสลาย”ลูกเห็บ-หมอกควัน”
ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมฯได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ฝนหลวงบินสำรวจพื้นที่ภาคเหนือที่มีปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง จากการเผาป่า โดยเฉพาะใน จ.ลำปาง ซึ่งจากการติดตามสภาพอากาศ พบว่า ระหว่างวันที่ 8-10 มี.ค. มีแนวโน้มสภาพอากาศเอื้อต่อการทำปฏิบัติการฝนหลวง แก้ปัญหาหมอกควัน จ.ลำปาง รวมทั้งในจังหวัดภาคเหนือ และสลายพายุลูกเห็บ โดยใช้เครื่องบินฝนหลวง รุ่นซูเปอร์คิงแอร์ ที่สามารถขึ้นบินระดับความสูง 2 หมื่นฟุตขึ้นไปโจมตีกลุ่มเมฆ โดยใช้พลุสารซิลเวอร์ไอโอไดด์ (Agl) ไปยิงเมฆเย็น สลายพายุลูกเห็บ ให้ตกมาเป็นฝน เพื่อชะล้างหมอกควัน ฝุ่นละอองในอากาศได้ด้วย

“วันที่ 13 มี.ค.จะเริ่มทดลองครั้งแรกสำหรับงานวิจัยใหม่ใช้สารฝนหลวง สูตรเย็น นำน้ำแข็งแห้งไปโปรยสลายชั้นบรรยากาศ เพื่อเปิดช่องให้หมอกควัน กระจายตัวออกจากสภาพอากาศไปได้มากยิ่งขึ้น โดยใช้เครื่องบินคาซ่า จากหน่วยฝนหลวง จ.เชียงใหม่ ส่วนเครื่องบินรุ่นซูเปอร์คิงแอร์ จะปฏิบัติการครอบคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษที่เกิดพายุลูกเห็บเป็นประจำทุกปี คือ จ.ชัยภูมิ และ เลย” นายสุรสีห์ กล่าว

“เลย”จับต้นเพลิงไฟป่า1ราย

ที่ จ. นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผวจ.เลย กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าปีนี้มาเร็วมากกว่าปกติ สถิติปี 2559 จ.เลย มีความสูญเสียจากไฟป่าถึง 9,000 ไร่ สาเหตุหลักเกิดจากการเผาป่าขยายพื้นที่ทำการเกษตร จุดไฟเผาขาดการควบคุมก่อให้ไฟลุกลาม จุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ และส่วนหนึ่งคือเผาป่าเพื่อให้เกิดเห็ดป่าในป่าเกิดขึ้นในฤดูกาลใหม่ โดยปีนี้ จ.เลย เกิดไฟป่าแล้วหลายพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดมีมาตรการแก้ไขปัญหาแล้ว

“นอกจากนี้ ได้ประกาศเอาผิดกับคนที่จุดไฟ แล้วลุกลามเกิดไฟป่า จะมีความผิดทางคดีอาญาและมีโทษปรับตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข คนทำผิดต้องรับผิดชอบ ขณะนี้ที่ อ.เมือง สามารถจับกุมคนที่ทำความผิดจุดไฟได้ 1 รายแล้ว” นายคุมพล กล่าว

กรมอุตุฯเตือนหลาย จว.ระวังพายุฤดูร้อน 
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 มี.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน” ฉบับที่ 6 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 7-10 มี.ค.2560 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ซึ่งจะมีผลกระทบ ดังนี้

-ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดน่าน, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, พิจิตร และเพชรบูรณ์

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, นครราชสีมา, ชัยภูมิ และขอนแก่น

-ภาคกลาง บริเวณจังหวัดลพบุรี และสระบุรี

-ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และใกล้ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (7 มี.ค.60) แล้ว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปทำให้เกิดพายุฤดูร้อนได้

Leave a comment