ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/259846
วันเสาร์ ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.
ปภ.สรุป 8 จว.เหนือ-อีสาน เจอพายุฤดูร้อนถล่ม สั่งจนท.เร่งช่วยเหลือ ขณะที่มหาสารคาม เกิดลมหัวกุดพัดศาลาการเปรียญวัดป่าทรุดทั้งหลัง เสียหายกว่า 6 ล้านบาท ไม่ต่างจาก อ.บ้านผือจ.อุดรธานีเจอถล่มระลอกสองหลังคาปลิวว่อน ด้านลิงที่จ.เลยเริ่มขาดแคลนอาหารบุกกุฎิพระ ส่วนควาญช้างสุรินทร์เร่งปลูกพืชสำรองหวั่นอาหารขาดเคลน
เมื่อวันที่ 10มีนาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงสรุปสถานการณ์ภัยแล้งและพายุฤดูร้อนหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้เกิดพายุฤดูร้อนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด รวม 20 อำเภอ 34 ตำบล แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ อ.เมือง จ.ตาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ และอ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น เกิดพายุฝนใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อุบลรัตน์ อ.ชุมแพ อ.แวงน้อย จ.บุรีรัมย์ เกิดพายุฝนใน 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง นางรอง กระสัง ปะคำ พลับพลาชัย โนนสุวรรณ โนนดินแดง หนองกี่ หนองหงส์ จ.มหาสารคาม เกิดพายุฝนใน 3 อำเภอ ได้แก่ กันทรวิชัย เชียงยืน โกสุมพิสัย และจ.ชัยภูมิ เกิดพายุฝนในอ.ภูเขียว ทั้งนี้ ปภ.ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย
ลมหัวกุดพัดศาลาวัดพังทั้งหลัง
ส่วนสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชน อาคารสิ่งปลูกสร้างอย่างหนัก อย่างที่จ.มหาสารคาม แรงลมพัดศาลการเปรียญวัดป่าบุพนิมิต บ้านหนองหิน หมู่ 4 ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเสาศาลาเป็นท่อนซุงขนาดใหญ่ พังถล่มลงมาทั้งหลัง
พระอธิการปัญญา ทัตจิตโต เจ้าอาวาสวัดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 9 มีนาคม เกิดพายุฝนฟ้าคะนองหรือภาคอีสานเรียกว่า ลมหัวกุด พัดกระหน่ำศาลาการเปรียญขนาดความยาว 44 เมตร ความกว้าง12 เมตร มีเสา 44 เสา สร้างมาตั้งแต่ปี 2558 ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังลงมาทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุมีพระและเณรเข้าไปทำความสะอาด ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สิ่งของที่อยู่ในศาลาเสียหายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พระพุทธรูป มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท
บ้านผือเจอถล่มรอบ2หลังคาว่อน
เช่นเดียวกับ ที่จ.อุดรธานี นายณฐพล วิถี นายอำเภอบ้านผือเปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 9 มีนาคมเกิดพายุถล่มที่บ้านนาเตย หมู่ 10 และหมู่ 15 ต.โนนทอง เสียหายรอบสอง มีบ้านเรือนเสียหาย 20 หลังคาเรือน ยุ้งข้าวเสียหายอีก 6 หลัง โดยลมพายุพัดหลังคาปลิวว่อน และพัดถล่มยุ้งข้าวลงมาทับรถจักรยานยนต์ รถไถนาเสียหาย ทางอำเภอได้รายงานปภ.จังหวัด และประสานหน่วยงานท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือตามระเบียบราชการเรียบร้อยแล้ว
เลยลิงหนีแล้งบุกรื้อกุฏิพระ
ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งในจ.เลยที่รุนแรงขึ้น ทำให้ลิงวอกวัดถ้ำผาหมากฮ่อ ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง ซึ่งถือเป็นลิงวอกฝูงสุดท้ายของประเทศไทยอพยพลงจากภูเขามาหากินด้านล่าง เพราะอาหารในป่าเริ่มขาดแคลน พระและญาติโยมที่มาทำบุญและนักท่องเที่ยวนำอาหารมาเลี้ยง ทางวัดได้ทำสระน้ำไว้ให้ลิ่งเล่นน้ำคลายร้อนด้วย แต่ฝูงมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสร้างความเดือดร้อนให้พระที่วัดถ้ำผาหมากฮ่อเป็นอย่างยิ่ง เพราะลิงบุกเข้ารื้อทำลายข้าวของในกุฏิ นอกจากนี้ ยังบุกไปหากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไปตามๆกัน ซึ่งทางพระอาจารย์โสภณ สันตะจิตโต รักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำผาหมากฮ่อเผยว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ด้วย
ควาญสต๊อคอาหารปลูกพืชสำรอง
ส่วนที่จ.สุรินทร์ ซึ่งเริ่มก้าวเข้าหน้าแล้งเต็มตัว หลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้กันบ้างแล้ว ส่วนห้วยหนองคลองบึงต่างๆระดับน้ำเริ่มลดลงเช่นกัน ขณะที่คนเลี้ยงช้าง ควาญช้างเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งที่เกิดขึ้น โดยการปลูกพืชอาหารช้าง เช่น หญ้าและอ้อยสำรองไว้ เพื่อให้มีกินจนผ่านหน้าแล้งไปได้ ถือเป็นการช่วยเหลือตนเองอีกด้านหนึ่ง นอกเหนือจากอาหารช้างที่โครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ ขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำมาให้ช้างกินแต่ละวัน
น้ำยมแห้งขอดยาวกว่า50กม.
เช่นเดียวกับ จ.พิจิตร แม่น้ำยมลดระดับและแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว เป็นทางยาวประมาณ 50 กิโลเมตร โดยเฉพาะแม่น้ำยมจุดที่อยู่ใต้เขื่อนยาง ที่หน้าวัดบ้านรังนก ต.รังนก อ.สามง่าม เหลือเพียงน้ำที่ขังในจุดที่เป็นหลุมส่วนลึกของแม่น้ำยม ส่งผลกระทบกับประชาชนและเกษตรกร เนื่องจากไม่มีน้ำต้นทุนทำการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวที่ปลูกตลอดสองฝั่งแม่น้ำ รวมไปถึงน้ำในการอุปโภค และระบบนิเวศน์สัตว์น้ำที่จะขาดที่อยู่อาศัยจากน้ำที่แห้งขอด ซึ่งทางปภ.พิจิตรและชลประทานพิจิตรนำเครื่องสูบน้ำระยะไกลสูบน้ำ 4 แสนลูกบาศก์เมตรส่งไปให้พื้นที่ใต้เขื่อน ให้ประชาชนมีน้ำใช้และรักษาระบบนิเวศ
แม่ฮ่องสอนไฟป่า-หมอกควันทุเลา
ส่วนสถานการณ์ไฟป่า ที่จ.แม่ฮ่องสอน นายครรชิต วงค์พระยา หัวหน้าหน่วยส่งเสริมปฎิบัติการดับไฟป่าแม่ฮ่องสอน ร่วมกับชุดปฏิบัติการเหยี่ยวไฟภาคกลางออกลาดตระเวนตรวจดับไฟป่าที่บ้านห้วยเดื่อ ต.ผาบ่อง อ.เมืองพื้นที่เสียหาย 4 ไร่ ในเขตป่าสงวนฯ ป่าแม่ปายฝั่งซ้าย และที่บ้านหัวน้ำแม่สะกึด ต.ผาบ่อง อ.เมือง สาเหตุมาจาการลอบเผาของราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในจ.แม่ฮ่องสอนทุเลาลงไปมาก หลังมีฝนตกในอ.ปาย ปางมะผ้า ขุนยอม สบเมย ส่งผลให้สภาพอากาศบนท้องฟ้าสดใส ไม่มีหมอกควันจากไฟป่า จากรายงานของ Gostda จุดไฟป่า หรือ Hotspot ประจำวันที่ 10 มีนาคมจนถึง เวลา 13.28 น.พบจุดไฟป่าที่อ.ขุนยวม อ.แม่สะเรียง
