พังงากระหึ่ม ตื่นตาวาฬเพชฌฆาตดำ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/263355

วันอาทิตย์ ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นายณัฐพงษ์ จันทร์อินทร์ ผู้จัดการเรือนำเที่ยวคุระกรีนวิว ทัวร์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 1 เมษายน ว่า หลังจากที่มีการพบเห็น วาฬเพชฌฆาตดำ หลายสิบตัว ของนักท่องเที่ยวขณะเดินทางไปชมความงามใต้ท้องทะเล อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และ วิถีชีวิตของชาวมอแกน ทำให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจองทัวร์เพื่อเดินทางไปเที่ยวที่หมู่เกาะสุรินทร์ ในวันเสาร์อาทิตย์ นี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

และพบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะนำกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ของ The moken Eco village เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ขึ้นเรือหางยาว เดินทางไปชมความงามใต้ท้องทะเล บริเวณ เกาะไข่ อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งเป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังหมู่เกาะสุรินทร์ ก็ได้พบกับฝูง โลมา หรือ วาฬ จำนวน 30-40 ตัว ขึ้นมาว่ายเล่นใกล้ ๆ กับเรือหางยาว ทำให้นักท่องเที่ยว ได้ร่วมเก็บภาพความประทับใจในระยะหนึ่ง ก่อนจะดำน้ำหายไป

ด้าน ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หน.กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า จากลักษณะพบว่าวาฬดังกล่าวเป็นวาฬเพชฌฆาตดำ (False killer whale) ซึ่งเป็นฝูงเดียวกับที่เจอ บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน และ หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามการอพยพย้ายถิ่นของวาฬฝูงดังกล่าว ตั้งแต่ตอนใต้ของหมู่เกาะสิมิลัน ขึ้นเหนือมายังหมู่เกาะสุรินทร์ และ บริเวณเกาะไข่ จ.พังงา ในวันนี้

ซึ่งคาดว่า วาฬฝูงดังกล่าวจะย้ายถิ่นขึ้นไปเรื่อย ๆ สู่จังหวัดระนอง หรืออาจถึงประเทศพม่า ก่อนจะวนกลับลงมาทางใต้อีกครั้ง พร้อมแนะนักท่องเที่ยวเมื่อพบ วาฬ หรือ โลมา ว่าไม่ควรให้อาหารแก่สัตว์ในธรรมชาติโดยเด็ดขาด ไม่จับ-สัมผัส สัตว์ป่า ท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์เพื่อความยั่งยืน โดยมีข้อควรปฏิบัติในการชมวาฬ หรือ โลมา คือ ควรเดินเรือช้าๆ ความเร็วไม่เกิน 4 น๊อต ในรัศมี 50-150 เมตรจาก วาฬหรือ โลมา เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมทั้งเดินเรือเข้าทางด้านข้างของตัววาฬ หรือ โลมาเท่านั้น ไม่เดินเรือตัดหน้าหรือตามหลัง วาฬ หรือ โลมา เพราะจะทำให้โลมาได้รับอันตรายและตกใจกลัว “ไม่ให้อาหารสัตว์ในธรรมชาติ” เนื่องจาก ทำให้สัตว์มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและนิเวศวิทยาของสัตว์ป่า สร้างพฤติกรรมเรียนรู้ผิดๆ ให้กับสัตว์ซึ่งนำไปสู่อุบัติเหตุจนเกิดการบาดเจ็บ หรืออาหารที่ให้อาจมีการปนเปื้อนทำให้สัตว์เกิดความเจ็บป่วยทรมานจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของนักท่องเที่ยว ไม่ควรจับ-สัมผัสหรือลงเล่นน้ำกับ วาฬ หรือ โลมา ในธรรมชาติ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อคนหรือสัตว์ จนอาจทำให้บาดเจ็บหรือ

Leave a comment