สส.ระดมสื่อการศึกษา จัดทำ”ห้องสมุดสีเขียว”ฟื้นฟู13ร.ร.เมืองคอนอ่วมน้ำท่วม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/263213

วันศุกร์ ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560, 17.59 น.

“กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” ระดมเครือข่ายความร่วมมือพร้อมจิตอาสา ลงพื้นที่ “เมืองคอน”  จัดทำห้องสมุดให้โรงเรียน ต.ช.ด. ใน อ.ชะอวด และ อ.นบพิตำ พร้อมระดมเปิดรับบริจาคหนังสือและวัสดุอุปกรณ์ลำเลียงมอบให้โรงเรียนในพื้นที่เบ็ดเสร็จ 13 แห่งรวด หลังตรวจสอบพบได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้  โดยมีพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการเมื่อ 19 มีนาคมที่ผ่านมา

นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จะผ่านพ้นจนเข้าสู่ภาวะปกติมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังคงมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายและผลกระทบจากเหตุดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้หน่วยงานรัฐทุกแห่ง เร่งดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือไปถึงประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุดและรวดเร็วที่สุด

โดยในส่วนของ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) นอกจากจะได้เข้าร่วมกับหน่วยงานในสังกัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนด้านต่างๆมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ล่าสุดยังได้จัดสร้างห้องสมุดและส่งมอบหนังสือพร้อมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับโรงเรียนที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัยใน จ.นครศรีธรรมราช รวม 13 แห่ง โดยมีพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา

“การดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องจาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้รับการประสานงานจากสมาคมศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช เพื่อขอรับการสนับสนุนหนังสือและห้องสมุดแก่โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีโรงเรียน 2 แห่ง คือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ต.ช.ด.) บ้านหลังอ้ายหมี อ.ชะอวด และโรงเรียน ต.ช.ด.บ้านห้วยตง อ.นบพิตำ ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเรื่องการทำห้องสมุด นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนในพื้นที่อีก 11 แห่ง ที่ขาดแคลนหนังสือและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานในห้องสมุด เนื่องจากทุกอย่างถูกทำลายเสียหายจากเหตุน้ำท่วมไปจนหมดสิ้น ดังนั้น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงได้เร่งดำเนินการให้ช่วยเหลือให้อย่างเร่งด่วน”

นายสากล กล่าวต่อว่า หลังได้รับแจ้ง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงได้ประสานไปยังเครือข่ายความร่วมมือต่างๆ อาทิ สำนักห้องสมุด มหาวิทยาเกษตรศาสตร์, สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ชมรมห้องสมุดเฉพาะ ศูนย์ประสานงานสารสนเทศสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเครือข่ายห้องสมุดสีเขียว เพื่อขอรับบริจาคหนังสือและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนทั้ง 13 แห่ง ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกองค์กร

โดย สำนักห้องสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และศูนย์ประสานงานสารนิเทศ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยจิตอาสาภายใต้ความร่วมมือของเครือข่ายห้องสมุดสีเขียวและศูนย์ประสานงานสารสนเทศ สาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ได้แก่ เจ้าหน้าที่จิตอาสาจาก ธกส. มหาวิทยาลัยนเรศวร และสถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น ได้ร่วมกับ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เข้าดำเนินการจัดสร้างห้องสมุดและฟื้นฟูภูมิทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับ โรงเรียน ต.ช.ด.บ้านหลังอ้ายหมี และโรงเรียน ต.ช.ด.บ้านห้วยตก ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการจนแล้วเสร็จและได้ส่งมอบให้กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 อย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ส่วนอีก 11 โรงเรียนนั้น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเครือข่ายความร่วมมือทุกแห่ง ได้ดำเนินการเปิดรับบริจาคและจัดหาหนังสือพร้อมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ โดยมีการลำเลียงลงไปยังพื้นที่และส่งมอบให้กับโรงเรียนทั้ง 11 แห่งเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมาเช่นกัน

“ผลแห่งความสำเร็จในการส่งมอบวัสดุ อุปกรณ์ลงไปจังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนและการไปรษณีย์ไทย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเครือข่ายความร่วมมือทุกองค์กร รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจส่งมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งแม้จะเป็นการช่วยเหลือที่จำกัดอยู่ในกลุ่มเล็กๆ แต่หากทุกภาคส่วนช่วยกันคนละไม้คนละมือ โดยแยกกันไปทำงานในแต่ละส่วนแต่ละพื้นที่ตามความถนัดของตน สุดท้ายความช่วยเหลือก็จะกระจายออกไปถึงประชาชนในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ยังหวังว่า ห้องสมุด รวมทั้งหนังสือและอุปกรณ์ที่ส่งมอบไปในครั้งนี้ จะสามารถช่วยปลูกปัญญาให้กับเด็กและเยาวชนของทุกโรงเรียนในพื้นที่ เพื่อให้ทุกคนเติบโตอย่างมีคุณภาพและนำความรู้กลับมาดูแลท้องถิ่นของตัวเองให้มีความยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าว

Leave a comment