ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/262459
วันจันทร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560, 16.36 น.
27 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้มีหนังสือถึงกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เรื่องการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ 13 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ระนอง ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี ระยอง สมุทรสาคร เชียงใหม่ สงขลา ภูเก็ต ตาก สุราษฎร์ธานี และชลบุรี โดยขอใช้พื้นที่ป่าชายเลนเป็นการเฉพาะ เพื่อสร้างอาคารชุดใน จ.ระนอง ซึ่งมีแรงงานต่างด้าว รวม 64,212 คน แบ่งเป็นได้รับการพิสูจน์สัญชาติและนำเข้าตามข้อตกลงระหว่างประเทศไทยกับเมียนมา จำนวน 39,850 คน และได้รับการผ่อนผัน จำนวน 24,036 คน ส่วนใหญ่มีที่พักอาศัยตามสลัมหรือที่พักที่นายจ้างจัดให้
โดย จ.ระนองได้กำหนดพื้นที่อยู่อาศัยหรือจัดโซนนิ่งไว้ 2 แห่ง คือ พื้นที่ป่าชายเลนบริเวณหลังป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 (ซ.หลังโรงเจ) ต.บางริ้น อ.เมือง จำนวน 120 ไร่ และที่ดินบริเวณบ้านปากคลอง หมู่ที่ 1 (ซ.แพแหวนทอง) ต.ปากน้ำ อ.เมือง อีกประมาณ 73 ไร่
ทั้งนี้ ขอให้ ทช. เพิกถอนสภาพป่าชายเลนทั้ง 2 พื้นที่ และมอบให้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ เพื่อให้เอกชนมาลงทุนก่อสร้าง โดยสัมปทานหรือเช่าพื้นที่ทำโครงการในรูปแบบวิลล่า แบ่งเรือนที่พักเป็นโซน ห้องละ 4 คน มีการดูแลรักษาความปลอดภัย พื้นที่พักผ่อน สนามกีฬา ร้านซุปเปอร์มาเก็ต เป็นต้น รวมทั้งขอยกเว้นกฎหมายผังเมือง เนื่องจากเป็นพื้นที่สีเขียว พร้อมทั้งระบุด้วยว่าหากได้รับอนุมัติโครงการจะแล้วเสร็จภายใน 10 เดือน
ด้าน น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดี ทช. กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนการนำเสนอ และปรึกษาหารือสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ยังไม่เข้าสู่กระบวนการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อผ่อนผันให้สามารถเข้าไปใช้พื้นที่ป่าชายเลนได้ โดยขั้นตอนขอเพิกถอนป่าชายเลนต้องไปชี้หรือพิจารณาพื้นที่ก่อนว่าจะใช้พื้นที่ตรงไหนบริเวณใด จากนั้นนำเสนอ ครม.เพื่อขอเพิกถอน เมื่อได้รับการผ่อนผันจะต้องนำเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาการใช้พื้นที่ป่าชายเลน คงต้องใช้เวลาอีกระยะ เพราะต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนด้วยกัน
“สภาพพื้นที่ป่าชายเลนในบริเวณที่ขอเพิกถอน ขณะนี้ไม่มีสภาพของความเป็นป่าชายเลนแล้ว น้ำทะเลก็เข้าไม่ถึงมานานแล้ว อีกทั้งมีประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าไปบุกรุกสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยอีกด้วย คือเปลี่ยนสภาพจากป่าชายเลนเดิมไปหมดแล้ว การพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตนั้น หลักการสำคัญ คือ ต้องมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และสังคมเป็นหลัก นอกจากนี้แม้พื้นที่จะเป็นป่าชายเลนที่ค่อนข้างเสื่อมโทรม แต่หาก ครม.อนุมัติ ให้เพิกถอนให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวได้จริง ครม.จะต้องจัดงบประมาณเพื่อชดเชย ให้มีการปลูกป่าชายเลน เป็นจำนวน 20 เท่าของพื้นที่เดิม หรือไม่ต่ำกว่า 4,000 ไร่ ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเรื่องใดๆแจ้งมายังกรมฯอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงผลการประชุมและนำเสนอโครงการของกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น” อธิบดี ทช.กล่าว
