ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/264620
วันอาทิตย์ ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560, 17.17 น.
9 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ มอบหมายให้นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมชม และพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพื้นที่ปาชุมชนบ้านอาลอ-โดนแบน ท้องที่ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พร้อมปลูกต้นกำลังเลือดม้าพะยูง กันเกรา โดยมีนายจำเริญศักดิ์ สารทิมา หัวหน้าผู้พิพากษาศาลอาญาภาค 6 ร่วมเดินทางเยี่ยมชมป่าชุมชน ฯ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และ ประชาชนชาวตำบลนาดี ให้การต้อนรับอย่างอบอบอุ่น
นายจเรศักดิ์ กล่าวว่า ” ป่าชุมชนบ้านอาลอ-โดนแบน เป็นป่าชุมชนที่ได้รับธงพระราชทานราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า(รสทป.) จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ” ในอดีตป่าอาลอ โดนแบน แห่งนี้เป็นที่เก็บหาของป่า ไม้ฟืน ไว้ใช้สอยของชาวบ้าน ในช่วงต้นฤดูฝน เห็ดผึ้งในป่าทามจะออกดอกก่อนเห็ดผึ้งที่อยู่บนป่าบก ชาวบ้านจะเก็บหาไปเพื่อการบริโภค ช่วงต้นฤดูฝน น้ำสีแดงจากเทือกเขาพนมดงรักจะไหลทะลักลงสู่แม่น้ำมูน กลิ่นของรสของสายน้ำสีแดงเป็นเหมือนเสน่ห์ที่ล่อให้ปลาจากแม่น้ำมูนขึ้นมาเกี้ยวกันในป่าทาม ชาวบ้านก็จะไปดักจับปลาจากลำน้ำมาเป็นอาหาร

‘ด้วยชีวิตที่อยู่กับความอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ชาวบ้านจึงตกลงกันว่า จะต้องรักษาป่าผืนน้ำไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์ แม้จะต้องต่อสู้กับนายทุนที่จะมาขอพื้นที่ทำสัมปทานทำท่าทรายและขุดทราย โดยให้ผลตอบแทนเป็นเงินหลายแสนบาท แต่ด้วยความรักผืนป่าแห่งนี้ จึงได้รวบรวมชาวบ้านป้องกันดูแลรักษาป่ามายาวนาน ใช้การพูดคุย และ สายสัมพันธ์การเป็นคนชาติพันธุ์เดียวกันของคนในชุมชน โดยไม่ต้องรอการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ชุมชนจึงได้รักษาป่าแห่งนี้ไว้ได้ถึง 2,000 ไร่ จนได้รับรางวัลจากลูกโลกสีเขียว เมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา’
นายจเรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ป่าอาลอโดนแบน ปัจจุบันเป็นแหล่งเรียนรู้ เรื่องการจัดการป่าของชุมชน ของสถาบันราชภัฎสุรินทร์ นักศึกษาจากสถาบันศึกษาหลายแห่งมาทำวิทยานิพนธ์จนจบปริญญาโท แหล่งเรียนรู้เรื่องป่าทามของหน่วยงานของรัฐ ทั้งสำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ กรมป่าไม้ องค์กรเอกชนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุที่ป่าอาลอ โดนแบน เป็นระบบนิเวศของป่าทามดั้งเดิม มีความอุดมสมบูรณ์สูงที่หาได้ยากยิ่งของลุ่มน้ำมูน ป่าอาลอโดนแบน เป็นตัวอย่างของกลุ่มคนเล็กๆ ในสังคมอีสาน ที่มีสำนักการอนุรักษ์และเคารพในธรรมชาติเป็นแบบอย่างที่ควรยกย่อง

ในโอกาสนี้รองอธิบดีกรมป่าไม้ ยังได้กล่าวชื่นชมในความสามัคคี และขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันรักษาป่าจนกลับคืนสู่ความสมบูรณ์ จนมีความหลากหลายของพรรณไม้ เป็นป่าที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคอีสาน
นอกจากนี้ยังได้แจกพันธ์กล้าไม้(จากศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนที่ 4 (ศรีสะเกษ) และ โครงการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาป่าไม้ท่าสว่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ) ให้กับผู้นำชุมชนและประชาชน รวม 37 ชนิด จำนวน 370 ต้น อาทิ ฯ ผักหวานป่า ว่านตะขบ รางจิต กำลังเลือดม้าเป็นต้น

