26 เม.ย. นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคการเมือง โดยยึดโยงกับมาตรฐานจริยธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระและ ส.ส. ส.ว. รวมไปถึงคณะรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะกรรมการบริหารพรรคการเมืองถือเป็นส่วนสำคัญของการเข้ามาสู่ตำแหน่งทางการเมืองที่สูงขึ้น จึงควรมีจริยธรรมและบทลงโทษที่เข้มงวดกว่าสมาชิกพรรคการเมืองและบุคคลทั่วไป ว่า ในส่วนตัวไม่มีปัญหาที่จะกำหนดมาตรฐานจริยธรรมกรรมการบริหารพรรคให้สูงว่าสมาชิกทั่วไป หรือมีมาตรฐานสูงเท่าครม.องค์กรอิสระ หรือองค์กรตามที่กมธ.กำหนด ก็ไม่มีปัญหา และคิดว่าประชาธิปัตย์ก็ไม่ขัดข้องอะไร แต่ถ้ามีมาตรฐานอื่นก็ต้องพิจารณาด้วย เพราะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีที่มาที่หลากหลาย ส่วนหนึ่งมาจากนักการเมืองท้องถิ่น บางส่วนมาจากสาขาพรรค บางส่วนมาจากส.ส.
“ดังนั้นการกำหนดจริยธรรมก็ต้องพิจารณาให้เหมาะสม เพราะที่มาแตกต่างกัน ในพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีปัญหา ผมมั่นใจว่าคนที่มาเป็นกรรมการบริหารพรรค คงจะยอมรับมาตรฐานนี้ เพราะคนที่จะเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคก็ต้องรู้ว่าถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้องก็ต้องมีบทลงโทษ หากรับไม่ได้ก็ไม่ควรเข้ามาเป็นกรรมการบริหาพรรค”นายนิพิฎฐ์ กล่าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่าคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะกำหนดเรื่องจริยธรรมของคนที่เป็นกรรมการบริหารพรรคให้สูงกว่าสมาชิกทั่วไป เพราะอำนาจหน้าที่รับผิดภายในพรรคการเมืองนั้นก็มีมากกว่าสมาชิก ของพรรคการเมืองโดยทั่วไปอยู่แล้ว การจะกำหนดให้มีมาตรฐานจริยธรรมที่สูงขึ้นเทียบเท่าบุคคลในหลายองค์กรโดยเฉพาะในองค์กรอิสระ ตนก็ไม่มีอะไรติดใจ และไม่กังวลเรื่องบทลงโทษที่ร้ายแรง เพราะเมื่อได้รับหมายให้เป็นกรรมการบริหารพรรคแล้ว เราก็ไม่มีความคิดที่จะไปดำเนินการใด ๆ ที่เป็นความผิดทางกฎหมาย หรือละเมิดจริยธรรมอยู่แล้ว หากมีการบัญญัติไว้เราก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามนั้นเพียงแต่ต้องระมัดระวังว่าต้องไม่ให้เกิดมีการกลั่นแกล้งกันได้