‘ฝนหลวง’ปรับแผนปฏิบติการ ช่วยเกษตรกักเก็บน้ำ-เลี่ยงพื้นที่รับผลกระทบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271658

วันอังคาร ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 15.36 น.

23 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวสุมามาศ ไชยวงศ์ นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ รักษาราชการแทน ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เตรียมความพร้อม ในการบรรเทาปัญหาภัยแล้งโดยให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำทั้ง 5 ศูนย์ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมความพร้อมโดยติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เกษตรและเติมน้ำให้กับเขื่อนเก็บกักน้ำ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ตามแผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อป้องกันและแก้ไขภัยแล้งตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2560 เป็นต้นมา

จากการติดตามสถานการณ์น้ำจากเก็บกักของเขื่อนภูมิพล ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ขณะนี้ยังมีปริมาณที่ต่ำกว่าเกณฑ์ เก็บกักปกติร้อยละ 50 และจากการสำรวจความต้องการน้ำฝนของพื้นที่ในเขตรับผิดชอบพบว่า ยังมีความต้องการขอรับการสนับสนุนฝนหลวง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว ซึ่งมีสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการปฎิบัติการฝนหลวง และเพื่อเร่งเติมน้ำต้นทุนเขื่อนหลักในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จึงได้มีการปรับแผนการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในเดือนมิถุนายน 2560 ดังนี้

คงหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ปฏิบัติการต่อเพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตร และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนหลักในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งมีพื้นที่การเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา โดยมีเครื่องบินชนิดซีเอ็น 235 จำนวน 1 เครื่อง ปรับฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดตาก ณ ท่าอากาศยานตาก อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก เป็นหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตร และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักใกล้กับเขื่อนหลักในพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ พื้นที่การเกษตรจังหวัดพิษณุโลกพิจิตร เพชรบูรณ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน โดยมีเครื่องบินชนิดกาซ่าจำนวน 2 เครื่อง และปรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก เป็นฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตร และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนหลักในพื้นที่รับผิดชอบ

อย่างไรก็ตามศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเหนือ ยังคงติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง และพร้อมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง ช่วยเหลือพื้นที่ร้องขอทันทีที่สภาพอากาศเหมาะสม รวมทั้งหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น พื้นที่ที่เก็บเกี่ยวผลผลิต พื้นที่ที่ประสบวาตภัย น้ำหลาก น้ำท่วม และดินถล่ม เป็นต้น

ทั้งนี้ สามารถแจ้งข้อมูลสถานการณ์ความต้องการฝนในพื้นที่โดยตรง ทางหมายเลขโทรศัพท์ 053-275051 ต่อ 12 และติดต่อข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ หรือทางเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร http://www.royalrain.go.th รวมทั้งมีบริการข้อมูลผลตรวจเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศบนหน้าเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร

Leave a comment