24 พ.ค.60 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งว่า โดยตั้งแต่วันที่ 16-23 พ.ค. มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด รวม 51 อำเภอ 175 ตำบล 988 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,059 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 12 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากใน 2 จังหวัด 11 อำเภอ 64 ตำบล 479 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.สุโขทัย น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย อ.คีรีมาศ อ.ศรีนคร อ.สวรรคโลก อ.ทุ่งเสลี่ยม อ.บ้านด่านลานหอย และอ.กงไกรลาศ รวม 56 ตำบล 405 หมู่บ้าน และจ.พิจิตร น้ำจากอ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สามง่าม อ.โพทะเล และอ.บึงนาราง รวม 8 ตำบล 29 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ และระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์อุทกภัยโดยรวมคลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู

“จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงวันที่ 24-28 พ.ค. อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก อีกทั้งคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ซึ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้ ช่วงวันที่ 24-25 พ.ค. ภาคเหนือ บริเวณจ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจ.เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น และชัยภูมิ” อธิบดีปภ. กล่าว

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ขณะที่ช่วงวันที่ 25-28 พ.ค.นี้ ภาคเหนือ บริเวณจ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง บริเวณ จ.ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล  ภาคตะวันออก บริเวณจ.นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และในช่วงวันที่ 24-28 พ.ค. ภาคใต้บริเวณ จ.ระนอง  พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมือฝนตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม รวมถึงคลื่นลมแรงซัดเข้าฝั่ง

“ขอให้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา  ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่านริมชายฝั่งทะเล พื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด และพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตราย ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ประสานหน่วยเกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ด้านเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้” อธิบดีปภ. กล่าว