ลงทุนซ่อมเขื่อนแม่สรวย200ล้าน ยันปี61เก็บน้ำเต็ม-แข็งแรงรับมือแผ่นดินไหว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271419

วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 13.48 น.

22 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า จากกรณีที่กรมชลประทานได้ทำการซ่อมแซมเขื่อนแม่สรวย ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำสรวย ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เนื่องจากมีการร้องเรียนเรื่องความเสียหาย อันเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2557 และเกิดอาร์ฟเตอร์ช็อคตามมากว่า 1,000 ครั้ง ล่าสุดพบว่าการซ่อมแซมยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดซ่อมแซมแล้วเสร็จในปี 2560 อย่างไรก็ตามทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ลาว สำนักชลประทานที่ 2 ซึ่งรับผิดชอบเขื่อนได้มีการปล่อยระบายน้ำส่วนใหญ่ ออกสู่ท้ายน้ำและคงเหลือปริมาณน้ำในเขื่อนเพียงเล็กน้อย ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เปิดเผยภายหลังตรวจดูเขื่อนแม่สรวย ว่าสาเหตุที่ระดับน้ำในเขื่อนแม่สรวยแห้งโดยไม่กักเก็บน้ำเอาไว้อย่างเต็มที่ เนื่องจากหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2557 ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้มีการระบายน้ำออกจนเกือบหมดเพื่อรักษาสภาพและจะได้ทำการซ่อมแซมเขื่อนได้อย่างเต็มที่ โดยได้มีการกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้บ้างบางส่วนแม้ว่าหากกักเก็บน้ำได้อย่างเต็มระบบแล้ว จะทำให้มีปริมาณน้ำได้กว่า 73 ล้านลูกบาศก์เมตร และระดับน้ำสูงกว่า 507 เมตร ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวสามารถหล่อเลี้ยงพื้นที่ทางการเกษตรใน 4 อำเภอคือ อ.แม่สรวย อ.พาน อ.แม่ลาว จ.เชียงราย และ อ.แม่ใจ จ.พะเยา ทำให้เกษตรกรจะได้ประโยชน์อย่างมากก็ตาม

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการซ่อมแซมเขื่อนนั้นดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 โดยในปีแรกได้มีการซ่อมแซมตรงบานประตูน้ำโดยใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว ปัจจุบันกำลังดำเนินการบริเวณขอบเขื่อนทั้งหมดและพัฒนาในภาพรวมโดยในปี 2560 นี้จะใช้งบประมาณอีกราว 80-90 ล้านบาท และปี 2561 จะจัดระบบทั้งหมดให้เข้าที่ซึ่งจะใช้งบประมาณอีกประมาณ 100 ล้านบาท ก็จะแล้วเสร็จ ซึ่งก็จะสามารถยืนยันได้ว่าเขื่อนแม่สรวยไม่ได้มีสภาพเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวมากนัก และเมื่อซ่อมแซมแล้วเสร็จก็จะยิ่งแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้หากเกิดแผ่นไหวขึ้นบ้างก็คงจะไม่มีผลกระทบอีกแล้ว

“การที่รัฐลงทุนอีก 200 กว่าล้านบาทเพื่อให้เขื่อนครบระบบดังกล่าว จะทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้อย่างเต็มที่ตามปริมาณดังกล่าวได้ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป หลังจากที่ในปัจจุบันกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้เพีง 10% ของปริมาณที่สามารถกักเก็บได้ทั้งหมดหรือเพียงประมาณ 7.4 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นในช่วงนี้ประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอดังกล่าวอาจจะเหนื่อยเรื่องน้ำกันบ้างในช่วงนี้เพราะน้ำอีก 90% ยังกักเก็บไม่ได้ แต่ยืนยันว่าปีหน้าจะมีน้ำเต็มระบบแน่นอน” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

 

Leave a comment