ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/271535
วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 20.26 น.
22 พ.ค.60 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวสรุปสถานการณ์น้ำไหลหลาก และเอ่อล้นตลิ่งจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ว่า ตั้งแต่วันที่ 16 – 22 พ.ค.มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด รวม 49 อำเภอ 168 ตำบล 963 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,636 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง 4 จังหวัด 21 อำเภอ 103 ตำบล 792 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย , พิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ เลย ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำท่วมลดลงทุกพื้นที่ แต่ยังคงท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยลง ส่วนภาคใต้ และภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ จึงได้ประสานจังหวัดภาคใต้และภาคตะวันออก รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด

“ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศทำให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา คาดว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึงบริเวณ ต.บางหลวงโดด อ.บางบาล และ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยควบคุมปริมาณการไหลของน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เข้าสู่พื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตกและตะวันออกของเขื่อนเจ้าพระยา อาจส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กรม ปภ.จึงได้ประสาน 7 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี เตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง” อธิบดี ปภ.กล่าว
