ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/politic/308117
“มาร์ค” แนะ “บิ๊กตู่” นักการเมืองดี ต้องมุ่งแก้ปัญหา ปชช.
“มาร์ค” ชี้เป็นเรื่องดี “บิ๊กตู่” ยอมรับเป็นนักการเมือง สร้างความชัดเจนบทบาท แนะต้องพร้อมถูกตรวจสอบ จี้เดินตามโรดแม็พ อย่าเลื่อน
4 ม.ค.61- ที่พรรคประชาธิปัตย์ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ยอมรับขณะนี้เป็นนักการเมืองแล้วว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะนายกฯ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมานานพอควร ก็ต้องมีความชัดเจน ซึ่งบทบาทที่ทำอยู่เป็นเรื่องของการเมืองทั้งนั้นแต่สังคมจะติดบทบาทของทหาร ความหมายของทหารคือผู้ที่อยู่ในกองทัพที่มีบทบาทแตกต่างออกไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ถ้าแยกบทบาทชัดได้ก็เป็นเรื่องดี ขณะที่ไม่จำเป็นต้องมาเข้าใจหัวอกนักการเมืองแต่ขอให้ปฏิรูปโดยทำให้เห็นว่านักการเมืองที่ดีจะต้องเป็นอย่างไร คือต้องมุ่งหน้าแก้ปัญหาให้กับประชาชน รับฟังเสียงประชาชน พร้อมรับการตรวจสอบ และยอมรับความแตกต่างทางความคิด
“ผมไม่ขอวิเคราะห์ว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่าเป็นนักการเมือง ถือเป็นการเปิดตัวสำหรับอนาคตทางการเมืองหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ต้องถามนากยฯเอง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำให้ประชาชนเห็นว่าเป็นที่พึ่งได้ และเชื่อว่าหลังจากนี้คงมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นหลายพรรค ส่วนจุดยืนของแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไรคงต้องคอยติดตามดู ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ระบุหากมีปัญหาเกี่ยวกับกรอบเวลาตามโรดแม็พไม่ใช่ความรับผิดชอบของสภานิติบัญญัติ(สนช.) และคสช.นั้นว่า ตารางเวลาเลือกตั้งผูกอยู่กับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เงื่อนไขสำคัญคือกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับที่ต้องเสร็จเรียบร้อย หากเลื่อนออกไปเหตุผลที่จะเกิดได้คือเรื่องของกฎหมาย จึงอยากให้ คสช.มีความชัดเจน ตรงไปตรงมากับประชาชน หากตั้งใจเดินทางตามโรดแม็พในฐานะผู้มีอำนาจ ก็ต้องรับผิดชอบให้เดินไปตามนี้ เพราะแม่น้ำทุกสายมาจาก คสช.ทั้งสิ้น และคสช.ต้องรับผิดชอบกับผลงานต่างๆ ที่ออกมา การบระบุว่าในสามารถเกี่ยวข้องเรื่องกฎหมายได้นั้นไม่จริงเพราะคำสั่ง คสช.ล่าสุดก็ออกมาแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองจึงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะ คสช.มีอำนาจพิเศษที่อยู่เหนือทั้งนิติบัญญัติ และตุลาการ ตาม ม.44 ดังนั้นหากยืนยันตามโรดแม็พก็ให้ประกาศมาถ้ามีปัญหาจะช่วยแก้ไข แต่ถ้าคิดว่าจะไม่เอาตามโรดแม็พก็ต้องบอกให้ชัดว่าเพราะอะไร จึงจะเรียกว่ามีธรรมาภิบาลตามที่นายกฯ พูดทุกวัน
โดย นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ว่าด้วยเรื่องการดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรค กำลังดูช่องทางทางกฎหมายอยู่ เพราะขณะนี้ตัวกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีผลบังคับใช้ จะสามารถยื่นตรงได้หรือไม่ หรือมีช่องทางในการยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเป็นคนละช่องทางตามรัฐธรรมนูญ จึงต้องดูให้รอบคอบว่าส่วนไหนมีความเหมาะสมที่สุด โดยฝ่ายกฎหมายจะสรุปและรายงานผลการพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในแง่ของการขัดรัฐธรรมนูญว่ากระทบใคร อย่างไรบ้าง ซึ่งอาจไม่ตรงกันระหว่างผลกระทบที่มีต่อสมาชิกพรรค และพรรค
ทั้งนี้ “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” ยังกล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ จับมือกับพรรคเพื่อไทยด้วยว่า ได้ยืนยันหลายครั้งแล้วว่าพรรคมุ่งเตรียมความพร้อมเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนให้มากที่สุด การจะจับมือกับใครต้องยึดอุดมการณ์ที่ตรงกัน ซึ่งขณะนี้ไม่มีความคิดเรื่องนี้
