“วัฒนา” โล่งศาลฎีกานักการเมือง สั่งประกัน 5 ล้าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/politic/325223

“วัฒนา” โล่งศาลฎีกานักการเมือง สั่งประกัน 5 ล้าน

วัฒนา เมืองสุข,บ้านเอื้ออาทร,ทุจริต,เปิดข้อหา,อสส,พรบความผิดองค์กรรัฐฯ,เสี่ยเปี๋ยง

เปิดข้อหา “อสส.” ฟ้องทุจริตบ้านเอื้ออาทรชุดแรก 9 ราย “ไก่ วัฒนา”เจอ148,157 “เสี่ยเปี๋ยง-ลูกน้อง-บ.ก่อสร้าง” เจอผิดสนับสนุน– พ.ร.บ.ความผิดองค์กรรัฐฯ

9 พ.ค.61 – เมื่อเวลา 11.30 น. คณะทำงานอัยการคดีปราบปรามทุจริต ได้นำตัว “นายวัฒนา เมืองสุข” อายุ 60 ปี อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ 2 กับพวกซึ่งเป็นเอกชน และคำฟ้องคดีโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ ที่ลงนามโดย “นายเข็มชัย ชุติวงศ์” อัยการสูงสุด พร้อมสำนวนไต่สวนของ ป.ป.ช. และเอกสารหลักฐานจำนวน 6 ลังใหญ่ ใส่รถเข็น ไปยื่นฟ้อง ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นชุดแรก 9 ราย จากผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดที่ให้ฟ้อง 19 ราย

สำหรับผู้ถูกกล่าวหา ที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1-9 ในวันนี้ ประกอบด้วย 1.นายวัฒนา เมืองสุข 2.นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการระหว่างวันที่ 9 ก.ย.48 – 19 ก.ย.49 3.นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผอ.ฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย 4.นายอภิชาติหรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ 5.น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง 6.น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด 7.น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ 8.บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดยนายปกรณ์ อัศวีนารักษ์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน 9.บริษัท ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไทย เฉน หยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) โดยนางพิมพ์วรา รัชต์ธนโรจน์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน เป็นจำเลยที่ 1-9 ซึ่งศาลฎีกาฯ รับเป็นคดีหมายเลขดำ อม.42/2561 โดยนัดฟังคำสั่งในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.

 

ส่วนนายอภิชาตหรือเสี่ยเปี๋ยง และ น.ส.รัตนา ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง ปัจจุบันถูกจำคุกในคดีร่วมทุจริตระบายข้าวจีทูจี

 

"วัฒนา" โล่งศาลฎีกานักการเมือง สั่งประกัน 5 ล้าน

 

ขณะที่นายมานะ , น.ส.กรองทอง และ น.ส.รุ่งเรือง ยังไม่มาพบอัยการในวันนี้

ส่วน “คำฟ้องของอัยการสูงสุด” ได้ระบุข้อหาจำเลยทั้ง 9 ดังนี้

 

“นายวัฒนา” อดีต รมว.พม.จำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 – 400,000 บาท หรือประหารชีวิต และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ม.157 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับประกอบ ม.83, 91

 

“นายมานะ” อดีตกรรมการ กคช. จำเลยที่ 2 ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ โดยเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6,11 และเป็นผู้สนับสนุนนายวัฒนา ตาม ม.148 ประกอบ ม.83, 86, 91ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด แก่ตนเองหรือผู้อื่น

 

"วัฒนา" โล่งศาลฎีกานักการเมือง สั่งประกัน 5 ล้าน

 

“นายพรพรหม” อดีตผอ.ฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริฯ จำเลยที่ 3 , “นายอภิชาติหรือเสี่ยเปี๋ยง” จำเลยที่ 4 , “น.ส.รัตนา” ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 5 , “น.ส.กรองทอง” พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ จำเลยที่ 6
, “น.ส.รุ่งเรือง” พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ

จำเลยที่ 7,  “บริษัท เพรซิเด้น อะกริเทรดดิ้ง จำกัด” จำเลยที่ 8 ซึ่งเป็นบริษัทประกอบกิจการสีข้าวที่เสี่ยเปี๋ยงเป็นประธานกรรมการ , “บริษัท ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด” (เดิมชื่อ บริษัท ไทย เฉนหยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) จำเลยที่ 9 เป็นผู้สนับสนุนนายวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตาม ม.148, 86, 91 และสนับสนุนนายมานะ ซึ่งเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ม.6

 

อย่างไรก็ดีคดีนี้ “นายเข็มชัย ชุติวงศ์” อัยการสูงสุด มีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องผู้ที่กระทำผิดในการดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ รวม 19 ราย

 

"วัฒนา" โล่งศาลฎีกานักการเมือง สั่งประกัน 5 ล้าน

 

โดยกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อปี 2551 คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ส่งสำนวนการตรวจสอบไต่สวนการกระทำกรณีกล่าวหา “นายวัฒนา” อดีต พม. กับพวกซึ่งเป็นเอกชนว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนโดยการเคหะแห่งชาติ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามหมายเลขดำที่ 07-3-079/2551 มายังอัยการสูงสุดในยุคที่นายชัยเกษม นิติสิริ ดำรงตำแหน่ง เพื่อพิจารณาดำเนินคดี

 

ต่อมา ป.ป.ช.ได้ส่งรายงานที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ให้รวมพิจารณากับสำนวนของ คตส. ที่ได้รับไว้แล้ว ซึ่งครั้งแรกอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วให้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ให้สอบสวนเพิ่มเติมพร้อมตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุดกับผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้รวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์เพื่อหาข้อยุติในการดำเนินคดี กระทั่งปี 2560 สรุปผลเสนออัยการสูงสุด ซึ่งระหว่างปี 2560-2561 “นายเข็มชัย” อัยการสูงสุด พิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีมูลพอฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 19 รายในคดีนี้ได้ จึงมีคำสั่งรับดำเนินคดี โดยดำเนินการฟ้องตามฐานความผิดดังนี้

 

กลุ่ม 1 “นายวัฒนา” อดีต รมว.พม. ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตาม ม.148 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ม.157 ประกอบ ม.83, 91

 

กลุ่ม 2 “นายมานะ”อดีตกรรมการ กคช.ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือ มิชอบด้วยหน้าที่ เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและเป็นผู้สนับสนุนนายวัฒนาฯ เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6, 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 83, 86, 91

 

กลุ่ม 3 รวม 17 คนประกอบด้วย 1.นายพรพรหม อดีต ผอ.ฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริฯ 2.นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือกี้ร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย 3.นายอภิชาติ หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ 4.น.ส.รัตนา ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง 5.น.ส.กรองทอง พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ 6.น.ส.รุ่งเรือง พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ 7.บริษัท เพรซิเดนท์ฯ ประกอบกิจการสีข้าวที่เสี่ยเปี๋ยงเป็นประธานกรรมการ 8.บริษัท พาสทิญ่า ไทย จำกัด ประกอบกิจการก่อสร้างที่พักอาศัย ผู้รับเหมาโครงการบ้านเอื้ออาทร 9.นายซาร์นน บินยาขอบ 10.นายโมฮ์ด ฮานาเปียร์ บิน อับดุล อาซิล 11.นายอาฮ์มัด บิน ฮารอน 12.นายศักดิ์สิทธิ์หรือเดชวรกุล อลังการกุล 13.บริษัท นามแฟทท์คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย 14.นายลาว ซี ฮุง 15.บริษัท ไทย เฉนหยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่นดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด 16.บริษัท พรินซิพเทคไทย จำกัด ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง 17.น.ส.สุภาวิดา คงสุข กรรมการและผู้มีอำนาจทำการแทน บจก.ไทยเฉนหยู

 

ฐานสนับสนุนนายวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตาม ม.148 ประกอบ ม.86, 91 และสนับสนุนนายมานะ ซึ่งเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การรัฐฯ ม.6

 

ศาลให้ประกัน “วัฒนา” 5 ล้าน คดีบ้านเอื้ออาทร นัดฟังคำสั่ง 6 มิ.ย.นี้ อัยการเตือน 3 ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาตามนัดเสี่ยงหมายจับ เผย “อริสมันต์” ร้องขอความเป็นธรรมประวิงคดี

 

ต่อมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ เวลา 14.30 น. ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์ของนายวัฒนา จำเลยที่ 1 และนายพรพรหม จำเลยที่ 3 แล้ว อนุญาตให้ทั้งสองประกันตัวไปโดยตีราคาประกันนายวัฒนา 5 ล้านบาท และนายพรพรหม 3 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ส่วน บจก.เพรซิเดนท์ฯ จำเลยที่ 8 และ บจก.ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำเลยที่ 9 นั้น เป็นการยื่นฟ้องนิติบุคคลที่เป็นบริษัท ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกัน

 

ส่วนที่ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. เป็นการนัดให้อัยการโจทก์ฟังผลการประทับฟ้อง โดยที่ในวันดังกล่าวตัวจำเลยยังไม่ต้องเดินทางมาศาล ซึ่งหากวันดังกล่าวศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้ประทับฟ้องของอัยการไว้พิจารณาพิพากษาแล้ว ก็จะกำหนดวันนัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยต่อไป โดยในวันนั้นจำเลยที่ถูกฟ้องจะต้องมาปรากฏตัวต่อศาลเป็นครั้งแรก และหลังจากที่ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องเป็นทางการแล้ว ประธานศาลฎีกาก็จะกำหนดวันนัดประชุมใหญ่ศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ขณะนี้มีทั้งหมด 176 คน เพื่อลงคะแนนลับเลือกผู้พิพากษาและผู้พิพากษาอาวุโสระดับชั้นตั้งแต่ศาลฎีกาขึ้นไป 9 คน เป็นองค์คณะรับผิดชอบคดีนี้ต่อไป

 

“นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือว่า สำหรับผู้ถูกกล่าวหา 3 ราย ที่ไม่มาพบอัยการในวันนี้ (นายมานะ จำเลยที่ 2, น.ส.กรองทอง จำเลยที่ 6 และ น.ส.รุ่งเรือง จำเลยที่ 7) อัยการมองว่ามีการประวิงเวลา เราจะดำเนินการตามขั้นตอน คือเมื่อฟ้องแล้วศาลฎีกาฯ ก็จะแจ้งหมายให้จำเลยทราบ แต่หากจำเลยยังไม่มาก็จะมีกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งอาจถึงขั้นออกหมายจับ อย่างไรก็ดี ตามที่ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ก็ต้องรอดูผลว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไร ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 10 ราย ที่ยังไม่ได้ประสานนัดตัวมาฟ้องในวันนี้ ยังติดปัญหาเรื่องการส่งหมาย และผู้ถูกกล่าวหาบางรายได้เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือนกว่า จะได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาฟ้องอีก 1 ชุด เมื่อถึงตอนนั้นจะได้ขอรวมการพิจารณา

 

เมื่อถามว่าคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหารายใดยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดเข้ามาในระหว่างนี้หรือไม่ “นายโกศลวัฒน์” กล่าวว่า มีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ผู้ถูกกล่าวหากรณีสนับสนุนนายวัฒนา ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา แต่อัยการพิจารณาดูแล้วเป็นเรื่องของการประวิงคดี ซึ่งทุกคนย่อมมีสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาได้ อัยการก็จะพิจารณาด้วยเหตุผลที่สมควรหรือไม่สมควร ทุกเรื่องอัยการมีคำตอบให้ได้ ทั้งนี้ ที่ไม่ปรากฏชื่อการสั่งฟ้องนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ อดีตผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ที่เคยตกเป็นผู้ถูกร้องที่ 2 ในสำนวน เนื่องจากทาง ป.ป.ช. ไม่ได้ส่งสำนวนที่มีชื่อนางชวนพิศเข้ามา อัยการจึงไม่มีประเด็นที่จะพิจารณาในส่วนนี้

 

"วัฒนา" โล่งศาลฎีกานักการเมือง สั่งประกัน 5 ล้าน

 

ทั้งนี้ “นายวัฒนา” ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับการประกันตัวว่า ศาลตีราคาประกันตน 5 ล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่ามูลค่าหลักทรัพย์ที่ศาลกำหนดน้อยกว่าคดีอื่นๆ ของศาลฎีกาฯ ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ สำหรับจำเลยอื่นศาลตีราคาประกันคนละ 3 ล้านบาท ส่วนวันที่ตนจะต้องขึ้นศาลครั้งแรกอีกเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ ต้องรอติดตามจากอัยการ ตนพร้อมที่จะนำหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดในคำฟ้องว่ามีประเด็นอะไรบ้าง จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนำบัญชีพยานขึ้นเบิกความกี่ปาก ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้คดีมาถึงศาลนานแล้ว เพราะเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน และเป็นคดีที่ไม่สลับซับซ้อน ซึ่ง ป.ป.ช.ก็รู้อยู่แล้ว แต่เป้าหมายในการทำคดีก็เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองจัดการกับกลุ่มพวกตน เชื่อว่าคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อนุมัติสั่งจ่ายเงินให้ผู้เสียชีวิตในการชุมนุมเมื่อปี 2553 จะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดให้ฟ้องคดีแน่นอน ขณะที่คดีของฝ่ายตรงข้ามตน หลักฐานมักจะสูญหาย โดนน้ำท่วม ทำให้คดีไม่คืบ อย่างเช่นคดีนาฬิกาหรู 25 เรือน ไม่ทราบว่าไปถึงไหนแล้ว

 

“นายวัฒนา” ยังกล่าวด้วยว่า ดีใจที่ได้ออกมาสนับสนุนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ให้กำลังใจอย่างเปิดเผยโดยที่ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่เหมือนบางกลุ่มบางพวกที่ดูดกันเห็นๆ แล้วอ้างว่ามีอุดมการณ์ตรงกัน แห่ไปรับกันเป็นการเมืองแต่แถว่าไม่ได้เป็นการเมือง มีปืนมีรถถังแต่พูดจาขี้ขลาด ขอเชิญชวนอย่าลืมไปให้กำลังใจกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง.

Leave a comment