ม็อบเปิดซักฟอก คสช. แผนสกัดยื้อเลือกตั้ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

  • วันที่ 03 พ.ค. 2561 เวลา 13:53 น.

ม็อบเปิดซักฟอก คสช. แผนสกัดยื้อเลือกตั้ง

โดย…ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ใกล้เปิดฉากการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ค. ต่อเนื่องด้วยกิจกรรมต่างๆ ลากยาวไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค. ในโอกาสครบ 4 ปี การรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเป้าหมายสำคัญคือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ประกาศวันเลือกตั้งให้ชัดเจน

แต่ประเมินจากเสียงตอบรับของฝ่ายต่างๆ ใน คสช.ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคง ดูจะไม่เป็นห่วงความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนกลุ่มนี้เท่าไร

เริ่มตั้งแต่ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตัดตอนยุติประเด็นความเคลื่อนไหวด้วยการชี้แจงว่า “เราบอกไปแล้วว่าจะเลือกตั้งต้นปี 2562 ไม่มีที่ไหนทักท้วง ทุกประเทศก็พอใจ รัฐบาลนี้ไม่เคยคิดเลื่อนเลือกตั้ง

“ชุมนุมไปก็ไม่ค่อยได้อะไรขึ้นมา เพราะรัฐบาลนี้เอาทุกประเด็นมาแก้ปัญหาอยู่แล้ว การเลือกตั้งเป็นกระบวนการประชาธิปไตย แต่ต้องคิดดูว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำอย่างไรให้ได้ประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาล สังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการเลือกตั้ง หลักการในการเลือกคนเป็น สส.”

พร้อมตอกกลับด้วยการตั้งข้อสังเกตว่า ทราบอยู่แล้วว่าจะเลือกตั้งกันต้นปีหน้าแล้วยังมีการเคลื่อนไหวอีก ต้องไปดูคนที่เคลื่อนไหวเป็นคนกลุ่มเดิมหรือคนกลุ่มใหม่ มีการสนับสนุนจากใคร สอดคล้องกับที่นักการเมือง หรือพรรคการเมืองออกมาพูดหรือไม่

ไม่ต่างจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ​ และ รมว.กลาโหม ที่ระบุว่า ไม่กังวลกับการชุมนุม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเตรียมพร้อม​และเชื่อว่าการชุมนุมคงไม่ยืดเยื้อ

เช่นเดียวกับ พ​ล.ต.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่ระบุว่า ยังไม่พบกระแสข่าวการขนคนจากต่างจังหวัดเข้ามาร่วมชุมนุม โดยเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ทาง กอ.รมน.มีหน้าที่ติดตามข้อมูลข่าวสารเท่านั้น ประชาชนต้องทราบว่ากฎหมายใดที่สามารถทำได้หรือไม่ได้

ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำให้ คสช.​ ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่กังวลกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเป็นเพราะกฎระเบียบที่ล็อกให้การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในข้อจำกัด

ทั้ง พ.ร.บ.การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ ตลอดจนคำสั่ง คสช.เรื่องการห้ามการชุมนุมทางการเมือง ที่ล้วนแต่จะตัดกำลังการชุมนุมไม่ให้มีพลังพอที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพของ คสช. ยิ่งในวันที่ คสช.ยืนยันแต่เพียงว่าจะมีการเลือกตั้งต้นปี 2562 ตามโรดแมป

ปัญหาอยู่ที่สิ่งที่ คสช.​ยืนยันนั้นไม่อาจยึดถือ หรือนำมาเป็นหลักประกันใดๆ ได้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นจริงในเดือน ก.พ.​ 2562  อย่างที่ควรจะเป็น เพราะบทเรียนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นปรากฏการณ์เลื่อนการเลือกตั้งหลายรอบด้วยหลายเหตุปัจจัยจนยากจะเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเดินไปตามโรดแมปอย่างที่เคยประกาศ

ยิ่งในวันที่เส้นทางเลือกตั้งตอนนี้ยังดูคลุมเครือไร้ทิศทางและความชัดเจน โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ​สองฉบับสุดท้าย ร่างกฎหมายเลือกตั้ง สส.​และร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

ดังนั้นในกรณีที่หากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญ ย่อมนำไปสู่การแก้ไขที่จะต้องทำให้การเลื่อนเลือกตั้งที่เคยเลื่อนมาหลายรอบต้องเลื่อนออกไปอีก อีกทั้งทาง คสช.​ยังสามารถปฏิเสธความรับผิดชอบโยนให้เป็นเรื่องของกระบวนการไม่เกี่ยวกับ คสช.แต่อย่างไร

นัยสำคัญของการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งครั้งนี้ จึงอยู่ที่ความต้องการหลักประกันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นชัดเจนไม่มีเหตุให้ต้องเลื่อนออกไป ด้วยการสร้างแรงกดดันจากสังคม

ไฮไลต์สำคัญของการชุมนุมครั้งนี้อยู่ที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ​คสช. นอกสภาซึ่ง จ่านิว-สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ คสช. เพราะที่ผ่านมา 4 ปี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ คสช. ไม่เคยทำหน้าที่นี้

เมื่อรู้อยู่แล้วว่า คสช.คงไม่อาจสร้างหลักประกันเรื่องวันเลือกตั้งได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ แถมยังมีกฎระเบียบที่ควบคุมการเคลื่อนไหวการชุมนุมของประชาชน การเปิดเวทีซักฟอกจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เหลืออยู่

ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาคนในรัฐบาล คสช.เข้าไปพัวพันกับเงื่อนงำความไม่โปร่งใสในหลายเรื่อง แต่ด้วยไม่มีสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลทำให้หลายเรื่องไม่ถูกพูดถึง

การซักฟอก คสช.นำข้อมูลออกมาให้ประชาชนได้รับรู้ย่อมสร้างแรงเสียดทานให้ คสช.ระมัดระวังการใช้อำนาจตลอดจนการบริหารในช่วงเวลาที่เหลือมากขึ้น

ตลอดจนทำให้การตัดสินใจคิดจะสืบทอดอำนาจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดแต่เรื่องการดูดอดีต สส.โดยไม่สนใจเรื่องการปฏิรูปวางบรรทัดฐานทางการเมืองที่ดีอีกต่อไป ​​​​

ยิ่งหากข้อมูลในมือกลุ่มคนเลือกตั้งที่จะออกมาอภิปรายไม่ไว้วางใจมีน้ำหนัก หลักฐานชัดเจน ย่อมจะฉุดคะแนนนิยมและความเชื่อมั่นให้ลดน้อยถอยลงไปมากกว่าเดิม หลังจากถูกมรสุมรุมเร้าอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมาจนสะบักสะบอม

เมื่อถึงวันนั้นหาก คสช.คิดจะยื้อเลือกตั้งออกไปอีกยิ่งจะไม่เป็นผลดีและอาจทำให้การก้าวลงจากอำนาจไม่เป็นอย่างที่คิด

Leave a comment