วันที่ 29 ก.ย.ที่อิมแพค เมืองทองธานี การประชุมผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ มีมติเลือกนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นเลขาธิการพรรค นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ เป็นเหรัญญิก นายวิเชียร ชวลิต เป็นนายทะเบียนพรรค สุวิทย์ เมษิณทรีย์ และมีนายณัฐพล ทีปสุวรรณ เป็นรองนายกอีกคนด้วย และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นโฆษกพรรค

ขณะที่รองหัวหน้าพรรคเป็นไปตามคาด คือนายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ และมีนายณัฐพล ทีปสุวรรณ เป็นรองนายกอีกคนด้วย และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นโฆษกพรรค

โดยว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อุตตม สาวนายน บอกว่า การตัดสินใจลงเล่นการเมืองครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่สำคัญและไม่ง่าย แต่เป็นการตัดสินใจที่ภาคภูมิใจที่สุดในการอาสามาทำงานการเมืองเต็มตัว ส่วนตัวโตมาในแวดวงเศรษฐกิจ ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ เช่นเดียวกับผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอีกหลายคน ซึ่งทุกคนมาร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ ก้าวข้ามอุปสรรคปัญหาความขัดแย้ง ที่มีมานานเป็นทศวรรษ ให้ประเทศเดินหน้า รับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว ยืนอยู่บนเวทีโลกอย่างทัดเทียม เข้มแข็ง ส่งต่ออนาคตถึงรุ่นลูกหลาน โดยพรรคจะให้โอกาสทุกคนเข้าร่วม และจะก่อตั้งอย่างถาวร ไม่ใช่เฉพาะกิจ เพื่อขับเคลื่อนประเทศ ทำได้จริง ยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย

นายอุตตม บอกด้วยว่า ส่วนตัวจะยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล แต่ขอรับรองว่าจะไม่ใช้เวลา ทรัพยากรของรัฐใช้ประโยชน์ หรือเอารัดเอาเปรียบคนอืานแน่นอน ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จะสวมหมวกใบเดียว

นายอุตตม ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงข่าว ว่าเวลาที่เหมาะสม ต้องติดตามดูว่าจะเป็นเมื่อไหร่ จะเป็นช่วงหลังพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งหรือไม่ และยืนยันว่าจะไม่เอาเปรียบพรรคอื่นๆตั้งแต่ต้น โดยให้สื่อมวลชนติดตามดูในการลงพื้นที่ฐานะรัฐมนตรี และพร้อมยอมรับการตรวจสอบ ส่วนจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี นายอุตตม บอกว่ายังเร็วไปที่จะตอบ เพราะเมื่อเป็นพรรคแล้ว การจะสนับสนุนใครต้องมีขั้นตอน มีกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค โดยพรรคต้องเลือกคนดีที่สุด มารับใช้ประชาชนและเป็นผู้นำประเทศ

ขณะที่ ว่าที่เลขาธิการพรรค สุวิทย์ เมษินทรีย์ บอกว่าโดยหลักการต้องเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนานกรัฐมนตรี ส่วนอีก 2 รายชื่อ ที่พรรคสามารถเสนอได้อีก จะมีชื่อของพลเอกประยุทธ์หรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าพลเอกประยุทธ์จะให้พรรคใดเสนอชื่อหรือไม่

ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกด้วยว่า รองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษะ เป็นที่ปรึกษาทางใจ ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และยืนยันว่าพรรคไม่ได้สืบทอดอำนาจ คสช. เพราะไม่มีทหารเป็นสมาชิก  พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคทางเลือกให้ประชาชนก้าวข้ามความขัดแย้ง ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร ซึ่งพลเอกประยุทธ์เข้าใจ  และบอกว่า โชคดี

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า หากพรรคต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง จะสามารถทำงานกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรได้หรือไม่ นายอุตตม บอกว่าเป็นเรื่องของพรรคและคนในพรรค แต่ทั้งนี้ทางพรรคก็ไม่ได้มีการตั้งเงื่อนไข

สำหรับการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง โดยหลักการจะส่งครบทั้ง 350 เขต ส่วนตั้งเป้าว่าจะได้ ส.ส. กี่ที่นั่ง ยังเร็วไปที่จะตอบ