#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ปกปิด “โควิด-19” โทษจำคุก-ปรับ

ปกปิด “โควิด-19” โทษจำคุก-ปรับ คอลัมน์… อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน oddturbo1900@gmail.com
กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ ‘โควิค-19’ เป็นโรคติดต่ออันตรายและ ‘ดับเครื่องชน’ ได้รวบรวมข้อมูลโทษผู้ฝ่าฝืนมาให้ทราบ
ประกอบกับได้รับจดหมายจากคุณ ‘ส้ม’ กรุงเทพฯ เรียกร้องขอให้มีมาตรการลงโทษผู้ปกปิดข้อมูล ซึ่งจะอนุญาตเรียนให้ทราบว่าได้มี พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ออกมาก่อนแล้วโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
อ่านข่าว-เผยภาพดาวเทียมมลพิษที่จีนหายเกลี้ยง ผลจากเชื้อโควิด
จึงขอเป็นสื่อกลางแจ้งให้ทราบเพราะเราไม่สามารถปฏิเสธว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้
ผู้ฝ่าฝืนมาตรา 40 (2) ซึ่งกำหนดในกรณีที่มีการประกาศให้ท้องที่หรือเมืองนอกราชอาณาจักรเป็นเขตติดโรค เจ้าพนักงานมีอำนาจดำเนินการให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะที่เข้ามาในประเทศโดยจัดให้พาหนะจอดอยู่ ณ สถานที่ที่กำหนดให้จนกว่าเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจะอนุญาตให้ไปได้
มาตรา 34 (1) มีอำนาจนำผู้ที่เป็น/มีเหตุสงสัยว่าเป็นโควิด-19 /ผู้สัมผัส มารับการตรวจ การชันสูตร แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต โทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
มาตรา 35 กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน สั่งปิดสถานที่ต่างๆ /สั่งห้ามไปในสถานที่ชุมชน สถานศึกษา สถานที่ใด / สั่งหยุดงานชั่วคราว โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 39 (5) ห้ามเจ้าของ/ผู้ควบคุมพาหนะนำผู้เดินทางไม่ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเข้าประเทศ โทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
จึงขอสรุปโทษมาให้ทราบและช่วงเวลานี้มีข่าวเกี่ยวกับ ‘โควิค-19’ นี้มาก จึงขอให้มีสติอย่าตระหนกตกใจและพิจารณาข่าวสารให้ดี
เรื่องข่าวสารออนไลน์กรุณาอย่าแชร์ โดยไม่ไตร่ตรองเพราะมีโทษ!
อ๊อด เทอร์โบ
ขอให้ออกมาตรการลงโทษผู้ปกปิดข้อมูลการเดินทางต่างประเทศ
เรียน คุณอ๊อด เทอร์โบ
จากกรณีปู่ย่ากลับจากญี่ปุ่นแล้วนำเชื้อโควิด-9 กลับมาด้วย ทำให้หลานและคนที่บ้านติด นั่นน่าเห็นใจ แต่ที่ไปโรงพยาบาลแล้วปกปิดข้อมูลเรื่องการเดินทางกลับจากญี่ปุ่นนี่เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ไม่ทราบว่าท่านคิดอย่างไร ปิดบังทำไม ไม่มีใครว่าท่านหากท่านเป็น ถ้ารู้แต่แรกจะได้รักษาและป้องกันการแพร่เชื้อ แต่นี่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลาย โรงเรียนต้องปิด ธนาคารต้องปิด ทุกคนที่อยู่ในเที่ยวบินนั้นต้องรับการตรวจ คนจำนวนมากเดือดร้อน ต้องตรวจเช็กผู้เกี่ยวข้องหมดทุกคน แพทย์พยาบาลต้องทำงานหนักมาก
ขอเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการลงโทษผู้ปิดบังข้อมูลการเดินทางต่างประเทศ ไม่เฉพาะประเทศเสี่ยงเท่านั้น หน่วยงานเอกชนบางแห่งเขามีบทลงโทษพนักงานทางวินัยขั้นรุนแรงด้วย หากพบว่าปกปิดข้อมูล
เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคน ต้องช่วยกันดูแลตัวเองด้วย จะปล่อยให้เป็นภาระของประเทศไม่ได้
ส้ม กรุงเทพฯ
ครอบครัวสำคัญที่สุด
ส่งท้ายด้วยจดหมายจากคุณ ‘อัมพร’ นครสวรรค์ น่าสนใจมากเพราะได้สรุปเรื่องน่าสนใจของครอบครัวมาและขอเป็นสื่อกลางแจ้งให้ทราบ
ทุกวันนี้ประเทศไทย-สังคมไทย-คนไทย บางคนมีความรุนแรงกว่าที่คิดและยังดำรงคงอยู่ได้เพราะมีคนดีมากกว่าคนเลว
จึงขอสนับสนุนเต็มที่ให้ทุกคนเริ่มต้นจากครอบครัวดีเพื่อรากฐานสำคัญ
อ๊อด เทอร์โบ
ความรุนแรงของสังคม
เริ่มมาจากครอบครัว
ดิฉันได้ติดตามเรื่องการประชุมของการอนามัยครอบครัวแล้วพบว่าเป็นเรื่องน่าสนใจมาก เพราะสรุปได้ว่าความรุนแรงหรือความสับสนวุ่นวายในสังคมเริ่มมาจากครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันสำคัญที่สุด เพราะคนที่ดีมาจากครอบครัวดี มีความผูกพันอบอุ่น
ขอบใจและขอบคุณ ศ.ดร.วิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่บอกว่าปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่สุด โดยเฉพาะความรุนแรงในครอบครัวที่มีเด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รากฐานแห่งปัญหาคือครอบครัวไม่ได้พัฒนาจากระบบคุณธรรมให้เข้าสู่จริยธรรม
เราปล่อยให้ครอบครัวดูแลกันเองโดยรัฐไม่สามารถแทรกแซงดูแลครอบครัวที่มีปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งนี้สังคมเข้มแข็งต้องมีรากฐานจากการพัฒนาทุนมนุษย์ โดยเฉพาะทุนด้านจริยธรรมที่ต้องปลูกฝังแต่เด็ก
อย่างไรก็ตามแนวทางที่ต้องสนับสนุนส่งเสริมคือ การเห็นความสำคัญของเด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลางแห่งครอบครัวและสังคม กุญแจสำคัญที่จะสนับสนุนส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในเด็กและเยาวชนมาจากการเป็นสังคมพลเมือง เป็นสังคมที่ทุกคนเป็นหุ้นส่วน
เอาใจใส่ ดูแล ช่วยกันพัฒนา สถาบันการศึกษาต้องให้ความสำคัญตั้งแต่เด็กก่อนวัยเรียน
กรณีที่อาจารย์ให้ทัศนะมานี้เป็นเรื่องดีมากๆ และดิฉันได้นำมาเสนอโดยครบถ้วนเพราะมีความสำคัญมากๆ
ครอบครัวจึงเป็นสถาบันเบื้องต้นเริ่มต้นที่สำคัญจริงๆ
อัมพร (นครสวรรค์)