“นายกฯ” โยน “ผวจ.” อำนาจสั่งปิดพรมแดน #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politic/423261?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=politic

“นายกฯ” โยน “ผวจ.” อำนาจสั่งปิดพรมแดน

19 มีนาคม 2563 – 15:33 น.
โควิด-19
เปิดอ่าน 165 ครั้ง

“บิ๊กตู่” โยนอำนาจ “ผู้ว่าฯ” สั่งปิดพรมแดน สู้ “โควิด-19” หรือไม่ ลั่นทุกประเทศจะเข้าไทยต้องมีใบรับรองแพทย์

“บิ๊กตู่” เผย เจอผู้ป่วย “โควิด-19” รายใหม่ ดีกว่าตรวจไม่พบ ชี้ ให้อำนาจ “ฝ่ายปกครอง” ขยายเวลาปิดสถานประกอบการ จาก 14 วันได้ หากยังไม่ปลอดภัย สั่ง ระดับพื้นที่ทำงานเด็ดขาด โยน อำนาจ “ผู้ว่าฯ” สั่งปิดพรมแดน ทำไม่ได้ย้าย ยากตรงไหน ลั่น ทุกประเทศจะเข้าไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์

อ่านข่าว “อียู” จ่อปิดพรมแดน 30 วัน สกัด “โควิด-19” ระบาด

ไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญ บทวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ อินไซด์ ฟรี!! เพียงติดตามได้ที่ Line official คมชัดลึก เพียงกดติดตามผ่าน

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2563 เวลา 10.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี สธ. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. รวมถึงผู้บริหาร สธ. และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

นายกฯ กล่าวก่อนการประชุมมอบนโยบายฯ ว่า การเดินทางมาวันนี้ เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับแรก จึงอยากมาฟังมุมมองทางการแพทย์ทั้งจากคนเก่าและใหม่ ว่าเราต้องมีการเตรียมการเพิ่มขึ้นหรือไม่ จากสถิติการตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่พบมีจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคดังกล่าวมากขึ้น แต่ตนคิดว่าการตรวจพบเชื้อผู้ป่วยรายใหม่เป็นสิ่งที่ดีกว่าการตรวจไม่พบ

แต่สิ่งสำคัญคือขณะนี้สังคมเกิดความตื่นตระหนก แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความเชื่อมั่นด้วยความร่วมมือของเราทุกคน วันนี้เราจึงแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนรัฐบาลที่มีมาตรการออกไปแล้ว อีกส่วนคือผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดที่ต้องทำงานให้เข้มงวดมากขึ้น โดยกระทรวงมหาดไทยจะต้องกำกับดูแล พร้อมรายงานผลดำเนินการกลับมาเพื่อสร้างความรู้แก่ประชาชน

จากนั้นเวลา 13.00 น. นายกฯ แถลงผลภายหลังการประชุมฯ ว่า วันนี้ได้มีการหารือร่วมกันทั้งในฝ่ายของรัฐบาล ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งปลัดกระทรวงสาธารณสุข อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ต่างๆ รวมไปถึงแพทย์ที่ทำงานภาคเอกชนถือเป็นการทำงานทุกภาคส่วน

อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่ได้เป็นการประชุมกับส่วนราชการเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยตนต้องการให้ความเชื่อมั่นและได้รับฟังความเชื่อมั่นจากทั้งสองฝ่ายถือว่ารับได้ ตนจะนำไปสู่การปฏิบัติที่ต้องทำได้จริงในระยะต่อไป ซึ่งกระบวนการแก้ปัญหาต้องเป็นไปตามขั้นตอน เป็นไปตามกฎหมายและสถานการณ์และที่จะเกิดขึ้น

วันนี้แม้จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่ก็ต้องชื่นชม ระบบคัดกรองการติดตามของเราที่สามารถติดตามได้มากขึ้น เรามองตรงนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องทราบว่าที่หาเจอนั้นมาจากไหน เริ่มการแพร่ระบาดจากตรงไหน เช่น สนามมวย หรืออาจจะเป็นบาร์ ผับต่างๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่เรากำลังดำเนินการต่อเนื่อง

“ผมยืนยันว่าทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่มีการติดโรค ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่แสดงมาแล้วและเป็นข่าว ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจสอบคัดกรองทั้งสิ้น ต้องติดตามตัวให้ครบ และอย่างที่ได้บอกแล้วว่ารัฐบาลห้ามจัดคอนเสิร์ตในช่วงนี้ ฉะนั้น ขอความร่วมมือด้วย สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้รัฐบาลได้ประกาศมาตรการไปแล้ว 6 มาตรการ เป็นการให้อำนาจกับฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าฯ กทม. สามารถกำหนดมาตรการเพิ่มเติมจากกรอบใหญ่ที่ให้ไป เช่น การปิดสถานที่ต่างๆ

วันนี้ให้ไปในเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถ้าจะปิดในต่างจังหวัดก็ได้ ถ้าเป็นสถานที่ที่เข้าข่ายที่มีความเสี่ยง ผับต่างๆ ตอนนี้ทราบว่าจังหวัดที่มีข่าวเรื่องผับใหญ่ก็ปิดไปแล้ว มีอำนาจในการปิดตรงนี้ การปิด 14 วัน เมื่อจะเปิดใหม่ต้องไปตรวจสอบว่ามีความปลอดภัย ความพร้อมเพียงพอหรือไม่ ถ้ายัง ก็สามารถขยายเวลาปิดออกไปอีกได้นั้นคืออำนาจที่ตนได้ให้กับพื้นที่ไปแล้ว” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า โดยใน 14 วันนี้ตนอยากขอร้องไปยังข้าราชการระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด ประจำพื้นที่ต้องทำงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฎิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วให้ตนทราบทุกวัน ผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาที่ศูนย์ฯ โควิด-19 ตนติดตามทุกวัน ตั้งแต่สนามบินต้นทาง สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก มีการรายงานมายังตนทุกวัน

ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบและติดตามสถานการณ์ และปรับมาตรการต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น วันนี้เรากำลังสกัดกั้นการนำเชื้อเข้ามาในประเทศ ถึงบอกว่าการเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันสุขภาพ โดยทุกคนที่เข้าประเทศไทยต้องมี เดิมเฉพาะ 4 ประเทศบวก 2 เขตปกครองพิเศษ แต่ทุกวันนี้ทุกประเทศที่เข้ามา ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ และติดตามด้วยแอพพลิเคชัน

เมื่อถามว่าเพื่อนบ้านประเทศไทยเริ่มประกาศปิดพรมแดน ในส่วนของไทยจะมีมาตรการดังกล่าวเพิ่มหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทำไมเราต้องแปลไทยเป็นไทยด้วยไม่รู้ เมื่อกี้ตนได้พูดไปแล้วว่าต่างประเทศที่จะเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ส่วนรอบบ้านเราก็มีความเกี่ยวกับผู้ว่าฯ จะปิดช่องทางพรมแดนหรือไม่อยู่ที่อำนาจผู้ว่าฯ เพราะได้ให้อำนาจไปแล้ว และให้รายงานตนมา

เมื่อถามว่า หากเป็นคำสั่งหรือมติจากรัฐบาลจะเข้มแข็งและน่าเชื่อถือมากกว่าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หากผู้ว่าฯ ทำไม่ได้ก็ย้ายผู้ว่าฯ จะยากตรงไหน

เมื่อถามว่า ขณะนี้เรามีสัญญาณความเสี่ยงอะไรที่สถานการณ์จะยกไปสู่ระยะที่ 3 นายกฯ กล่าวว่า ให้ถามที่ประชุมฯ ถามหมอจะบริหารให้ตามข้อมูลของหมอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมครั้งนี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยสธ.ได้เชิญบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวด้านโรคระบาดที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาให้คำแนะนำ อาทิ ศ.เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรัฐมนตรีสธ. นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น เนื่องจากบุคลากรเหล่านี้เคยทำงานในช่วงที่ประเทศไทยเคยมีโรคระบาด เช่น ไข้หวัดนก เป็นต้น โดยรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้มาเป็นที่ปรึกษาในการช่วยแก้วิกฤตโรคระบาดโควิด-19

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีตำรวจติดตามรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมีข้อกังวลอะไรหรือไม่ นายกฯ ปฎิเสธตอบคำถาม แต่ขอให้สื่อช่วยเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ตามที่รัฐบาลได้แถลงในแต่ละวันด้วย

ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการสังเกตอาการของครม.ทุกคนอยู่แล้ว และมีการคัดกรองทุกคน ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม โดยขณะนี้เห็นว่ายังไม่จำเป็นให้มีการประชุมครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่บ้าน

Leave a comment