#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
https://www.komchadluek.net/news/scoop/468814
สื่อสาร สับสน ศบค.เบรกกทม.

1 มิถุนายน 2564 – 20:00 น.
ไล่เรียงไทม์ไลน์ ศบค.เบรกกทม. ยังไม่ให้เปิดกิจการเสี่ยง หลังผู้ติดเชื้อในพื้นที่สีแดงยอดยังไม่ลด ยังให้เปิดไม่ได้
… “อยากให้เธอไปคุย เธอไปคุยกับเขาก่อน”
ท่อนสร้อยของเพลง “เค้าก่อน” ของศิลปิน UrboyTJ ที่เปิดตัวตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ถูกผู้คนในโซเชียลใช้แสดงความรู้สึก หลังข่าว “ศบค.เบรก กทม. คลายล็อกกิจการ 5 ประเภท” ที่เกิดขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ด่วน กทม.เห็นชอบผ่อนคลาย เปิดสถานประกอบการ 5 ประเภท มีผลทันทีพรุ่งนี้
ศบค.เบรกมติกทม.เปิดสถานประกอบการ 5 ประเภท ออกไปอีก 14 วัน
บ่ายวันที่ 31 พ.ค. 2564 มีข่าวออกมาจากที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ว่า กทม. ผ่อนคลายให้สถานที่ – กิจการ 5 ประเภท ดังนี้ กลับมาเปิดได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2564
5 สถานที่-กิจการ “ดีใจเก้อ
1 พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ หอศิลป์
2 ร้านสัก เจาะ ทำเล็บ
3 สถานบริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกเสริมความงาม
4 ร้านสปา นวดสุขภาพ นวดเสริมความงาม นวดแผนไทย
5 สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้
กระแส “ดีใจ” ปน “ห่วงใย”
กทม. คือ พื้นที่สีแดง ใจกลางการระบาดของโควิด-19 รอบ 3 โดยวันที่ 31 พ.ค. 2564 เป็นวันที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่มากกว่า 5,000 คน เฉพาะ กทม. เอง มีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มากกว่า 1,300 คน
มากกว่า 5 ชั่วโมง หลัง กทม.ออกข่าวเจ้าของ “กิจการ” ที่จะได้รับอนุญาต ต่างกลับมาเคลื่อนไหวด้วยความหวัง แต่แล้วก็ถูกเบรกหัวทิ่ม
เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ได้โพสต์ข้อความว่า
“ศบค.ชะลอมติกทม.ออกไปอีก 14 วัน สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร วันนี้(31 พ.ค.64) มีมติให้ผ่อนปรนมาตรการสำหรับสถานประกอบการ 5 ประเภท โดยจะให้เริ่มเปิดกิจการภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโรคนั้น ศบค. ให้ใช้ประกาศกรุงเทพมหานครขยายการปิดกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงทั้งหมด ตามประกาศฉบับที่ 29 ออกไปอีก 14 วัน ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างอื้ออึง
ต่อมา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวย ศปก.ศบค. หรือ ศบค.ชุดเล็ก ได้กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ พิจารณามาตรการผ่อนคลายเนื่องจากภาคเอกชนได้ขอมา ซึ่งได้พิจารณาว่า ไม่ขัดแย้งกับข้อกำหนดหรือแนวทางที่ ศบค.ได้กำหนดไว้ แต่ทุกเรื่องนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. สามารถมีนโยบาย หรือข้อกำหนดอะไรที่แตกต่างได้ เพราะนายกฯ มองในภาพรวม
“ยืนยันว่า ไม่ใช่การที่กรุงเทพฯ เสนอมาแล้ว ศบค.เบรกเอาไว้ เป็นเพียงแค่ผลการประชุมไม่ใช่การออกประกาศอย่างเป็นทางการ แต่กรุงเทพฯ ให้ข่าวออกมาก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.ได้พิจารณาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ยังมีสูงอยู่และมีการแพร่ระบาดของเชื้อเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงในภาพรวมจึงให้ชะลอเรื่องดังกล่าวเอาไว้ก่อน”
เปิดใจผู้ประกอบการ 1 ในกิจการ 5 กลุ่มที่เฮเก้อ
“มิ้น” เจ้าของกิจการร้านทำเล็บ Nails Time ที่มี 2 สาขา คือ ทาวน์อินทาวน์ และ ซอยลาดพร้าว 71 ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว คมชัดลึกออนไลน์ว่า ความรู้สึกที่ได้รู้ข่าวเมื่อวานนี้ คือ “งงค่ะ” เพราะตอนบ่ายทราบว่าร้านจะเปิดได้ตั้งแต่วันนี้(1มิ.ย.2564) แต่พอช่วงค่ำๆ แฟนอ่านข่าวให้ฟังว่า เปิดไม่ได้แล้ว และยังไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงที่เปิดไม่ได้ เพราะไม่คิดว่า คำสั่งจะมีการเปลี่ยนไป-มา เร็วเช่นนี้
เมื่อวาน(31พ.ค.2564)พอทราบว่าจะได้เปิดร้าน ก็ได้เรียกประชุมพนักงาน ซึ่งทั้ง 2 สาขา มีจำนวนเกือบ 10 คน ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ เตรียมรับลูกค้า แต่ยอมรับว่า ในใจก็คิดว่า จะได้เปิดเป็นเวลาเท่าไหร่ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในกทม. ยังสูงทุกวัน แต่ในเมื่อภาครัฐบอกว่าให้เปิดได้ คนทำมาหากินอย่างเรา ก็ต้องเปิด ก็ต้องเตรียมตัว แต่สุดท้ายแล้วก็ยังเปิดไม่ได้
เราเข้าใจสถานการณ์และอยากให้ล็อกดาวน์อย่างจริงจัง เหมือนที่มีการระบาดรอบแรก เพื่อให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างจริงจัง แต่ทุกวันนี้คือการปิดเป็นหย่อมๆ แล้วก็มีส่วนใหญ่เลยที่ยังเปิดแล้วอย่างนี้ สถานการณ์จะเปิดปกติเมื่อไหร่ เราก็ต้องปิดไปเรื่อยๆ หรือไม่อย่างไร
โควิดระบาดทุกครั้ง “ร้านทำเล็บ” เป็น 1 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบทุกรอบ
เราปิดๆ เปิดๆ หลายครั้ง ตั้งแต่การระบาดรอบแรก แต่รอบล่าสุดนื้ถือว่าหนักสุด เพราะโควิดรอบแรก ที่ร้านต้องปิดชั่วคราว เราได้เปิดบริการทำเล็บ เดลิเวอรี่ มีลูกค้าเรียกพนักงานไปทำเล็บนอกสถานที่ และทุกวันก็ได้ยอดทุกวัน แต่การระบาดรอบ 3 บางวันมีลูกค้าแค่ 1-2 คน แต่พนักงานก็มาขอให้เราเปิดบริการเดลิเวอรี่ต่อ เพราะพวกเขาไม่มีเงิน ทางร้านเองก็มีช่วยพนักงานบ้านแต่บอกตรงๆ ว่าเราก็จะไม่ไหว แล้วไม่เคยมีเยียวยามาถึง “ผู้ประกอบการ” เลย มีแต่ให้ไป “กู้” สินเชื่อต่ำ แต่เราอยากบอกว่า “เรา” จะเอาที่ไหนไปกู้อีก
เจ้าของกิจการร้านทำเล็บ ย่านลาดพร้าว ยังฝากว่า อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเลย เรื่อง “คำสั่ง” ไม่ใช่ให้รู้สึกว่า “เล่นอะไรกันอยู่” อีกทั้งการจะกลับมาเปิดกิจการก็ต้องมีการเตรียมตัว ไม่ใช่ “พรุ่งนี้” จะให้เปิดเพิ่งมาบอกวันนี้ แล้วอย่างเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ “เลิกเถอะค่ะ”
แน่นอนว่า สถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นเพราะ “โควิด-19” เป็นสิ่งที่ “มนุษย์” หลีกเลี่ยงไม่ได้ …แต่ “การสื่อสารที่ชัดเจนในภาวะวิกฤต” ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรง ที่ “ผู้นำ” จะทำให้ “ประชาชน” ได้ เพราะคำสั่งที่ “แน่นอน” “ชัดเจน” และ “ไม่สับสน” ย่อมส่งผลดีต่องการบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ที่สุด