
16 พ.ค. 2568 04:30 น.
- ไลฟ์สไตล์
- ธนูเทพ
บุคคลในข่าว 16 พฤษภาคม 2568
การหาความจริง ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐาน
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสีจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…จากกรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ขณะที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีที่ กรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ อดีตนายกฯทักษิณ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

ล่าสุด แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงมติดังกล่าวของ แพทยสภา ว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้ ยังไม่มีข้อยุติ ยังไม่มีแพทยสภาคนใดออกมาพูดว่า อดีตนายกฯทักษิณ ป่วยจริง หรือไม่จริง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และคงไม่มีผลกระทบอะไร อดีตนายกฯทักษิณ เตรียมชี้แจงก็แค่นั้น โดยจะชี้แจงตามข้อเท็จจริง สิ่งที่ทำได้คือชี้แจงข้อเท็จจริงตามหลักฐานและสิ่งที่เกิดขึ้น โดย อดีตนายกฯทักษิณ จะไปชี้แจงต่อศาลในวันที่ 13 มิ.ย.นี้…สรุปงานนี้ คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า รอศาลตัดสินชี้ชะตา

ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ออกมาระบุถึงการที่ แพทยสภา มีมติลงโทษ แพทย์ 3 คน ที่มีส่วนร่วมกับการรักษาอาการ อดีตนายกฯทักษิณ ว่าขณะนี้เรื่องยังมาไม่ถึงตนเอง เมื่อส่งมาถึงก็จะดำเนินการต่อไป โดยปกติจะ ไม่ยับยั้ง แต่เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ประกอบกับ ผู้ที่ถูกลงโทษ ได้ประสานกับ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ยื่นหนังสือ เพื่อขอความ เป็นธรรม ก็ต้องพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไร อาจหาคนมาช่วยอ่านช่วยดูให้ครบถ้วน ตามกำหนดระยะเวลา 15 วัน นับจากวันที่มติ แพทยสภา ส่งมาถึง ซึ่งรวมถึง หนังสือขอความเป็นธรรม ด้วย

ทั้งนี้ รมต.สมศักดิ์ ยังระบุด้วยว่าในการพิจารณาเรื่องนี้ ไม่ได้รู้สึกกดดัน แต่มีความตั้งใจทำให้ชัดเจน เพื่อตอบประเด็นคำถามต่างๆให้ได้…และเมื่อนักข่าวถามว่าอาจมี ใบสั่ง หรือไม่ เพราะเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย รมต.สมศักดิ์ บอกเรื่องนี้ยิ่งต้องละเอียด ยืนยันว่าทำงานด้วยเหตุด้วยผลตลอด อยู่วงการการเมืองมาตั้งแต่ปี 2526 เป็นเวลา 40 กว่าปี อะไรที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ไม่กล้าทำ ขอให้สบายใจ และหากอะไรเปิดเผยได้ ก็พร้อมเปิดเผยตรงไปตรงมา อยู่ตรงกลางต้องชี้แจงให้ได้สองทาง เพราะต้องทำงานร่วมกับ แพทยสภา ด้วย ส่วนที่ว่าถ้ามีความเห็นต่างจาก แพทยสภา อาจโดนทัวร์ลงนั้น รมต.สมศักดิ์ สำทับว่าถ้าเราตรงไปตรงมา อย่าไปกลัว ตนเองไม่เคยกลัวมาตลอดชีวิตการเป็นนักการเมือง

งานนี้ เมื่อ รมต.สมศักดิ์ ยืนยันจะพิจารณาเรื่อง มติของแพทยสภา ที่สั่งลงโทษ แพทย์ 3 ราย อย่างละเอียดรอบด้าน รวมถึงประเด็น การขอความเป็นธรรม จาก แพทย์ ที่โดนแพทยสภา มีมติลงโทษ ด้วยเหตุด้วยผล ตรงไปตรงมา แบบไม่กลัวทัวร์ลง ฉะนั้นก็ต้องรอชมผลการพิจารณาที่จะออกมา จะเรียกเสียงฮือฮา เด็ดดวงขนาดไหน

อืม…สำหรับปัญหาเรื่อง กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ที่สร้างความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ล่าสุด นายกฯแพทองธาร ได้ระบุถึงความคืบหน้าการเจรจาเรื่อง กำแพงภาษี ของ สหรัฐอเมริกา ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งข้อเสนอให้ทาง สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว มีตัวแทนจากหลายภาคส่วนคุยกันหลายระดับไม่ว่าจะเป็น สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) หรือระดับของรัฐมนตรี และได้ส่งข้อเสนอตรงไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ สหรัฐอเมริกา เริ่มเปิดเจรจากับหลายประเทศแล้ว แต่ ไทย ยังไม่ปรากฏชื่อในการเข้าเจรจานั้น ตอนนี้ก็รออยู่เพราะเพิ่งส่งข้อเสนอไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากนี้อาจจะต้องมีการนัดเพื่อเจรจากัน เราต้องตามเรื่องนี้อยู่แล้ว…ยังสรุปต้องรอลุ้น สหรัฐฯ จะวางคิวนัดหารือวันไหน เพราะเหลืออีกแค่เดือนกว่าๆ ก็จะครบกำหนดเส้นตาย 90 วัน

แต่ที่แน่ๆ เริ่มมีสัญญาณดี เมื่อ สกอตต์ เบสเซนต์ รมว.คลัง สหรัฐอเมริกา ได้กล่าวบนเวทีประชุม การลงทุนซาอุดีอาระเบีย-สหรัฐฯ ที่กรุงริยาด เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยช่วงหนึ่งได้ระบุถึงการปรับดุลการค้ากับประเทศต่างๆว่า ตนเองเน้นข้อตกลงใน เอเชีย เรามีการเจรจาที่เกิดประสิทธิผล อย่างมากกับ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่นั้น ปัจจุบันสหรัฐฯ มีการติดต่อที่ดีมาก ไต้หวัน ผลักดันข้อริเริ่มที่ยอดเยี่ยมจำนวนหนึ่ง และ ประเทศไทย ก็ด้วยเช่นกัน เหนือสิ่งอื่นใด หลายสิ่งกำลังดำเนินไปด้วยดีอย่างมากในทวีปเอเชีย

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสัญญาณทางบวกออกมาจาก รมว.คลัง สหรัฐฯ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะไม่รู้ถึงเวลาทีเด็ดทีขาดในการตัดสินใจ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีอาการ แพนิก พลิกบทเล่นอีกรึเปล่า ฉะนั้น คณะเจรจาของไทย ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ผ่างๆ…ในห้วงที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังเร่งเครื่องสอบสวน คดีฮั้วเลือก สว. ความผิดฐาน ฟอกเงิน และ อั้งยี่ ซ่องโจร จ่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวข้อง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณากรณี สว. ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาความเป็นรัฐมนตรีของ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สิ้นสุดลง จากพฤติการณ์การแทรกแซง หรือครอบงำหน้าที่ และอำนาจของ กกต. โดยใช้ ดีเอสไอ เป็นเครื่องมือตรวจสอบการเลือก สว. โดย ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำความเห็น และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐาน ตามประเด็นที่ศาลกำหนดยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัย และ ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรม เฉพาะในฐานะ ผู้กำกับดูแล ดีเอสไอ และ รองประธานกรรมการคดีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2568 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
งานนี้การทำคดีฮั้วเลือก สว. ที่อยู่ในมือของ ดีเอสไอ จะแผ่วลงไปด้วยหรือไม่ ต้องติดตามห้ามกะพริบตา จบข่าว.
“ธนูเทพ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม