
17 พ.ค. 2568 04:40 น.
- ไลฟ์สไตล์
- ธนูเทพ
บุคคลในข่าว 17 พฤษภาคม 2568
ความเที่ยงธรรมช่วยให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน….แม้เจอปัญหาการเมืองรุมเร้าหลายเรื่องแต่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ยังมุ่งมั่นทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอย่างไม่ย่อท้อ เมื่อวันที่ 15–16 พ.ค. ที่ผ่านมา นำคณะไปเยือน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ ไทย-เวียดนาม และเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี (JCR) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 4 กับ ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และคณะ เพื่อตอกย้ำบทบาทสำคัญของ ประเทศไทย ในภูมิภาค และความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ โดยมีการลงนามเอกสารสำคัญระหว่าง ไทย กับ เวียดนาม อาทิ แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการ ยกระดับความสัมพันธ์ไทย–เวียดนาม สู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน เพิ่มพูนความร่วมมือใน 3 เสาหลัก คือ การเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน การเป็นหุ้นส่วนเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และ การเป็นหุ้นส่วนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการค้า การผนึกกำลัง อาเซียน เพื่อร่วมกันเผชิญหน้ากับการค้าโลกที่จะชะลอตัวจาก มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ อเมริกา…ถือว่าทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง

อืม…จากการที่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ในส่วนการกำกับดูแล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ รองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากการถูกร้องเรียนว่ามีการครอบงำและแทรกแซงการทำงานของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในกระบวนการตรวจสอบ การเลือก สว. นั้น…พ.ต.อ.ทวี ออกมาระบุว่า เคารพคำสั่งของ ศาลรัฐธรรมนูญ อย่างเต็มที่ และถือว่าคำสั่งดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งของ หลักนิติธรรม และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่าไม่มีการแทรกแซงการสืบสวนสอบสวนใดๆ เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน ส่วน ดีเอสไอ ก็ยังปฏิบัติงานตามปกติ โดยกระบวนการตรวจสอบยังคงเป็นอิสระและมีกรอบเวลาที่กำหนดชัดเจน และเชื่อว่าการตรวจสอบเรื่อง ความโปร่งใสของการเลือก สว. จะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดชะงัก…เชื่อมั่นการถูกสั่งไม่ให้คุม ดีเอสไอ ไม่มีผลต่อการสอบ คดีฮั้วเลือก สว. แต่อย่างใด เพราะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย

ขณะเดียวกัน การสอบสวน คดีฮั้วเลือก สว. ในส่วนของ กกต. ก็กำลังเข้มข้น มีการออกหมายเรียก สว. กว่า 50 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว…ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พ.ค. คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของ กกต. ได้มีการสอบปากคำพยานใน คดีฮั้วเลือก สว. จำนวน 3 คน โดยพยานได้ระบุถึงเส้นทางการจ่ายเงิน โดยใส่ซองให้เป็นค่าใช้จ่าย 20,000 บาท โดยพยานได้เก็บเงินก้อนนี้ไว้ไม่ได้นำไปใช้จ่าย พร้อมทั้งได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน…นอกจากนี้ พยานยังให้ปากคำด้วยว่า หลังจากรับเงินไปแล้วก็เข้าสู่ ขบวนการฮั้วลงคะแนน โดยคนที่มีคะแนนเป็นศูนย์ คือให้ความร่วมมือ ขบวนการฮั้ว เป็นไปตามระบบที่เซตเอาไว้ มีเป้าหมายที่ 140–170 คน ถ้าไม่ได้เป็น สว. ก็ได้ตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ หรือ ผู้ช่วย สว. ทั้งนี้ไม่รู้จักคนที่มาติดต่อให้ร่วมขบวนการฮั้ว แต่ถูกชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการนี้ โดยมีการรวมกลุ่มที่โรงแรม มีคนจำนวนมาก และมีการย้ายโรงแรมไปอีกที่หนึ่งเพื่อไปกาโพยและย้ายไปนอนพักอีกโรงแรมหนึ่ง

คำให้การของพยานปากนี้ เป็นข้อเท็จจริง ที่มีหลักฐานแน่นหนา น่าเชื่อถือได้ขนาดไหน ทาง กกต. คงต้องสืบสวนค้นหามาประกอบสำนวนคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม งานนี้ถ้าพบว่า มีหลักฐานมัดแน่นชัดเจนตามการให้ปากคำของพยานจริงๆ รับรองได้ต้องมี คนติดคุก ฐานทุจริตผิดกฎหมาย ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แถมเข้าข่ายบ่อนทำลายล้มล้างการปกครอง

ฮัดชิ้ว…ตั้งโต๊ะแถลงชัดถ้อยชัดคำสำหรับ กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ประกาศขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน ยกเหตุผลอุดมการณ์และแนวทางทำงานต่างกัน และขอให้พรรคขับออกจากการเป็นสมาชิก เพื่อจะไปสังกัด พรรคกล้าธรรม เพราะรับการสนับสนุนจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนมาตลอด…ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการเสนอเงิน 55 ล้านบาท เงินเดือน 250,000 บาท และ รถตู้หรู ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โบ้ยให้ไปถามคนที่ออกมาพูดเปิดประเด็น

เรื่องความคับข้องใจที่ทำให้ต้องประกาศขอแยกทางกับพรรคต้นสังกัด ถึงขั้นท้าให้ขับออก สามารถหาเหตุผลมาพูดได้สารพัด แต่ ประชาชนและสังคม จะเชื่อหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ๆโดยวิถีการเมือง เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว จุดประสงค์เปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน ก็ไม่พ้นต้องจบแบบทางใครทางมัน

อืม…ต้องถือว่าพลังดูดรุนแรง เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ออกมายอมรับกระแสข่าว น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศฯ และ การุณ โหสกุล อดีต สส.กทม. จะมาเข้าสังกัด พรรคกล้าธรรม ว่า น.อ.อนุดิษฐ์ และ อดีต สส.การุณ ได้มาพบพูดคุยกับตนเอง และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรมแล้ว ถ้าถามว่าทั้ง 2 คน จะมาร่วมกับพรรคกล้าธรรมหรือไม่ ก็ไม่ปฏิเสธ และจะมีอีกหลายคนที่มาร่วม และไม่เคยใช้ตัวเลขทางคณิตศาสตร์มาต่อรองตำแหน่งทางการเมือง และขอยืนยันว่า พรรคกล้าธรรม ทุกคน ไม่เคยไปเสนอทรัพย์สินให้ใคร
งานนี้ ใครจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ก็อยู่ที่วิจารณญาณ แต่ที่แน่ๆจากภาพที่ปรากฏพรรคนี้กำลังเนื้อหอมต้องยอมรับของเขาแรงจริงๆ

สังคมทั่วไป
FM 96.5 คลื่นความคิด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (MCOT) จัดงานสัมมนาส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยเพื่อบุกตลาดตะวันออกกลาง ในหัวข้อ “เจาะตลาดตะวันออกกลาง เส้นทางสุลต่าน” ที่ห้องแกรนด์พาโนรามา โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ 17 พ.ค. 09.00 น.
“ธนูเทพ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม