
7 มิ.ย. 2568 04:35 น.
- ไลฟ์สไตล์
- ธนูเทพ
บุคคลในข่าว 7 มิถุนายน 2568
เพื่อรักษาอธิปไตยต้องใช้ทุกมาตร การที่จำเป็น
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…ท่ามกลางกระแสข่าว ปรับ ครม. ที่มีโผปลิวว่อนไปหมด เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. หลังการประชุม ครม. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีกระแสข่าว พรรคภูมิใจไทย เสนอให้ ปรับ ครม. แบบ ปรับใหญ่ ว่ายังไม่ได้คุยกับ พรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้จะคุยเมื่อจำเป็น ถ้าจะต้องปรับต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนอยู่แล้ว และถ้าจะปรับหรืออะไรต้องปรับในส่วนของ พรรคเพื่อไทย ด้วย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องคุยกันในรายละเอียดแบบนี้ ยังอยู่ในช่วงของ การประเมิน และคิดอยู่ว่า จะปรับแบบไหนแล้วดีขึ้น วันนี้ก็ยังเหมือนเดิมอยู่ แต่ก็มีการคิดในเรื่องของ การปรับ แต่ยังไม่ 100% จึงขออนุญาตยังไม่พูดดีกว่า พูดแล้วมันจะกระทบ บางทีวางกระทรวงกันไปโดยไม่ได้ออกจากตนเองเลย คนที่มีชื่อเขาก็จะเกิดความสั่นไหว

เมื่อนักข่าวถามว่า ถึงเวลาต้อง ปรับ ครม. แล้วหรือยัง นายกฯแพทองธาร ตอบว่า มีการพิจารณาอยู่ในใจ และถ้าจะต้องปรับ ครม.ก็ต้องคุยกับแกนนำพรรคร่วมอยู่แล้ว สมมติสุดท้ายจะต้องปรับ ก็ต้องเรียกมาแสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว
ฟังจากถ้อยคำ นายกฯ แสดงว่าต้องมีการ ปรับ ครม.แน่ แต่วัน ว. เวลา น. ยังอุบไว้ก่อน ประสา “ธนูเทพ” ประเมินว่าเร็วสุดคงไม่เกินกลางเดือน มิ.ย. นี้ น่าจะรู้ใครกระเด้งกระดอน

หันมาที่ประเด็นร้อนสถานการณ์ชายแดน ไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาล ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ไทย–กัมพูชา โดยหลักใหญ่ใจความสรุปว่า รัฐบาล ยืนยันตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการ ปกป้องอธิปไตย และ คุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วย สันติวิธี สอดคล้องตามหลัก กฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นใน หลักมนุษยธรรม

เหตุการณ์ปะทะในวันที่ 28 พ.ค.2568 ในขณะที่ กองกำลังฝ่ายไทย ลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทย แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่าง กองกำลังไทย กับ กัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี โดยกองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย หลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับ รวมถึง นายกรัฐมนตรี ของทั้ง 2 ประเทศ ได้มีพูดคุยกัน โดยเห็นตรงกันว่าจะร่วมมือกันทำให้สถานการณ์กลับสู่ปกติ ไม่ลุกลามบานปลาย โดยใช้กลไกทวิภาคีต่างๆที่มีอยู่แก้ไขปัญหา หนึ่งในกลไกนั้นคือ กลไก คณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ JBC

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับท่าทีของ ฝ่ายกัมพูชา ที่อาจประสงค์ใช้กลไกทาง ศาล หรือ ฝ่ายที่สาม มาพิจารณาเรื่องนี้ ไทยมีความมุ่งมั่นแก้ปัญหาโดยสันติวิธี บนพื้นฐานของ กฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญา และความตกลงต่างๆ เช่น MOU 2543 และพร้อมเจรจากับ กัมพูชา ผ่านกลไกระดับ ทวิภาคี ที่มีอยู่ระหว่างกัน เช่น JBC เป็นกลไกทางเทคนิคจัดตั้งขึ้นโดย MOU 2543 เพื่อหารือเรื่องการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทวิภาคี โดย กัมพูชา ได้ตอบรับตามคำขอของไทย ในวาระที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพในวันที่ 14 มิ.ย. 2568 ที่กัมพูชา รัฐบาล ขอยืนยันปัจจุบันโดยทั่วไปมีความสงบเรียบร้อย ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ตามขั้นตอน ปกป้องอธิปไตยและรักษาสิทธิทางกฎหมายของไทย อย่างครบถ้วน

แน่นอน การเจรจาอย่างสันติวิธี เพื่อไม่ให้เกิด สงครามฆ่าฟัน ทำให้ประชาชนตาดำๆต้องเดือดร้อน ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุด ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ ต้องไม่ยอมเสียดินแดนไทยแม้ตารางนิ้วเดียว แต่แนวทางนี้อาจไม่ถูกใจ พวกเลือดร้อน ปลุกเร้ากระแสสงคราม
แต่ที่แน่ๆ…วันเดียวกันกับที่ รัฐบาลไทย ออกแถลงการณ์สถานการณ์ชายแดน ไทย–กัมพูชา ฉบับดังกล่าว ทางรัฐบาลกัมพูชา ก็ได้ออกแถลงการณ์ตามมา โดยมีสาระสำคัญแสดงจุดยืนว่า ประเทศกัมพูชา จะนำปัญหาใน พื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก), ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และ ปราสาทตาควาย ให้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้แก้ไขปัญหา และจะไม่เจรจาทวิภาคีกับ ฝ่ายไทย ในการประชุม คณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่ประเทศกัมพูชา โดยไม่นำ ปัญหาข้อขัดแย้ง พื้นที่ ชายแดนไทย–กัมพูชา มาบรรจุวาระในการประชุมครั้งนี้…งัดเล่ห์เหลี่ยม ล้มแผนเจรจา ลากปัญหาพิพาทพื้นที่ทับซ้อนขึ้นศาลโลก เพื่อชิงความได้เปรียบประเทศไทยตามแนวถนัด

งานนี้จึงขึ้นอยู่กับ รัฐบาล ว่าจะมี มาตรการใด ออกมากดดันตอบโต้กลับทาง กัมพูชา แต่ที่แน่ๆ จับทางจาก ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ออกมาระบุถึงเรื่องการเสนอแนวคิดในการ ปิดด่านชายแดน ของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าหาก เจรจา JBC ไม่สำเร็จ การปิดด่าน คือ มาตรการต่อไป ถือเป็นการเสนอตามลำดับขั้นตอน และหากมีการปิดด่านชายแดน สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. จะเป็นผู้พิจารณาโดยตรง…ดังนั้น เมื่อสถานการณ์พลิกผัน รัฐบาลกัมพูชา ล้มข้อเสนอการเจรจาทวิภาคีกับ รัฐบาลไทย ในเรื่องปัญหาขัดแย้งพื้นที่ชายแดนคงหนีไม่พ้นต้องใช้มาตรการ ปิดด่านชายแดนกดดัน เริ่มจากเบาไปหาหนัก จบข่าว

ถือว่ามาได้ถูกเวลา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. จัดแถลงข่าวความพร้อมในการจัดซื้อ เครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง จากสวีเดน มูลค่า 19,500 ล้านบาท เพื่อทดแทนเครื่องบิน F-16 ที่ใช้มากกว่า 37 ปี โดยมั่นใจว่า โครงการนี้จะผ่านความเห็นชอบจาก ครม. …สถานการณ์ชายแดนไทยตึงเครียด ข้าศึกเหิมเกริมตั้งท่ารุกล้ำเขตแดน ทำให้กระแสต้านการจัดซื้อเครื่องบินรบ แผ่วลงไปโดยปริยาย
สังคมทั่วไป
ฌาปนกิจศพ เอี่ยมกุน เกษมธีระสมบูรณ์ วัดทองคง อ.เมืองสมุทรปราการ 7 มิ.ย. 16.00 น.
“ธนูเทพ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม