
8 มิ.ย. 2568 04:30 น.
- ไลฟ์สไตล์
- ธนูเทพ
บุคคลในข่าว 8 มิถุนายน 2568
ถ้าอยากชนะศึก ต้องรู้ว่าศัตรูต้องการอะไร
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568

“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…หลังจาก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงกระแสข่าว การปรับ ครม. กำลัง พิจารณาอยู่ในใจ และถ้าจะต้อง ปรับ ครม. ก็จะต้องคุยกับ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก่อน…ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุถึงกระแสข่าวที่ว่าจะหลุดจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ว่ายังไม่ได้พูดคุยหรือมีการติดต่อจากใครในเรื่องนี้ ดังนั้น ต้องฟังจาก นายกรัฐมนตรี และการ ปรับ ครม. ต้องหารือในระดับหัวหน้าพรรค ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกหารือใดๆทั้งสิ้น…สรุปยังอึมครึม ให้รอลุ้นกันต่อไป

ผ่างๆ…สำหรับ ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จากการปะทะระหว่าง ทหารไทย กับ ทหารกัมพูชา ที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา …รัฐบาล ภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ว่า จะใช้แนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้ง ชายแดนไทย–กัมพูชา แบบสันติวิธี ด้วยการเจรจากับกัมพูชา โดยจะใช้เวทีการประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ที่ รัฐบาลกัมพูชา เป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ เพื่อเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

แต่ปรากฏว่า รัฐบาลกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์โต้ ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า กัมพูชา จะนำปัญหาใน พื้นที่ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และ ปราสาทตาควาย ยื่นให้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก เป็นผู้ตัดสินแก้ปัญหา และ จะไม่นำปัญหาข้อขัดแย้ง ในพื้นที่ ชายแดนไทย–กัมพูชา มาหารือในการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้…ถือเป็นการเล่นเล่ห์เหลี่ยม หักหน้ารัฐบาลไทยอย่างจัง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ รัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์ดังกล่าว นายกฯแพทองธาร ก็ได้ออกมาย้ำจุดยืนของรัฐบาลไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ว่า รัฐบาลไทย ขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทาง สันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน กรณีที่ กัมพูชา จะให้ ศาลโลก เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทย ขอเรียนว่า ประเทศไทย ไม่ได้ให้การยอมรับ เขตอำนาจศาลโลก ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี 2503 จนถึงปัจจุบัน ขอย้ำว่าประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทย ยังยึดมั่นในกลไกการหารือ ทวิภาคี ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

และล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายกฯแพทองธาร ได้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง อาทิ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. และ หน่วยงานความมั่นคง เข้าร่วมพร้อมเพรียง…โดย นายกฯแพทองธาร ระบุภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงมาตรการต่างๆที่พร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยัน รัฐบาล กับ กองทัพ มีการทำงานสนับสนุนกันอย่างดี และอำนาจหน้าที่อะไรต่างๆก็เคลียร์กันหมดว่าถึงหน้างาน กองทัพสามารถตัดสินใจได้เลย

ส่วนในเรื่องของ การเจรจา อาจไม่ได้ลงในรายละเอียดทั้งหมด แต่ในกรอบความเข้าใจก็เกิดความเข้าใจกัน ยังไม่มีความรุนแรงที่ขยายมากยิ่งขึ้น ทาง กองทัพ เองก็ยืนยันในการ จำกัดความรุนแรง ไม่ให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องการที่ กัมพูชา รุกล้ำพื้นที่ทับซ้อน ก็ยังอยู่ใน ขั้นตอนการเจรจา ขณะที่ กองทัพ ก็ออกมายืนยันแล้วว่า เตรียมพร้อมทุกรูปแบบ สำหรับทุกๆสถานการณ์ กองทัพ ทราบอยู่แล้วว่าเหตุการณ์หน้างานเป็นอย่างไร ต้องปะทะหรือยัง อันนี้เป็นการตัดสินใจของ กองทัพ ให้หน้างานดูเลยว่า มันต้องปะทะหรือเปล่า แต่ถ้าไม่จำเป็นต้องปะทะ การที่เราจะปะทะไป ความเสียหาย มากกว่าแรงเชียร์ที่จะให้เกิดการปะทะ ตรงนั้นต้องใช้ สันติวิธี ให้ได้มากที่สุด …ถือเป็นเรื่องถูกต้องที่ รัฐบาล ให้อำนาจ กองทัพ ในการตัดสินใจในการปฏิบัติหน้าที่ รักษาอธิปไตยตามแนวชายแดน

ขณะที่ รองนายกฯภูมิธรรม สำทับว่า วันนี้เราต้องยึดมั่นในหลักการ ปกป้องอธิปไตยของประเทศ และ ดำรงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ขอยืนยัน สมช. ได้ตกลงและเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่อง อธิปไตย เป็นเรื่องสำคัญหลักที่จะต้องดูแลกันอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องอื่นๆเราจะประคองให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีเพราะยังมีภาระความจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันอีก ฉะนั้น ความขัดแย้งอยากให้จำกัดวงมากที่สุด…พูดง่ายๆ ถ้าจบลงได้ด้วยการเจรจา ก็ดีกว่าเปิดฉากรบ

ทางด้าน พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ออกมาระบุว่า เรื่องแรกต้องเน้นย้ำว่า กองทัพ สนับสนุนแนวทางของ รัฐบาล ในการแก้ปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์แนว ชายแดนไทย–กัมพูชา ด้วย สันติวิธี เรื่องที่สอง กองทัพ ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการ รักษาอธิปไตย และคุ้มครองปกป้อง ประชาชนตามแนวชายแดน ซึ่งได้ดำเนินการมาตลอด เรื่องที่สาม ในการประชุม ผบ.เหล่าทัพ มีการพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ไทย–กัมพูชา ในลักษณะสนับสนุนแนวทางของ รัฐบาล และ สมช. ..เมื่อ ผู้นำรัฐบาล รมว.กลาโหม และ ผู้นำเหล่าทัพ ยืนยันทิศทางตรงกัน ประชาชน ก็สบายใจได้ว่าการแก้ปัญหาชายแดน ไทย–กัมพูชา มีการปรับจูนเป็นเอกภาพ ไม่เพลี่ยงพล้ำเขมรแน่นอน จบข่าว
สังคมทั่วไป
พล.ร.อ.ณรงค์ เทศวิศาล อดีต ผบ.กองเรือยุทธการ เป็นประธานจัดคอนเสิร์ตการกุศล หาเงินเพื่อสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ที่ห้องเบญจรัศมี ททบ.5 วันที่ 8 มิ.ย. 17.00 น.
ศพ อุดม จิตโสภากุล บิดา พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ. ตั้งสวดศาลาจรัสบวรพันธ์ วัดกลางนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ 19.00 น. 8 มิ.ย. คืนสุดท้าย พระราชทานเพลิง 9 มิ.ย. 15.00 น.
“ธนูเทพ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม