
8 ก.ค. 2568 03:30 น.
- ไลฟ์สไตล์
- อินทรีเหล็ก
บุคคลในข่าว 8 กรกฎาคม 2568
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ….ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ…..ฉบับประจำวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2568

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี……ทรงห่วงใยทหารหาญที่ทำหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา….รับสั่ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ได้รับพระราชทานพระนำไปให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีรับสั่งให้ไปแจกจ่ายทหารให้ครบทุกคน…..นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ

วิกฤติการเมือง ในช่วงของการเฝ้าระวังเป็นพิเศษจาก คดีชั้น 14 ภายใต้กระบวนการวินิจฉัยของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ศาลมีคำสั่งหมายเรียก พยานรวม 20 ปาก นัดไต่สวนทั้งสิ้น 6 นัด….วันที่ 4, 8,15,18, 25, 30 ก.ค. ….วันนี้เป็นการนัดไต่สวน กลุ่มเจ้าหน้าที่ พัศดีของกรมราชทัณฑ์ วันที่ 15 ก.ค. ไต่สวนกลุ่มผู้บริหารราชทัณฑ์….. ในแนวทางการต่อสู้คดีที่ วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของอดีตผู้นำ ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า กรมราชทัณฑ์ ได้เห็นประวัติการรักษาแล้ว เป็นประเด็นที่ต้องแสดงหลักฐานต่อศาล ส่วนบัญชีพยาน ที่ได้นำเสนอพร้อมคำชี้แจง ได้อ้างพยานเพิ่ม 10 ปาก….ยังต้องลุ้นระทึกไปจนถึงสิ้นเดือนนี้

คดี ม.112 ที่ ศาลอาญา นัดสืบพยานนัดแรก โดย พนักงานอัยการสำนักคดีอาญา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง อดีตนายกฯทักษิณ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักรกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558…..นัดไต่สวนนัดแรกเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา…..ศาลนัดสืบพยานทั้งหมด 7 นัด…ฝ่ายโจทก์ วันที่ 1, 2 และ 3 ก.ค. …ฝ่าย จำเลย เริ่มสืบพยานวันที่ 15,16, 22 และ 23 ก.ค. …..ก่อนจะ มีคำพิพากษาถึงที่สุด

คดีการใช้งบประมาณผิดวัตถุประสงค์ ของ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร…..โยกงบปี 2568 ไปใช้ใน โครงการแจกเงินหมื่น…..ที่ยังค้างท่ออยู่ในการพิจารณา ของ ป.ป.ช. …..โดยมีเอกสารจาก กฤษฎีกา เตือน ครม.ปรับปรุงงบปี 2569 อย่าโยกงบผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144…หลังจากที่ รัฐบาลโยกงบปี 2568 จากการ ใช้หนี้ธนาคารรัฐ 5 แห่ง ไปใช้ใน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต…..วิเคราะห์ข้อความเป็นลายลักษณ์อักษรจาก สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบกลับ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี……การเปลี่ยนแปลงงบฯอยู่ในอำนาจของ ครม. แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 144 วรรคหนึ่งและวรรคสองของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 โดยเคร่งครัด…..คดีนี้ ป.ป.ช. รับเรื่องไว้ พิจารณาตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีกรอบการพิจารณา 60 วัน…..และถ้า ป.ป.ช. ชี้ว่า

มีมูลจะส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ภายในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งคาดว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะใช้เวลาวินิจฉัยอีกอย่างน้อย 15 วัน ก็ต้องมีลุ้นเช่นกัน

คดีศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง สว.ยื่นถอดถอน นายกฯแพทองธาร ชินวัตร วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าด้วยความเป็นรัฐมนตรีของ นายกฯแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5)…..ตามที่ปรากฏเสียงสนทนาระหว่าง นายกฯแพทองธาร กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา และ ผู้ถูกร้อง ยอมรับว่าเป็นเสียงการสนทนากับ ฮุน เซน จริง

ศาลรัฐธรรมนูญ มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง รับเรื่องไว้พิจารณา และมีมติเสียงข้างมาก 7-2 เสียง มีคำสั่งให้ ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นับตั้งแต่ วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไปจนกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น ……..(รายชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยในคำสั่งให้ นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ประกอบไปด้วย นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และ อุดม สิทธิวิรัชธรรม)……โดยให้ ผู้ร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณา ของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 54 ……คาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาไม่เกินเดือน ส.ค.นี้

กรอบเวลาการพิจารณางบประมาณรายจ่าย ปี 2569…….ตามที่ประธานรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ยืนยัน…….เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2569 วาระสาม ก่อนจะส่งให้ สว.เห็นชอบ …..ซึ่งจะต้อง ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 105 วัน……หรือจะต้องเรียบร้อยไม่เกินเดือน ส.ค.เช่นกัน…… เป็นไทม์ไลน์ วิกฤติการเมืองของประเทศ ไทย……ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองชั่วพริบตาเดียว…..ห้ามกะพริบตา
กระทรวงการต่างประเทศ โดย นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการ ต่างประเทศ แถลงถึงกรณีที่ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสหประชาชาติ (UNSG) แจ้งความประสงค์ที่จะ ฟ้องประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อศาลโลก (ICJ)……ว่า ไทย ก็ได้ให้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก มีหนังสือถึง เลขาธิการสหประชาชาติ แล้ว อ้างตามข้อตกลง MOU 2543…….บรรทัดนี้ต้องยืมคำพูด กัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรมมาใช้……ไทยต้องเดินเกมการทูตและความมั่นคงอย่างรู้เท่าทัน และเหนือชั้นกว่านี้…..ไม่ปล่อยให้กัมพูชานำเหตุไปฟ้องสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยทำตัว เป็นลูกไล่ ที่เขาไปฟ้องสหประชาชาติ และศาลโลกอย่างอ่อนเชิง……จบข่าว
ได้ทีขี่แพะไล่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน พูดถึงเรื่องที่สภาจะพิจารณา กฎหมายนิรโทษกรรม ในวันที่ 9 ก.ค.นี้……พรรคประชาชน ยึดหลักการเดิม การนิรโทษกรรมต้องไม่มีเงื่อนไข….เสนอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ คดีเกี่ยวกับ ม.112 เป็นรายกรณี…ควรพิจารณาจากหลักฐาน พฤติกรรม และเจตนาทางกฎหมายมากกว่าตัวบุคคล……ข้อเสนอจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวหากมีความจำเป็นพรรคอาจยกมือให้ ชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย….ซึ่งพิจารณาตามหลักการมากกว่ายึดติดกับตัวบุคคลหรือสังกัดพรรค…….แก้ผ้าล่อนจ้อน.
“อินทรีเหล็ก”
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม