รางวัล ผู้ทรงคุณค่า สมหมาย สุภาพพรชัย เกษตรกรเลือดปศุสัตว์ 100%

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05075011158&srcday=2015-11-01&search=no

วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 28 ฉบับที่ 610

สกู๊ปพิเศษเกษตรมหัศจรรย์วันเส้นทางเศรษฐี 2558

รางวัล ผู้ทรงคุณค่า สมหมาย สุภาพพรชัย เกษตรกรเลือดปศุสัตว์ 100%

“ผมลองผิดลองถูกมาหลายรูปแบบ แต่ไม่เคยท้อ ก็ใจมันชอบเลี้ยงสัตว์ เพราะทำให้รู้เรื่องพืช เรื่องดิน เรื่องอาหารสัตว์ต่างๆ คุณลองคิดดูสิ เลี้ยงสัตว์มันเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง สัตว์มันต้องกินอาหาร เราก็ต้องหาอาหารดีๆ มาให้กิน สัตว์ที่เลี้ยงจะได้เจริญเติบโต น้ำหนักดี ราคาก็ดีใช่ไหม”

คุณสมหมาย สุภาพพรชัย เกษตรกรวัย 73 ปี เจ้าของพรชัยฟาร์ม ตั้งอยู่เลขที่ 153 หมู่ที่ 2 บ้านดอนโพธิ์ ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โทร. (081) 829-8425 บอกกล่าวถึงความรู้สึกต่อการประกอบอาชีพเลี้ยงปศุสัตว์ตลอดระยะเวลา 42 ปี ที่ผ่านมา

คุณสมหมาย หรือที่คนในวงการปศุสัตว์ต่างเรียกขานกันว่า จ่าหมาย เป็นหนึ่งในเกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงปศุสัตว์ โดยอาชีพหลักในปัจจุบันคือ การเลี้ยงโคเนื้อ

จ่าหมาย ผ่านประสบการณ์เลี้ยงสัตว์มาอย่างมากมาย ไม่ว่าการเลี้ยงสุกร โคนม และโคเนื้อ และที่สำคัญเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าที่มุ่งมั่นในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง จนเรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดที่ทำมา

ตลอดระยะเวลาของการเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ จ่าหมาย บอกว่า มีทั้งประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สามารถก้าวมาได้ถึงวันนี้ เพราะสู้ พยายามฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น

“โดยมากผมจะเป็นผู้ริเริ่มโดยตรง อย่าง โคเนื้อ ก็เป็นคนรุ่นๆ ที่นำโคเนื้ออเมริกันบราห์มันยุคใหม่เข้ามาเลี้ยง โคนมก็เป็นคนแรกๆ ที่เลี้ยงโคนมเลือดร้อยจนประสบความสำเร็จ ทุกอย่างที่ทำได้ เพราะตั้งใจจริงและทำจริง” จ่าหมาย กล่าว

“ผมนั้นเป็นลูกชาวนา เกิดที่ ตำบลวัดสิงห์ อำเภอโพธาราม ตามพ่อไปเลี้ยงวัวตั้งแต่อายุ 6 ขวบ พอโตขึ้นไปเรียนเป็นนักเรียนนายสิบ แล้วมาประจำการอยู่ที่กรมการสัตว์ เป็นเวลา 14 ปี จึงลาออกมาทำฟาร์ม เลี้ยงมาหมดทุกอย่าง เพราะชอบ”

สำหรับในวันนี้ จ่าหมายได้มุ่งมั่นกับการเลี้ยงโคเนื้อ เพราะพื้นที่ในเขตอำเภอโพธารามมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งน้ำและหญ้า

ส่วนพันธุ์โคเนื้อที่โดดเด่นของพรชัยฟาร์มในวันนี้คือ โคพันธุ์โลวไลน์แองกัส ซึ่งเป็นโคเนื้อนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย

“โคเนื้อที่เลี้ยงตอนนี้ ไม่ใช่ว่าผมมีสตางค์แล้ว ซึ่งมาเลี้ยงเพื่อโชว์ว่ามีรสนิยม แต่ผมเลี้ยงเพราะต้องการทำเป็นอาชีพ เลี้ยงโคเพื่อหากำไรมายังชีพ ดังนั้น โคเนื้อพันธุ์ที่ผมเลี้ยงได้ ชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ต้องเลี้ยงได้เช่นกัน เลี้ยงแล้วมีกำไรได้ด้วยเหมือนกัน” จ่าหมาย กล่าว

โคเนื้อพันธุ์โลวไลน์แองกัส จ่าหมาย บอกว่า เป็นสายพันธุ์ที่ทางประเทศออสเตรเลียนำมาปรับปรุงพันธุ์ เพื่อให้มีขนาดลำตัวที่เล็กลง โดยแบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก เป็นพันธุ์ที่มีความสูงประมาณ 90-100 เซนติเมตร ขนาดกลาง เป็นพันธุ์ที่มีความสูงประมาณ 100-120 เซนติเมตร และขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 120-150 เซนติเมตร

ในส่วนของพรชัยฟาร์ม ปัจจุบันได้เน้นการนำโคพันธุ์โลวไลน์แองกัสขนาดกลางเข้ามาเลี้ยง ทำให้ในปัจจุบันเป็นฟาร์มที่มีพันธุ์โคเนื้อโลวไลน์แองกัสเลือด 100% มากที่สุดในประเทศไทย

“ผมอยากให้เกษตรกรไทยได้มีทางเลือกใหม่ๆ เพราะโคพันธุ์นี้มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย เลี้ยงได้จำนวนมาก กินอาหารง่าย เมื่ออายุ 14-15 เดือน สามารถผสมพันธุ์ได้แล้ว ซึ่งเป็นลักษณะที่เหมือนกับโคพื้นเมืองของบ้านเรา อีกทั้งเนื้อมีคุณภาพและอร่อย เพราะมีไขมันแทรก ตลาดมีความต้องการมาก” จ่าหมาย กล่าว

จ่าหมาย ยืนยันว่าโคเนื้อพันธุ์โลวไลน์แองกัสสามารถเลี้ยงในเมืองไทยได้เป็นอย่างดี เพราะมีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ยืนยันออกมาแล้ว

“การที่ประเทศไทยจะไปได้ไกลแค่ไหนกับการเลี้ยงโคเนื้อ ในมุมมองของผมมองว่า อาเซียนแต่ละประเทศนิยมเลี้ยงโคเนื้อไม่เหมือนกัน ดังนั้น รัฐบาลควรสนับสนุนสมาคมโคต่างๆ ให้แข็งแรง หน่วยงานของรัฐควรช่วยให้เกษตรกรมีกำลังการผลิตเพื่อส่งโคเนื้อไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเมืองไทยนั้นเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นศูนย์กลางการส่งออกโคเนื้อและเนื้อโคนม ส่วนเกษตรกรก็ต้องรู้จักการเลี้ยงโคสายพันธุ์ที่ดี และเลี้ยงให้ถูกหลักเหมาะสมกับความต้องการ อาชีพเกษตรกรรมนั้นสำหรับผมแล้วมองว่าเป็นอาชีพที่สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัวได้ไม่แพ้อาชีพอื่น ขออย่างเดียวให้ทำจริงๆ เท่านั้น” จ่าหมาย กล่าวทิ้งท้าย

Leave a comment