หนุ่มกุ๊กร้านอาหารถูกรางวัลที่1รับ18ล้าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160516/227749.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2559
หนุ่มกุ๊กร้านอาหารถูกรางวัลที่1รับ18ล้าน

หนุ่มกุ๊กร้านอาหารดังดวงเฮงถูกรางวัลที่1รับ 18 ล้าน โร่ลงบันทึกที่สน.ลุมพินี “บอร์ดสลาก” เดินหน้าแก้กฎหมาย ตามแผนโรดแม็พแก้ปัญหาสลากแพงระยะที่ 3

           เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 พฤษภาคม ร.ต.อ.เพลิง รุณนากัน รองสารวัตร(สอบสวน)สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า นายเอกชัย ทิพพรม อายุ 34 ปี อาชีพกุ๊กในร้านอาหารชื่อดังย่านลุมพินี อยู่บ้านเลยที่ 34 ม.1 ต.หัวเสือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 พ.ค. 59 หมายเลข 141737 จำนวน 3 ใบ ซึ่งได้รับเงินรางวัลรวม 18 ล้านบาท
           ร.ต.อ.เพลิง กล่าวอีกว่า เบื้องต้น นายเอกชัย เดินทางมาลงบันทึกประจำวันเพียงคนเดียว ด้วยอาการหน้าซีดเหมือนยังตกใจ ไม่ได้สติ คงเป็นเพราะยังรู้สึกตื่นเต้นสุดขีด หลังจากเพิ่งถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล โดยในระหว่างลงบันทึกนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายินดีเป็นจำนวนมาก
           ด้านนายเอกชัย กล่าวว่า ทันทีที่รู้ว่าตัวเองถูกรางวัลที่ 1 ก็ตัดสินใจลาออกจากการเป็นกุ๊กที่ร้านอาหารแล้ว ซึ่งเตรียมตัวที่จะย้ายกลับบ้านเกิดไปอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ โดยเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งจะนำไปใช้หนี้สิน และส่วนที่เหลือเก็บเอาไว้ใช้จ่ายที่จังหวัดศรีสะเกษต่อไป
สาวโรงงานดวงเฮงถูกรางวัลที่หนึ่งรับ 6 ล้าน
              ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 18.00 น.  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีสาวฉันทนาในย่านบางปู ดวงเฮงถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หลังจากนำเลขจากบิลที่จ่ายค่าเช่าห้องไปซื้อลอตเตอรี่ มา 1 คู่ ดวงเฮงถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 รับ 6 ล้านบาท ซึ่งสาวฉันทนาคนดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ภายในซอยบางปู 78 ถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบสาวฉันทนาดวงเฮงคนดังกล่าวที่อพาร์ทเม้นดังกล่าว ทราบชื่อคือ นางศรีวิไล ชาดา อายุ 39 ปีชาว จังหวัดอุบลราชธานี พนักงานฝ่ายผลิต

บอร์ดเดินหน้าแก้ไขพรบ.สลากหวังแก้ขายเกิน

พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินแผนปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าสู่ระยะที่  3 ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาสลากแพงอย่างถาวร  ซึ่งจะมีการแก้ไขพ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 โดยก่อนหน้านี้ทางบอร์ดฯได้เสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หากผ่านการพิจารณาของกฤษฎีกาน่าจะเสนอมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  ซึ่งการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวต้องแล้วเสร็จก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า

โดยในการแก้ไชกฎหมายครั้งนี้ จะมีการกำหนดไว้ในกฎหมายให้ผู้ค้าสลากทุกรายต้องมีบัตรประจำตัว โดยบัตรนี้จะมีชิปฝังอยู่ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ รวมถึงจะกำหนดให้มูลนิธิองค์กรการกุศลที่ได้รับโควตาจากสำนักงานสลาก ต้องมีการส่งงบดุลมาให้สำนักงานสลากตรวจสอบด้วย เนื่องจากมูลนิธิองค์กรดังกล่าวได้รับส่วนต่าง 2% ของราคาสลาก ดังนั้นต้องมีการแสดงบัญชีเพื่อให้เห็นว่ามีการนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ดูแลสมาชิกจริงๆ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือนักการเมืองเพื่อเข้ามารับโควตาสลาก

ตั้งแต่บอร์ดชุดนี้มารับหน้าที่เป็นเวลาเกือบ 1 ปี สามารถแก้ไขปัญหาสลากแพงได้ตามโรดแมปที่วางไว้ ขณะนี้ราคาสลากเริ่มทรงตัวในระดับ 80 บาทเกือบทุกแผง  แต่จะมีสัดส่วนประมาณ 20-30%ของบางแผงค้าที่นำสลากมารวมชุด และนำไปขายในราคาที่แพงขึ้น

สำหรับจำนวนสลากนั้น บอร์ดชุดนี้ยังยืนยันที่จะกำหนดสลากไว้ที่ 120 ล้านฉบับ หรือ 60 ล้านฉบับคู่ และจะยังไม่มีผลิตภัณฑ์อื่นๆ จนกว่าจะแก้ไขพ.ร.บ.สลากแล้วเสร็จ เนื่องจากในการแก้ไขพ.ร.บ.สลากนั้น เปิดทางให้เพิ่มผลิตภัณฑ์สลากใหม่ๆ ได้  ส่วนการทำสลากสำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียน (สลากเออีซี) ที่เคยคิดจะทำเมื่อต้นปี2559 แต่เมื่อศึกษาแล้วพบว่าคงไม่สามารถทำได้ในบอร์ดชุดนี้ เพราะดูบรรยากาศทางการเมือง และกฎหมายยังไม่เอื้อให้ดำเนินการ

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สลากใหม่นั้นไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นหวยออนไลน์ 2 ตัว 3 ตัว เพราะจะเปิดกว้างให้บอร์ดชุดใหม่นำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมมาใช้  ส่วนกรณีที่บริษัท บริษัท ล็อกซเลย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ฟ้องร้องสำนักงานสลาก เรื่องหวยออนไลน์นั้นคงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลปกครอง และให้เดินไปตามกระบวนการของศาล

ด้านพล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ไขพ.ร.บ.สลาก  จะมีการแก้ไขให้สอดคล้องกับมาตรการ 44  เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่องสำคัญ คือ การจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยกำหนด 60% เป็นเงินรางวัล อีก 20% เป็นรายได้แผ่นดิน ส่วน 7% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย และ 3% เป็นเงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม

นอกจากนี้ยังได้เพิ่มบทลงโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ที่ขายสลากเกินราคา จากเดิมปรับไม่เกิน 2,000 บาท นอกจากนี้ยังนำร่างแก้ไขที่เคยศึกษาไว้ อาทิ กำหนดอายุผู้ซื้อสลากต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายสลากในสถานศึกษาหรือใกล้สถานศึกษา มาใช้ไว้ในร่างแก้ไขล่าสุดด้วย

1 thought on “หนุ่มกุ๊กร้านอาหารถูกรางวัลที่1รับ18ล้าน

Leave a comment