9 ก.ค. 59 – นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์“สำนักข่าวเนชั่น”กรณีที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมเรียกค่าชดใช้ในกรณีการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 4 สัญญา ปริมาณ 6.2 ล้านตัน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดจึงไม่ขอให้สัมภาษณ์ก่อน ต้องรอให้กระทรวงพาณิชย์ส่งเอกสารมาให้ก่อน ส่วนจำนวนเงินที่กระทรวงพาณิชย์เรียกค่าเสียหายมากเกินไปหรือไม่นั้น ยังไม่ขอตอบเช่นกัน ตอนนี้ขอรอเอกสารเพื่อพิจารณารายละเอียดทั้งหมด

ขณะที่นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องเลย ยังไม่ได้แจ้งอะไร เพิ่งทราบข่าวจากสื่อ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ต้องสู้กันตามกฎหมาย ขอคุยกับฝ่ายกฎหมายเพื่อเตรียมรายละเอียดทั้งหมดก่อน พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้ทำหน้าที่บกพร่อง การขายข้าวจีทูจีทำโดยสุจริตใจ เพื่อช่วยเหลือชาวนาตามนโยบายของรัฐบาล

“ผมและรัฐบาลในขณะนั้นไม่มีใครคิดทำให้ประเทศเสียหาย เราประสงค์ดี เป็นทางออกที่ดี เราเป็นฝ่ายนโยบายก็ต้องพิจารณาสิ่งที่เป็นประโยชน์ มาวันนี้มีคนมามองว่าเราทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องสู้กันศาล เรื่องนี้อาจจะหวังผลทางการเมืองอยู่บ้าง แต่ก็พร้อมน้อมรับ ทุกวันนี้ขึ้นศาลทุกวันสัปดาห์อยู่แล้ว ก็ไม่แปลกหากต้องขึ้นศาลถี่ขึ้นหน่อย” นายภูมิ กล่าว

ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ (8ก.ค.) กรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยว่าทำหนังสือเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาการลงนามในหนังสือบังคับทางปกครองให้นักการเมืองและข้าราชการรวมทั้งหมด 6 คน ชดใช้ค่าเสียหาย จากกรณีการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 4 สัญญา ปริมาณ 6.2 ล้านตันแล้ว หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ทำตอบหนังสือกลับมาแล้วว่า ผู้ที่มีอำนาจลงนาม คือ นายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
หากมีการลงนามแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่ต้องชดใช้ทั้ง 6 คน เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายตามที่กระทรวงการคลังคำนวณมา โดยการส่งหนังสือบังคับทางปกครองจะมีอายุความ 2 ปี หรือนับจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลมา หรือครบกำหนดภายในเดือนก.พ. 2560 ซึ่งจะต้องส่งหนังสือบังคับทางปกครองไปให้ผู้ที่ต้องชดใช้ เมื่อผู้ชดใช้ได้รับหนังสือแล้วก็สามารถใช้ช่องทางตามกฎหมายยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลได้
รายงานข่าวแจ้งว่า นักการเมืองและข้าราชการ 6 คนที่จะถูกบังคับทางปกครองชดใช้ค่าเสียหาย จากการขายข้าวจีทูจี มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ
ทั้งนี้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ได้คำนวณความเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดในโครงการขายข้าวรัฐต่อรัฐให้กับจีน แต่ไม่ได้มีการขายจริง ส่งผลให้รัฐเสียหาย ได้คำนวณความรับผิดออกมาเป็นรายๆที่ต้องชดใช้ตามส่วนร่วมในสัญญาแต่ละฉบับหรืออำนาจในการสั่งการกระทำละเมิด โดยนายบุญทรง มูลค่าชดใช้ความเสียหาย 1.7 พันล้านบาท นายภูมิ มูลค่าชดใช้ความเสียหาย 2.2 พันล้านบาท พ.ต.นพ.วีระวุฒิ มูลค่าชดใช้ความเสียหาย 4 พันล้านบาท นายมนัส มูลค่าชดใช้ความเสียหาย 4 พันล้านบาท นายทิฆัมพร มูลค่าชดใช้ความเสียหาย 4 พันล้านบาทและนายอัครพงศ์มูลค่าชดใช้ความเสียหาย 4 พันล้านบาท รวมค่าเสียหายที่ต้องชดใช้ 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ความรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายที่ไม่เท่ากันระหว่างนายบุญทรงกับนายภูมิ นั้นเกิดจากการมีส่วนร่วมในแต่ละสัญญา ขณะที่พ.ต.นพ.วีระวุฒิและข้าราชการอีก 3 คนนั้นคณะกรรมการรับผิดทางละเมิดคำนวณเท่ากันเพราะเห็นว่ามีส่วนร่วมทุกสัญญา