‘กองทัพศตวรรษ21’ สปีชีส์ที่แตกต่าง

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/scoop/376276?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=scoop

‘กองทัพศตวรรษ21’ สปีชีส์ที่แตกต่าง

20 มิถุนายน 2562 – 13:10 น.
กองทัพศตวรรษ21,ทหาร
เปิดอ่าน 2,650 ครั้ง

คอลัมน์… ถอดรหัสลายพราง โดย… พลุซุ่มยิง

นับจากวันถวายสัตย์ปฏิญาณและแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ เข้าบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ พร้อมๆ กับการสลายไปของรัฐบาลรัฐประหารและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนการทำหน้าที่ของ 7 พรรคฝ่ายค้านในการตรวจสอบและผลักดันนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ จะเริ่มต้นทันทีหลังมีการเปิดสภาให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ทำหน้าที่

น่าจะกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งสำหรับพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เตรียมขอเปิดอภิปรายผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างกองทัพให้เป็น ‘กองทัพศตวรรษ 21’ มีเป้าหมายหยุดรัฐประหาร กันทหารออกจากการเมือง เช่น สถาปนาอำนาจของรัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ โดยจัดตั้งคณะเสนาธิการร่วม, ลดงบประมาณ, ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร, จัดสวัสดิการทหาร

 ‘กองทัพศตวรรษ 21’  ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อยู่ในแผนการปฏิรูปกองทัพของกระทรวงกลาโหม ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้มีความอเนกประสงค์ ปฏิบัติงานได้หลากหลาย เล็กกะทัดรัด แต่ทรงอนุภาพ  ด้วยการลดจำนวนกำลังพลหันมาเพิ่มเทคโนโลยีในการป้องกันประเทศและดูแลประชาชนตามสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะผู้สูงอายุในอีก 10 ปีข้างหน้า

ถ้าตัดอคติทางการเมืองออกไปจะเห็นว่าพรรคอนาคตใหม่ กับกองทัพ มีความคิดคล้ายคลึงกัน แต่ต่างกันตรงที่วิธีการ ที่ทำไม่ได้ในโลกของความเป็นจริง โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะเสนาธิการร่วม ทำหน้าที่ใช้กำลัง ในขณะผู้บัญชาการทหารบก ทำหน้าที่แค่เตรียมกำลัง ยึดตามสหรัฐอเมริกา ที่มียุทธศาสตร์รบนอกบ้าน แต่ประเทศไทยคือการรบภายในประเทศ ป้องกันอธิปไตย

“หากอนาคตใหม่เป็นรัฐบาลมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะรู้ว่าการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติจริงบางเรื่องทำไม่ได้ เพราะมีรายละเอียดจำนวนมาก และคนที่นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติคือข้าราชการ เช่น การตั้งคณะเสนาธิการทหารร่วมแบบสหรัฐ เพราะคนละสปีชีส์ คนละยุทธศาสตร์กัน เอาเราไปเทียบกับประเทศมหาอำนาจเป็นไปไม่ได้ ประเทศไทยมีขนาดเท่ารัฐเท็กซัส ของสหรัฐเท่านั้น ผมเชื่อว่าหากคุณธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรี จะเดินตามแนวทางที่กองทัพกำลังทำอยู่ในปัจจุบันนี้” แหล่งข่าวกองทัพบก ระบุ

ต้องยอมรับว่าในห้วงที่ผ่านมากองทัพมีการปรับตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะการปรับลดกำลังพลอย่างต่อเนื่องในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้กองทัพง่อยเปลี้ยเสียขา จึงยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนเป็นรูปธรรม ซึ่งจะแตกต่างจากอนาคตใหม่ ได้ระบุตัวเลขเอาไว้ชัดเจน แต่ไร้ซึ่งหลักการ เช่น ลดกำลังพลจาก 330,000 นาย เหลือ 170,000 นาย ลดทหารระดับชั้นนายพล 4 เท่าตัว จากที่มีอยู่ 1,600 นาย เหลือ 400 นาย

แม้กองทัพจะมีความต้องการชายไทยที่สมัครใจเข้ามาเป็นทหาร เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ เข้ามาทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติและประชาชน แต่ยังขาดแรงจูงใจเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการที่ต่ำเรี่ยติดดิน จึงทำให้ยอดคนสมัครใจในแต่ละปีไม่ถึง 50% ของความต้องการ ในขณะทหารที่เกณฑ์เข้ามาก็ขาดคุณภาพ ติดยาเสพติดต้องนำไปบำบัด หรือมีปัญหาครอบครัว

แนวคิดการยกเลิกเกณฑ์ทหารของอนาคตใหม่ ที่หวังจะนำระบบสหรัฐอเมริกา หรือเยอรมนี มาใช้ ยังทำไม่ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากต้องพิจารณาปัจจัยภายในประเทศแล้ว เหตุการณ์นอกประเทศเป็นสิ่งต้องคิดถึง เช่นเดียวกับ สิงคโปร์ มีกฎหมายบังคับทุกคนต้องเกณฑ์ทหารเพราะเป็นประเทศขนาดเล็กและสถานการณ์ด้านความมั่นคงบนโลกไม่มีอะไรแน่นอน ส่วนกองทัพไทยอยู่แบบก้ำกึ่งมีทั้งระบบสมัครใจและเกณฑ์ไปพร้อมๆ กัน

ทั้งนี้ไม่ว่าพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาลและใครเป็นผู้นำประเทศ  กองทัพไทยจะเข้าสู่กองทัพในศตวรรษ 21 อย่างสมบูรณ์แบบตามยุทธศาสตร์วางไว้ในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการรบ เช่น การใช้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดน การใช้เอ็มไอ 17 ยกถุงบรรจุน้ำดับไฟป่า  ส่วนกำลังพลคัดเลือกบุคคลมีกำลังพลที่มีความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย จะส่งผลงบประมาณลดลง

‘กองทัพศตวรรษ 21’ ในมุมของอนาคตใหม่ กับกองทัพ ก็แค่เส้นบางๆ ขวางกั้น หากใช้เวทีสภาปรับจูนความคิดก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและส่วนรวม แต่หากใช้เวทีนี้หวังเอาชนะทางการเมือง หรือต้องการเพียงป้องกันรัฐประหารและให้กองทัพถอนตัวออกจากการแทรกแซงทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงและบริบทของประเทศ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ

Leave a comment