#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
https://www.posttoday.com/world/653627
วันที่ 23 พ.ค. 2564 เวลา 10:50 น.
กองทัพหันมาสวนกลับการทำอารยะขัดขืนของข้าราชการภาคส่วนต่างๆ เป้าหมายล่าสุดคือจัดการกับบุคลากรด้านการศึกษา
รอยเตอร์รายงานว่าครูโรงเรียนมากกว่า 125,000 คนในเมียนมาถูกทางการทหารสั่งพักงานเนื่องจากเข้าร่วมขบวนการอารยะขัดขืนเพื่อต่อต้านการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ครูเมียนมาร์กล่าว
การหยุดพักชั่วคราวมีขึ้นก่อนเปิดปีการศึกษาใหม่หลายวันซึ่งครูและผู้ปกครองบางคนร่วมกันคว่ำบาตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์อารยะขัดขืนที่ทำให้ประเทศเป็นอัมพาตนับตั้งแต่การรัฐประหาร
เจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ครูกล่าวซึ่งปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อเพราะกลัวการตอบโต้จากรัฐระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์ครูจำนวน 125,900 คนถูกสั่งพักงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เผยเรื่องนี้ก็มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ที่รัฐบาลทหารต้องการตัวเช่นกันในข้อหายุยงให้เกิดความบาดหมาง
ทั้งนี้ เมียนมามีครูในโรงเรียน 430,000 คนตามข้อมูลล่าสุดจาก 2 ปีที่แล้ว
“สิ่งทีเกิดขึ้นเป็นเพียงคำพูดเพื่อขู่ให้ผู้คนกลับมาทำงาน หากพวกเขาไล่คนจำนวนมากนี้จริงๆ ระบบทั้งหมดก็จะหยุดชะงัก” เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นอาจารย์กล่าว และเขาบอกว่าเขาได้รับแจ้งว่าข้อหาที่เขาเผชิญจะถูกยกเลิกหากเขากลับมาทำงาน
สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อโฆษกรัฐบาลทหารหรือกระทรวงศึกษาธิการเพื่อขอความคิดเห็นได้ หนังสือพิมพ์ Global New Light of Myanmar ที่ดำเนินการโดยรัฐได้เรียกร้องให้ครูและนักเรียนกลับไปที่โรงเรียนเพื่อเริ่มต้นระบบการศึกษาอีกครั้ง
การหยุดชะงักในโรงเรียนสอดคล้องกับการหยุดชะงักใตภาคสาธารณสุขและภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชนนับตั้งแต่ประเทศเมียนมาตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายจากการรัฐประหารและการจับกุมอองซานซูจีผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง
ตามรายงานของกลุ่มอาจารย์มีอาจารย์มหาวิทยาลัยประมาณ 19,500 คนถูกพักงานเช่นกัน
การลงทะเบียนเข้าเรียนจะเริ่มในสัปดาห์หน้าสำหรับภาคเรียนที่จะเริ่มในเดือนมิถุนายน แต่ผู้ปกครองบางคนกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะให้บุตรหลานอยุ่กับบ้านไปก่อน
“ฉันจะไม่ลงทะเบียนให้ลูกสาวของฉันเพราะฉันไม่ต้องการให้การปกครองแบบเผด็จการทหารให้การศึกษากับลุกของฉัน ฉันยังกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกด้วย” มยินต์วัย 42 ปีซึ่งมีลูกสาวอายุ 14 ปีกล่าว
นักเรียนซึ่งเป็นแนวหน้าของการประท้วงประจำวันซึ่งมีผู้คนหลายร้อยคนถูกสังหารโดยกองกำลังความมั่นคงกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะคว่ำบาตรชั้นเรียนด้วย
“ผมจะกลับไปโรงเรียนก็ต่อเมื่อเราได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา” ลวินอายุ 18 ปีกล่าว
ระบบการศึกษาของเมียนมาเป็นระบบการศึกษาที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคและติดอันดับ 92 จาก 93 ประเทศในการสำรวจทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว
แม้จะอยู่ภายใต้การนำของซูจีซึ่งมีการสนับสนุนด้านการศึกษา แต่งบประมาณด้านนี้ก็ต่ำกว่า 2% ของจีดีพีถือเป็นหนึ่งในอัตราที่ต่ำที่สุดในโลกตามตัวเลขของธนาคารโลก
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติที่ตั้งขึ้นโดยฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลทหารกล่าวว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อสนับสนุนครูและนักเรียนโดยเรียกร้องให้ผู้บริจาคจากต่างประเทศยุติการให้เงินทุนแก่กระทรวงการศึกษาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลโดยรัฐบาลทหาร
“เราจะทำงานร่วมกับนักการศึกษาของเมียนมาที่ปฏิเสธที่จะสนับสนุนทหารที่โหดร้าย” ดร. ซาซา โฆษกของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติกล่าวในอีเมลถึงรอยเตอร์ “ครูผู้ยิ่งใหญ่และครูผู้กล้าเหล่านี้จะไม่มีวันถูกทิ้ง”
Photo by Handout / FACEBOOK / AFP