#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/likesara/621922

วันอังคาร ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
nn…ยังคงทำงานไม่มีวันหยุดเช่นเคย สำหรับรมต.หนุ่มไฟแรง “ท็อป–วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ล่าสุดลุยเหนือเตรียมการรับมือสภาพอากาศแล้ง ฝุ่นควันไฟป่าที่จะมาถึงในปีหน้า 2565 ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หมุนเวียน เริ่มจากหน้าหนาวอากาศแห้ง ฝุ่น PM2.5 ก็มาเยือน ถัดไปก็หน้าแล้งหน้าร้อน ควันไฟป่า ก็จะเกิดขึ้นเป็นปัญหาที่ไทยต้องเผชิญทุกปี …งานนี้ รมต.ท็อปก็ขอลุยเตรียมการแก้ไขก่อนไม่ต้องรอให้ปัญหาเกิด เดินสายขึ้นไปเชียงใหม่ ตรวจความพร้อมมาตรการป้องกันแก้ไขไฟป่า หมอกควัน ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ และเดินหน้าสานต่อโครงการที่ช่วยให้การลดไฟป่าสำเร็จในปีที่ผ่านมาคือ โครงการ “ชิงเก็บ ลดเผา” ที่บูรณาการกับภาคเอกชน-ประชาชน เก็บวัสดุธรรมชาติ ที่ก่อให้เกิดไฟป่า นำมาขายเป็นเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม สร้างรายได้ให้ชุมชน ซึ่งสำเร็จงดงาม รมต.ท็อปก็ให้ทำต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าหมายการเก็บเชื้อเพลิงปีนี้ ไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน รวมทั้งการใช้แอปพลิเคชั่น Burn Check บริหารจัดการเชื้อเพลิง จำกัดปริมาณฝุ่นควันจากการเผาซากการเกษตรต่อวัน ด้วยระบบจองคิว
สำหรับการป้องกันแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รมต.ท็อปก็เดินหน้าตามแผนเฉพาะกิจแก้ปัญหามลพิษ หมอกควันและฝุ่นละออง ปี 2565 ด้วยมาตรการ 1 สื่อสาร 5 ป้องกัน 3 เผชิญเหตุที่เตรียมเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 นี้ ก่อนนำเข้า ครม.รับทราบ …ส่วนปัญหาไฟป่า หมอกควัน ในภาคใต้ โดยเฉพาะป่าพรุควนเคร็ง และพรุโต๊ะแดง เจ้าตัวเน้นให้ตรวจ รักษาระดับน้ำในป่าพรุ พร้อมกำหนดแผนรับมือ และเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ ยานพาหนะตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญคือ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ รมต.ท็อปมั่นใจว่า ปี 2565 สถานการณ์ฝุ่นหมอกควันไฟป่าจะดีขึ้นกว่าปี 2564 จุดความร้อน (Hot spot) จะลดลงได้อีกร้อยละ 20 เพราะมีการรณรงค์สร้างความร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการลาดตระเวนเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ ทส.เอง รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ผ่านองค์กรอาเซียน เพื่อให้การแก้ปัญหาดังกล่าวสำเร็จยั่งยืน…ก็ต้องติดตามผลงานการแก้ปัญหาฝุ่นหมอกควันไฟป่ากันต่อไป จะสำเร็จผลมากน้อยแค่ไหน แต่เห็นรมต.ท็อปแข็งขันตระเตรียมการ ซักซ้อมความพร้อมมาแต่เนิ่นๆแบบนี้ ก็เชื่อว่าจะรับมือมลพิษ บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้มากทีเดียว ที่สำคัญถ้าพ่อแม่พี่น้องช่วยลดละเลิกการเผาได้ ปัญหาคงไม่หนักหนาสาหัสเป็นแน่…nn