ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/560620
โดย สะ-เล-เต 11 ม.ค. 2559 05:01

ปี 2558 ไทยส่งออกลำไยสดไปได้ 251,042.54 ตัน มูลค่า 5,697.48 ล้านบาท น้อยกว่าปี 2557 ที่ส่งออกไปได้มากถึง 357,206 ตัน เงินทองไหลเข้าประเทศหดหายไป 1,763 ล้านบาท
สาเหตุสำคัญมาจากลูกค้าขาใหญ่ลำไยไทย ไม่ว่าจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ตรวจพบสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างในลำไยส่งออก ที่ถูกนำมาใช้รมลำไยสดไม่ให้เน่าเสียเร็ว มีปริมาณเกินมาตรฐาน สินค้าเลยถูกตีกลับ
ที่ผ่านมา แม้หลายหน่วยงานจะพยายามเข้ามาร่วมด้วยช่วยแก้ไข นำลำไยไปแช่น้ำเกลือก่อนนำเข้าตู้อบ ใช้เทคโนโลยีการอบในรูปแบบใหม่…แต่ยังไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติในกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ให้เป็นมาตรฐานครั้งแรกของประเทศไทย ใช้สำหรับผลไม้…จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 พ.ค.2559 เป็นต้นไป
“ฉะนั้น ในช่วงเวลานี้ผู้ประกอบการโรงรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ทั่วประเทศกว่า 110 แห่ง ต้องเร่งปรับตัวและเตรียมพร้อม ยื่นเรื่องขออนุญาตกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ขณะเดียวกันต้องขอการตรวจรับรองจากกรมวิชาการเกษตร หรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานที่ มกอช.กำหนด ภายใน 4 พ.ค.นี้ด้วยเช่นกัน”
นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการ มกอช. ฝากเตือนผู้ประกอบการโรงรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกผลไม้ โดยเฉพาะลำไย ต้องเร่งปรับปรุงโรงรม ห้องรม ระบบบำบัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ให้เป็นไปตามข้อกำหนดและหลักปฏิบัติในมาตรฐานฯอย่างถูกต้องและถูกวิธี เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในรอบกลางปี 2559 ได้ทัน
จะช่วยให้การส่งออกลำไยสดผ่านฉลุย ไม่ถูกตีกลับเหมือนปีที่ผ่านมา
ผู้ประกอบการสามารถขออนุญาตทาง online ได้ที่ tas.acfs.go.th หรือติดต่อกองควบคุมมาตรฐาน มกอช. 0-2579-4140, 0-2561-2277 ต่อ 1710 หรือ 1712 ในวันเวลาราชการ.
สะ–เล–เต