สหกรณ์พังเพราะใคร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/557897

โดย สะ-เล-เต 5 ม.ค. 2559 05:01

 

การผลักดันสหกรณ์ให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เข้มแข็งและยั่งยืน ดูจะเป็นความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หน.คสช. ไม่ว่าภารกิจใดถ้าเกี่ยวข้องกับเกษตรกร เป็นต้องหนุนให้สหกรณ์รับช่วงต่อ

ความตั้งใจนี้ถ้าเป็นไปได้จริง ย่อมส่งผลดีต่อเกษตรกรฐานรากอย่างแน่นอน แต่ในทางปฏิบัติจะเป็นไปได้หรือ…ระบบสหกรณ์ไทยมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน เป็นโจทย์ใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไขปริศนาให้ถูกจุด

วันนี้สหกรณ์ไทย โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตร สถานะทางบัญชีสุ่มเสี่ยงล้มละลาย มีหนี้ล้นพ้นตัว…หลายปีมาแล้ว ไม่เคยจะมีเงินปันผลกำไรให้สมาชิกได้ แล้วจะให้ไปรับภารกิจอะไรได้มากมาย

ที่สำคัญหนี้ที่ได้มา ไม่ใช่มาจากสหกรณ์ดำเนินธุรกิจผิดพลาดแต่อย่างใด…แต่เป็นหนี้ที่ถูกจับยัดมาให้แบบสอดไส้ ถูกหลอกให้เป็นหนี้

หลังวิกฤติต้มยำกุ้ง เศรษฐกิจประเทศย่ำแย่ มีเงินโครงการช่วยเหลือจากต่างประเทศมากมาย หนึ่งในนั้น โครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตรหรือ ASPL ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยรัฐบาลในปี 2544

ให้การสนับสนุนโรงสีขนาด 40 ตัน/วัน มูลค่า 8.77 ล้าน และไซโลเก็บข้าวเปลือกขนาด 250 ตัน มูลค่า 3.69 ล้านบาทแก่สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ที่มีการปลูกข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก

สหกรณ์ไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆ รัฐบาลหามาให้หมดทุกอย่าง ถึงแม้โครงการจะมีชื่อว่า เป็นเงินกู้ แต่จริงๆไม่ใช่ เพราะไม่มีดอกเบี้ย และสหกรณ์ไม่ต้องผ่อนชำระคืนให้รัฐบาล…เพียงแต่เมื่อกิจการโรงสีและไซโลเดินหน้าไปได้ สหกรณ์มีรายได้ให้ทยอยส่งคืนใน “รูปเงินบริจาค” เข้ากองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.)

สหกรณ์ต่างดีใจจะได้โรงสีและไซโล เข้าร่วมโครงการกันทุกภาคทั่วไทย เฉพาะเชียงรายจังหวัดเดียวได้มา 7 แห่ง การก่อสร้างเริ่มปี 2544 เสร็จพร้อมใช้งานปี 2545-6

แต่แทนที่จะช่วยให้สหกรณ์มีรายได้ มีกำไรมาปันผลให้เกษตรกรสมาชิก กลับกลายเป็นได้หนี้แทบล้มละลายมากว่า 10 ปี จนถึงทุกวันนี้

เหตุไฉนเรื่องราวถึงกลับตาลปัตร จากช่วยกลายเป็นกระทืบซ้ำ… ติดตามฉบับพรุ่งนี้.

สะ–เล–เต

Leave a comment