ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/198145
การเสนอชื่อสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ตามมติการประชุมแบบลับๆ ล่อๆ ของมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ปัญหาสำคัญไม่ได้อยู่ที่หลักกฎหมายหรือตัวบุคคล แต่อยู่ที่หลักการแห่งความถูกต้องชอบธรรมนั่นคือผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขแห่งสงฆ์ควรจะเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีวัตรปฏิบัติที่สะอาดหมดจดสง่างามไม่มีเรื่องด่างพร้อย
การที่ สมเด็จช่วง และมส.ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นยุคผีโม่แป้งปกป้องธัมมชโย เจ้าสำนักจานบิน ซึ่งเป็นศิษย์ สมเด็จช่วง อันเป็นการขัดพระบัญชาของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่ชี้ขาดให้ ธัมมชโย ปาราชิกพ้นความเป็นสงฆ์ตั้งแต่ปี 2542
ที่สำคัญล่าสุดนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)สอบสวนกรณีรถหรูโบราณนับสิบคันของ สมเด็จช่วง ภายในวัดปากน้ำ ซึ่งมีข่าวว่าเป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
หลังจากที่ นายไพบูลย์ ไปยื่นเรื่องต่อดีเอสไอปรากฏว่าลูกศิษย์สายวัดปากน้ำออกมาตอบโต้ทันทีอ้างว่า รถหรูโบราณดังกล่าวมีผู้บริจาคให้ สมเด็จช่วง และมีการนำไปตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์รถโบราณภายในวัดปากน้ำ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า การสะสมรถหรูโบราณควรเป็นกิจของสงฆ์ที่ละแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง และวัดควรเป็นสถานที่ตั้งพิพิธภัณฑ์รถหรูโบราณ หรือควรใช้เป็นสถานที่ให้เกิดประโยชน์ต่อการเผยแผ่พุทธศาสนาในด้านอื่นๆ
อีกทั้งรถหรูโบราณเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยไม่ใช่ปัจจัยอันจำเป็นสำหรับสงฆ์แม้แต่น้อย คำถามก็คือทำไมมีผู้บริจาครถหรูโบราณให้แต่เฉพาะ สมเด็จช่วง เป็นจำนวนมากทำให้เกิดข้อสงสัยว่าหรือผู้บริจาคจะรู้ว่าสมเด็จช่วง ชอบสะสมรถหรูโบราณ
ทั้งนี้ไม่ว่ารถหรูจำนวนมากมายเหล่านี้จะมีผู้บริจาคให้ หรือสมเด็จช่วงใช้เงินวัดจัดหามาเพื่อสะสมด้วยรสนิยมส่วนตัวก็ตามก็ถือเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมสำหรับพระเถระผู้ใหญ่ซึ่งได้รับการเสนอชื่อขึ้นเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือข่าวที่มีการระบุว่ารถหรูเหล่านี้เป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จนมีการร้องเรียนที่ดีเอสไอ ดังนั้นควรให้ดีเอสไอรีบตรวจสอบเรื่องนี้ให้เกิดความกระจ่างตรงไปตรงมาว่ารถหรูโบราณจำนวนมากเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรและถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยดีเอสไอต้องทำหน้าที่โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น
ตำแหน่งประมุขสงฆ์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดจึงควรถูกตรวจสอบความสะอาดโปร่งใสในทุกเรื่องโดยเฉพาะทรัพย์สินวัดปากน้ำมูลค่ามหาศาลเพื่อพิสูจน์ความสง่างามของ สมเด็จช่วงเอง
ทั้งนี้ เพียงแค่พระเถระผู้ใหญ่ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นพระสังฆราชพัวพันเรื่องอื้อฉาวถึงขั้นเป็นคดีความถือเป็นความด่างพร้อย และยิ่งหากผลสอบของดีเอสไอชี้ว่ารถหรูโบราณของสมเด็จช่วงมีที่มาที่ไปไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ถือเป็นความไม่สง่างามอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประมุขแห่งสงฆ์ที่ควรมีวัตรปฏิบัติที่ใสสะอาดและสละแล้วซึ่งความอยากทั้งปวง
ทีมข่าวการเมือง