ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/195435
ย้อนรอย 2 คดีตัวอย่างที่สะท้อนความชั่วร้ายโดยระบอบแม้วส่งท้ายปีเก่าก็คือคดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายนักสิทธิมนุษยชนและประธานชมรมทนายเพื่อชาวมุสลิมตั้งแต่เมื่อ 12 ปีที่แล้ว และคดีก่อการร้ายเผาประเทศเมื่อปี 2553
ในคดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย แม้ศาลฎีกาจะปิดฉากคดีนี้ด้วยการตัดสินว่า ตำรวจที่เป็นจำเลยพ้นผิด แต่ก็สร้างความกังขาให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรวมทั้งความผิดหวังของ นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชาย ที่ตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการชั้นต้นของประเทศล้มเหลวสิ้นเชิงจากการที่ตำรวจทำสำนวนการสอบสวนอ่อนจนจำเลยซึ่งเป็นตำรวจด้วยกันทั้งหมดพ้นผิดลอยนวล
ทนายสมชาย ถูกอุ้มตัวหายสาบสูญไปตั้งแต่เมื่อปี 2547 ยุครัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้นโยบายกำปั้นเหล็กที่เด็ดขาดรุนแรงกับชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยมีชาวไทยมุสลิมจำนวนมากถูกทีมพระกาฬเฉพาะกิจสีกากีจากส่วนกลางอุ้มหายหรือถูกทารุณกรรม ซึ่งก่อนหน้าที่ ทนายสมชาย จะถูกอุ้มได้ช่วยเหลือว่าความให้กับครอบครัวชาวไทยมุสลิมที่ตกเป็นเหยื่อ ท่ามกลางข่าวลือสะพัดขณะนั้นว่า การอุ้ม ทนายสมชาย เป็นคำสั่งเก็บจากทำเนียบรัฐบาล
ผลจากการอุ้ม ทนายสมชายรวมทั้งชาวไทยมุสลิมจำนวนมาก ตลอดจนโศกนาฏกรรมการสลายการชุมนุมของชาวไทยมุสลิมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย คือชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ไฟก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ลุกโชนสร้างความเสียหายแก่ชาติอย่างร้ายแรงมาจนทุกวันนี้
ส่วนคดีก่อการร้ายเผาบ้านทำลายชาติปี 2553 ล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สรุปผลการตรวจสอบว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก พ้นความผิดในการสั่งกระชับพื้นที่สลายม็อบเสื้อแดง
เบื้องหลังความจริงเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาชาติเมื่อปี 2553 เป็นเรื่องที่รู้กันทั้งประเทศและทั่วโลกอยู่แล้วว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของระบอบแม้วที่พยายามล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์หวังช่วงชิงอำนาจรัฐ โดยพยายามสุมไฟสงครามกลางเมืองด้วยการก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาตั้งเมื่อปี 2552 แต่ล้มเหลวจนปีถัดมาก็เริ่มสร้างสถานการณ์ที่รุนแรงยิ่งขึ้นด้วยการก่อการร้ายให้เกิดการนองเลือดเต็มรูปแบบเริ่มจากการลอบก่อวินาศกรรมด้วยระเบิดและอาวุธสงครามนานาชนิดในพื้นที่ชุมชนทั่วกทม. ค่ายทหารแทบจะรายวันจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และสร้างสถานการณ์สงครามขั้นแตกหักจากการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงที่ย่านราชประสงค์ขณะที่มีกองกำลังก่อการร้ายชุดดำที่มีอาวุธร้ายแรงนานาชนิดปะปนอยู่ในม็อบเสื้อแดง โดยจุดชนวนสงครามกลางเมืองโดยเฉพาะที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ทำให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และทหารตายทันที 5 ศพ และยังมีทหารตลอดจนประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
เหยื่อก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 เกือบ 100 ศพเกือบทั้งหมดเกิดจากการสร้างสถานการณ์ของขบวนการระบอบแม้วแทบทั้งสิ้น แต่กลับมีการบิดเบือนจากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำอ้างว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์และทหารฆ่าประชาชน แต่ถึงอย่างไรคนชั่วก็หนีกฎแห่งกรรมไปไม่พ้นโดยคดีก่อการร้ายเผาประเทศปี 2553 พวกที่ก่อกรรมไว้กับชาติบ้านเมืองกำลังจะต้องชดใช้กรรมในอนาคตอันไม่นานนักจากสำนวนคดีที่ถูกรื้อใหม่หลังถูกบิดเบือนโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว
นี่แค่ตัวอย่าง 2 คดีอัปยศทำลายชาติบ้านเมืองอันเกิดจากความชั่วร้ายของระบอบแม้วอย่างยากที่จะให้อภัย
ทีมข่าวการเมือง