ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/568721
โดย เกรียงศักดิ์ จุนโนนยางค์ 28 ม.ค. 2559 05:01

ข่าวการพบชิ้นส่วนเหล็กลอยมาเกยหาดที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เกิดประกายความหวัง ขึ้นมาอีกระลอกว่าอาจเป็นชิ้นส่วนเครื่องบินโดยสารสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ที่สูญหายไปพร้อมคนบนเครื่อง 239 คน ระหว่างการบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของ มาเลเซีย มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่งของจีน เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน และยังค้นหากันอย่างต่อเนื่องมาตลอด
เพราะก่อนหน้านี้ก็มีพบชิ้นส่วนปีกเครื่องบิน เกยชายหาดเกาะเรอูนียง ดินแดนอาณานิคมโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งทั้งมาเลเซียและอัยการฝรั่งเศสต่างบอกว่าเป็นชิ้นส่วนเที่ยวบินเอ็มเอช 370 แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็เริ่มเงียบไป
สำหรับชิ้นส่วนที่พบในไทย มีข่าวมาอีกทางจากบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ ของญี่ปุ่น บอกว่า น่าจะเป็นของจรวดรุ่นเอช—ไอไอเอ (H-IIA) หรือเอช-ไอไอบี (H-IIB) ที่ถูกปล่อยขึ้นจากฐานทางใต้ของญี่ปุ่น
จรวดทั้ง 2 รุ่น ญี่ปุ่นทำการปล่อยตั้งแต่ทศวรรษปี 2000 การปล่อยครั้งล่าสุดอยู่ในช่วงเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว
ขณะที่การค้นหาที่มีออสเตรเลียเป็นหัวหอก ในพื้นที่ทางใต้มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ตก ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่องนับแต่เริ่มจับต้นชนปลายหาข้อมูลจากดาวเทียมและเรดาร์ยืนยันจนมั่นใจ นายเหลียว เตียง ไหล รมว.คมนาคมของมาเลเซีย ออกมาบอกความคืบหน้าการค้นหาว่าการค้นหา ระยะที่ 2 คาดว่าจะแล้วสิ้นภายในเดือน มิ.ย.และก็ต้องติดตามผลกันไป
แต่การตีวงค้นหาพื้นที่ก้นทะเลรวม 120 ตร.กม. ที่เชื่อว่าเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ตก ยังเจอ ปัญหาเพิ่มซ้ำเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่ออุปกรณ์โซนาร์ค้นหาวัตถุใต้น้ำที่ติดกับเรือ 1 ใน 3 ลำที่ร่วมปฏิบัติการค้นหา เกิดติดภูเขาไฟดินโคลนที่สูงตระหง่านจากก้นทะเลขึ้นมา 2,200 เมตร และหลุดขาดจากตัวเรือพร้อมสายเคเบิลบางส่วน จึงต้องกลับเข้าฝั่ง ซึ่งใช้เวลาเดินเรือ 6 วัน เพื่อมาเอาสายเคเบิลใหม่แล้วค่อยกลับไป ค้นหาต่อด้วยเครื่องโซนาร์สำรองแทนต่อไป
แม้จะเป็นความคืบหน้าที่ไม่คืบหน้า แต่ก็ต้องพยายามค้นหากันต่อไป เพราะมันคือ ความหวังของญาติมิตรผู้สูญเสีย ที่ยังรอรับรู้รับฟังชะตากรรมของบุคคลอันเป็นที่รักที่สูญหาย อยู่เสมอ.
เกรียงศักดิ์ จุนโนนยางค์