ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/577578
โดย คุณนิติ นวรัตน์ 16 ก.พ. 2559 05:01

ตอนนี้ กรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่อื่นๆ มีผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะอยู่เป็นจำนวนมากทุกเมือง ผมเคยสนทนากับท่านเหล่านั้น บางท่านไม่มีบ้านอาศัยและต้องกลายเป็นผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ กลายเป็นคนเร่ร่อน เพราะถูกไล่ที่ดิน แพ้คดีความ บางท่านติดสุราจนครอบครัวไม่สามารถดูแลได้ บางท่านพ้นโทษออกมาจากเรือนจำแล้วไม่มีที่ไป บางท่านป่วย ไม่มีญาติพี่น้องพาไปรักษา บางท่านมีอาการผิดปกติทางสมอง ฯลฯ
จำนวนไม่น้อยที่ขายที่ดินในต่างจังหวัด และมาหางานใน เมืองทำ วันหนึ่งก็ตกงาน หรือทำงานที่มีรายได้ไม่พอค่าเช่าห้องพัก ก็ต้องกลายมาใช้ชีวิตเร่ร่อน นอนในที่สาธารณะ
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองของหลายประเทศปราบปรามผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะที่เข้าไปกีดขวางอยู่ในที่สาธารณะโดยไม่ได้ รับอนุญาตด้วยวิธีรุนแรง แม้แต่ในบ้านเมืองของเรา ท่านไปแอบดูเถิดครับ ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะบางคนถูกปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ บางครั้ง เราเห็นโดยบังเอิญ เราก็ยังทนไม่ได้ ต้องลงรถไปปะทะวาจาอย่างรุนแรงกับเจ้าหน้าที่
เหตุผลที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมักจะอ้างเพื่อไม่ช่วยเหลือผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะก็คือ ไม่มีงบประมาณ เรื่องอย่างนี้หลายประเทศแก้ไขด้วยการมี “กฎหมายคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง” บางเมืองนายกเทศมนตรีก็ใจกล้าประกาศให้ “การดูแลกลุ่มผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะเป็นภาวะฉุกเฉิน”
สิ่งหนึ่งซึ่งผมอยากให้กรุงเทพมหานครทำก็คือ การประกาศให้การดูแลกลุ่มผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะเป็นภาวะฉุกเฉิน ประกาศไปเลยครับ ไม่ต้องอายดอกครับ ผู้นำมหานครบางคนอายไม่กล้าประกาศ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมองว่ามหานครของตนเองมีภาพ–ลักษณ์ไม่ดี มีคนเร่ร่อนเยอะ มีคนจนเมืองที่ไม่มีที่อยู่เป็นจำนวน มาก ผมว่าไม่น่าอายเลยครับ แถมยังจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีเสียอีก ที่ท่านยอมรับ ว่ามหานครของท่านมีปัญหา และคิดวิธีการที่จะเข้าไปช่วยเหลือ
การประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ ทำให้ผู้นำรัฐบาลระดับประเทศ ผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นรู้ถึงปัญหา ผู้คนทั่วไปก็จะได้ให้ความสนใจเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ทุกคนจะได้เข้าไปช่วยกันแก้ไข
21 กันยายน 2558 มหานครลอสแอนเจลิสของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินในการแก้ไขปัญหาผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ ทำให้นายกเทศมนตรีกล้าอนุมัติงบประมาณ 13 ล้านดอลลาร์เพื่อทำเป็นที่อาศัยชั่วคราวให้คนเหล่านี้ และขยายเวลาให้เข้าพักเพิ่มได้อีก 2 เดือนในช่วงฤดูหนาว การประกาศฯ ทำให้โบสถ์ องค์กรสาธารณะกุศล และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมด้วยช่วยกันให้ความช่วยเหลือ ต่อมา มหานครลอสแอนเจลิสใช้งบประมาณอีก 100 ล้านดอลลาร์ สร้างที่พักถาวรเพื่อช่วย บรรเทาเบาบางปัญหาของผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะเหล่านี้
7 ตุลาคม 2558 เมืองพอร์ตแลนด์ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินฯแบบเดียวกับมหานครลอสแอนเจลิสทำ ทำให้สภาของเมืองพอร์ตแลนด์ กล้าอนุมัติงบประมาณเพื่อทำโครงการนำร่องจัดที่พักอาศัยชั่วคราวให้กับผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ
พี่ชายของผม นายเนติภูมิ นวรัตน์ ไปเรียนปริญญาตรีที่ฮาวายของสหรัฐฯ ในห้วงเวลาเกือบ 6 ปีนั้น พวกเราน้องๆ ทุกคน ก็ได้เวียนกันไปใช้ชีวิตอยู่ในที่พักของพี่ชายที่ฮาวาย สิบกว่าปีที่แล้ว ฮาวายยังไม่มีปัญหากลุ่มผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ แต่หลังจากเกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจการให้กู้อสังหาริมทรัพย์เกิดในสหรัฐฯ เมื่อกันยายน 2551 ฮาวายเริ่มมีปัญหานี้
พ.ศ. 2558 ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในฮาวายมีมากถึง 7,620 คน จำนวน 50% ของผู้คนกลุ่มนี้ ไม่มีที่ซุกหัวนอน ไม่มีแม้แต่ที่พักอาศัยชั่วคราว
ตุลาคม 2558 ฮาวายจึงประกาศ “ภาวะฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ” ประกาศปุ๊บ ก็มีการอนุมัติเงิน 1.3 ล้านดอลลาร์ปั๊ป เพื่อเอาไปช่วยให้คนพวกนี้สามารถอยู่ในบ้านญาติไปพลางๆ โดยไม่ต้องไปรบกวนการเงินของญาติ เพื่อสามารถ ให้เงินคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านพอเพียง
อยากให้ กทม.ช่วยผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะเหล่านี้จริงจังครับ.
คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand