ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/578079
โดย คุณนิติ นวรัตน์ 17 ก.พ. 2559 05:01

โรงเรียนภูเก็ตไทยหัวอาเซียนวิทยา จัดงาน THAIHUA OPEN HOUSE และเชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “เตรียมการศึกษาให้ลูกอย่างไร เพื่อมุ่งสู่สากล” เวลา 14.30-16.30 น. พุธวันนี้ ที่ห้องเรียนรู้ครูสุ่นปิ่นของโรงเรียนฯ จ.ภูเก็ต
มีผู้อ่านท่านถามมาว่า เมืองหลวงของมาเลเซีย คือเมืองใดกันแน่? ระหว่างกัวลาลัมเปอร์กับปุตราจายา ผมดูจากข้อมูลรัฐบาลมาเลเซีย บอกว่ายังเป็นกรุงกัวลาลัมเปอร์ ส่วนปุตราจายาเป็นเมืองใหม่ที่ใช้เป็นศูนย์กลางรัฐบาล อยู่ทางตอนใต้ของกัวลาลัมเปอร์ 25 กิโลเมตร ห่างจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศ 20 กิโลเมตร
ผมไปเยือนปุตราจายาหลายครั้ง ยอมรับว่านี่เป็นวิสัยทัศน์ชั้นยอดของรัฐบาลของ ดร.มหฎีร มุฮำหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เนรมิตเมืองใหม่ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางบริหารและปกครองแยกไปจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ทำให้กรุงกัวลาลัมเปอร์เป็นมหานครที่หลวมและแก้ไขปัญหาการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้อ่านท่านที่เคารพจำนวนไม่น้อยก็คงจะเคยไปเยือนปุตรา-จายานะครับ ที่นั่นมีที่ทำการหลักของรัฐบาล มีอาคารกระทรวง ทบวง กรม เป็นเรื่องเป็นราว มีสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา ศูนย์การค้า สนามกีฬา ที่อยู่อาศัยของราชการและพนักงาน ฯลฯ ไอเดียการสร้างเมืองใหม่ก็เน้นให้เป็นเมืองในสวน จึงมีที่โล่งแจ้งและสวนสาธารณะอยู่เยอะ
ปุตราจายามีถนนหลักที่มีความยาว 4.2 กิโลเมตร ใช้เดินสวนสนามในงานรัฐพิธีและเฉลิมฉลอง อาคารต่างๆของเมืองสร้างอยู่บนเนิน ทำเนียบรัฐบาลเรียกว่า เปอร์ดานาปุตรา ส่วนยอดมีลักษณะ เหมือนรูปโดมของมัสยิด ปุตราจายาเป็นเมืองที่ไม่มีโรงงานแม้แต่โรงเดียว มีการวางผังเมืองที่ทันสมัยที่สามารถรองรับการขยายตัวอย่างใหญ่ได้ในอนาคต และถูกออกแบบให้เป็นเขตการปกครองพิเศษ
รัฐบาลอินโดนีเซียก็กำลังคิดเรื่องย้ายเมืองหลวง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่แออัดยัดเยียด ตอนนี้มี 2 แนวทาง คือย้ายออกจากกรุงจาการ์ตาไปอยู่เมืองใหม่แบบเดียวกับที่ออสเตรเลียย้ายจากนครเมลเบิร์นไปอยู่กรุงแคนเบอร์รา หรือย้ายไปทั้งหมดแบบเดียวกับนครอิสตันบูล (นครคอนสแตนติโนเปิล) ที่เป็นเมืองหลวงตุรกีมานานถึง 1,610 ปี โดยย้ายไปกรุงอังการา ซึ่งเป็นเมืองหลวงใหม่ที่มีสองส่วน ส่วนแรก สร้างใหม่ทั้งหมดเลย ทั้งที่ทำการของรัฐบาล อาคารรัฐสภา มหาวิทยาลัย สถานทูต ฯลฯ ส่วนนี้เรียกว่า เยนีเชฮีร์ ส่วนอีกส่วนหนึ่งเรียกว่าอูลุส เป็นเมืองเก่าที่สร้างตั้งแต่ก่อนยุคจักรวรรดิออตโตมัน
ประเทศที่ย้ายเมืองหลวง เพื่อเปลี่ยนฮวงจุ้ยประเทศก็คือเมียนมาครับ โดยย้ายจากนครย่างกุ้งไปยังกรุงเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2548 หรือเมื่อ 11 ปีที่แล้ว พ่อผมน่าจะเป็นคณะแรกจากประเทศไทยที่เดินทางด้วยรถยนต์จากนครย่างกุ้งไปเยือนกรุงเนปิดอว์ มีคนบอกว่ารัฐบาลเมียนมาในสมัยนั้นย้ายเอาเคล็ด เพราะย่างกุ้งเป็นเมืองที่ตั้งโดยอังกฤษ ตั้งแต่เมืองหลวงอยู่ที่ย่างกุ้ง เมียนมาก็ถูกฝรั่งมังค่าเตะไปเตะมา
หลังจากย้ายมาอยู่ที่กรุงเนปิดอว์ ความสัมพันธ์ระหว่างเมียนมากับประเทศตะวันตกและประเทศต่างๆในโลกนี้ก็ดีขึ้นอย่างที่ไม่มีใครเคยคาดกันมาก่อน
เนปิดอว์ตั้งอยู่ในเขตเปียงมนาที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา มีพื้นที่ 4,600 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าสิงคโปร์ถึง 10 เท่า ถ้าเรียกราชธานี ใหม่ของเมียนมาแบบเต็มก็จะต้องเรียกว่า เปียงมนา-เนปิดอว์
ที่จริงประเทศไทยก็เคยมีแผนที่จะย้ายเมืองหลวงไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งมีภูมิประเทศแบบเดียวกับเปียงมนาของเมียนมา มีชัยภูมิเหมาะสมที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและป่าทึบ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคเหนือ ภาคอีสาน และกรุงเทพฯ
จอมพล ป.พิบูลสงคราม เกณฑ์คนมาสร้างเมืองหลวงใหม่นับแสนคน ย้ายผู้คนมาตั้งถิ่นฐานที่เพชรบูรณ์ ย้ายส่วนราชการไปตั้งที่เพชรบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ เช่น กระทรวงการคลัง ตั้งที่ ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก ได้ขนย้ายพระคลังสมบัติ ทรัพย์สินของชาติไปไว้ที่นี่ มีการสร้างกระทรวงยุติธรรมที่ ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก กระทรวงเกษตรที่ ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุขก็สร้างกันทั้งนั้น โรงเรียนนายร้อย จปร. ก็ย้ายไปตั้งที่บ้านป่าแดง เรียกว่าโรงเรียนนายร้อยป่าแดง ฯลฯ
จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม เสนอ พ.ร.บ.กำหนดระเบียบราชการบริหารนครบาลเพชรบูรณ์ พ.ศ.2487 ต่อสภาผู้แทนราษฎร แต่สภาฯ ไม่อนุมัติด้วยคะแนน 48 ต่อ 36 ด้วยเหตุผลที่ว่าเพชรบูรณ์เป็นแดนกันดาร ภูมิประเทศเป็นป่าเป็นเขา ฯลฯ
ทำให้การย้ายเมืองหลวงของไทยทำไม่สำเร็จ.
คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand